วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่ม 15 สมบัติประมาณค่ามิได้ – ตอนที่ 8 อันตรายมากมาย


เล่ม 15 สมบัติประมาณค่ามิได้ – ตอนที่ 8 อันตรายมากมาย
 “เทพชั้นสูง!
ลินลี่ย์เล็ดลอดออกไปได้เหมือนนกบินหนีไปตามแรงระเบิดจากพลังดาบในขณะเดียวกันดาบหนักอดาแมนเทียมปรากฏในมือของเขา  เขากวัดแกว่งราวกับว่าไม่มีน้ำหนักและฟันออกไป... รังสีดาบสีเหลืองน้ำตาลยาวถูกยิงออกไป
 
พลังโจมตีแก่นธาตุชีพจรดิน
นี่คือพลังโจมตีธาตุหยาบที่พัฒนาขึ้นหลังจากหลอมรวม แก่นธาตุดิน และ ชีพจรโลก โดยจะพึ่งพาแก่นธาตุดินและมีชีพจรโลกเป็นส่วนหนุนเสริม
เทียบกับดาบคลื่นสลายแล้วจะตรงกันข้าม  ดาบคลื่นสลายจะอาศัยชีพจรโลกเป็นหลัก  ขณะที่แก่นธาตุดินเคล็ดหนุนเสริม
 “ปัง!
พลังทั้งสองปะทะกันและแรงระเบิดรุนแรงสะท้อนกลับไปที่ทั้งสองคน  ลินลี่ย์ยืมพลังสะท้อนถอยหลังและหนีไป ขณะบุรุษหนุ่มผมทองถอยไปไม่กี่ก้าว  เขาจ้องมองลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ  “ดาบทรงพลังจริงๆ  เทพแท้มีพลังแข็งแกร่งอย่างนั้นเชียวหรือ”
บุรุษหนุ่มผมทองไม่โกรธ แต่เขากลับดีใจ
เทพแท้เหล่านี้ไม่สนใจจะฆ่าอสูรระดับเทพแท้สักเท่าไหร่นัก  แต่ตอนนี้เทพชั้นสูงผู้นี้ทำแล้ว   แค่เพียงการใช้ดาบอย่างเดียว ลินลี่ย์ก็มีคุณสมบัติคุกคามเขาให้ต้องใช้พลังต่อสู้ที่จริงจัง
 “ควั่บ” เทพชั้นพุ่งขึ้นไปเหมือนลูกธนูด้วยความเร็วสูงไล่ตามลินลี่ย์
ลินลี่ย์หนีไปต่อหน้าเขาและเริ่มใช้ความเร็วระดับสูงสุดก่อนหน้านี้  แต่ศัตรูไล่ตามเขาใกล้เข้ามาทุกที  “เทพแท้ผู้นี้ไวนัก และดูเหมือนเขาจะเป็นเทพชั้นสูงสายธาตุลม”  จากพลังโจมตีครั้งก่อนของฝ่ายตรงข้าม เขารู้สึกได้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นเทพชั้นสูงสายธาตุลม
 “ฮ่าฮ่าฮ่า หนีเหรอ?”
บุรุษหนุ่มผมทองไล่ตามด้วยความเร็วสูงพลางเหยียดมือซ้ายตะปบใส่อากาศ
 “อะไรกันนี่?” ขณะที่หนี หน้าของเขาลินลี่ย์เปลี่ยนไปทันที  ร่างของเขาดูเหมือนถูกมัดด้วยด้ายบางที่มองไม่เห็น  แม้ว่าลินลี่ย์จะสามารถหนีได้ แต่ดูเหมือนเขาจะถูกจำกัดพลัง ทำให้ความเร็วของเขาตกลงครึ่งหนึ่ง
 “เคล็ดพื้นที่มิติ!  ลินลี่ย์ตระหนักได้ทันทีว่านี่คืออะไร  เขาเคยเห็นเดเลียใช้วิชานี้กับคนอื่นบ่อย  แต่ตอนนี้ลินลี่ย์กลับเป็นหนึ่งในคนที่ถูกเคล็ดพลังนี้โจมตี
 “น่ากลัว!  หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความกังวล  “พลังของเทพชั้นสูงนี้ใช้ออกได้แข็งแกร่งมากกว่าของเดเลียเสียอีก”  ลินลี่ย์รู้ว่าพลังโจมตีจะเชื่อมโยงกับพลังเทพ  เคล็ดความรู้รูปแบบเดียวกันมีระดับแตกต่างกัน พลังก็แตกต่างกันไปด้วย
ในพริบตา บุรุษผมทองก็ย่นระยะห่างจากลินลี่ย์ลงมาไม่ถึงสิบเมตร
 “เจ้าไม่สามารถหนีไปได้”  เสียงหัวเราะดังขึ้น และระลอกพลังแปลกประหลาดคลุมลินลี่ย์ไว้  ความเร็วของลินลี่ย์ตกลงอีกครั้ง  และเขารู้สึกตกใจ  “สนามพลังเทพชั้นสูง”  ลินลี่ย์รู้มานานแล้วว่าการเผชิญเทพชั้นสูงนั้นอันตรายมาก
แม้ว่าจะมีโอกาสชนะได้ แต่เขาก็มีโอกาสเพียงเล็กน้อย
 “ในแง่เคล็ดความรู้ลึกลับ บุรุษผมทองนี้เป็นเทพชั้นสูงผู้รู้เก้าเคล็ดความรู้ลึกลับของธาตุลมทั้งหมด  ข้าหวังได้แต่เพียงว่าเขายังไม่สามารถหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับใดๆ ได้”  ลินลี่ย์รู้ว่ามีโอกาสสำเร็จก็แต่เพียงการโจมตีวิญญาณ!
 “ดาบคลื่นสลายจะต้องไม่ผิดพลาด”
ลินลี่ย์หนีอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งพบกับบุรุษหนุ่มผมทอง  เขาไม่ได้ใช้ดาบคลื่นสลายแม้แต่น้อย  ลินลี่ย์ไม่กล้าบุ่มบ่ามเผยวิชานี้ เขาต้องฉวยโอกาสอย่างดีที่สุดเพื่อฆ่าศัตรูในการโจมตีครั้งเดียว  มิฉะนั้นเนื่องจากความแตกต่างระหว่างเขากับคู่ต่อสู้ของเขาแค่อาศัยความเร็วและอาศัยพลังโจมตีธาตุหยาบก็ฆ่าลินลี่ย์ได้
ดังนั้น...
เขาจึงยังไม่เปิดเผยพลังโจมตีสูงสุด  แต่ถ้าเขาต้องใช้  เขาต้องทำให้สำเร็จ
 “เจ้าไม่ตายก็เป็นข้าสิ้น”  ลินลี่ย์ยังกัดฟันคิดหาวิธีหนีใหม่
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาถูกพันธนาการโดยลมมิติและสนามพลังเทพและเนื่องจากความเร็วของลินลี่ย์ต่ำกว่าตั้งแต่แรก ตอนนี้ความเร็วของเขาน้อยกว่าปกติถึงหนึ่งในสาม  ความแตกต่างระหว่างกันมากมายนัก... เว้นแต่จะมีสิ่งที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น ผลของการต่อสู้นี้ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว
 “ควั่บ!” ร่างของลินลี่ย์ชะงักทันที  สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปขณะที่เขาจ้องดูข้างหน้าตนเอง
ข้างหน้าลินลี่ย์ ข้างหลัง และด้านบนมีบุรุษหนุ่มผมทองสิบร่าง  บุรุษหนุ่มผมทองผู้นี้สร้างร่างมายาได้ถึงสี่สิบร่างล้อมลินลี่ย์ไว้หมดสิ้นเชิง
 “สถานการณ์แย่จริงๆ”  ลินลี่ย์ตกใจ  “ร่างมายาสี่สิบร่าง... ร่างใดคือร่างจริง? บีบีไม่อยู่เสียด้วย ข้าไม่สามารถระบุได้ว่าร่างใดคือร่างจริง จะทำยังไงดี?”  ลินลี่ย์จับดาบหนักอดาแมนเทียมไว้แน่นสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
บุรุษผมทองแยกร่างมายาได้ถึงสี่สิบร่างล้อมลินลี่ย์ไว้
 “ฮ่าฮ่า อยู่ต่อหน้าข้า เจ้ายังกล้าหนีอีกหรือ?  ความเร็วของเจ้าช้ามาก  ช้าเอามากๆ” บุรุษหนุ่มผมทองหัวเราะ
ลินลี่ย์ระมัดระวังศัตรูของเขา
 “ฮ่าฮ่า, ตายซะเถอะ”  บุรุษหนุ่มผมทองหัวเราะ และจากนั้นร่างเกือบทั้งสี่สิบร่างโจมตีพร้อมกัน  ทันใดนั้นลินลี่ย์ถูกคลุมไปด้วยพลังโจมตีฝ่ามือมีดอย่างสิ้นเชิง
 “เขา...ดูแคลนข้า”  ลินลี่ย์เมื่อเห็นเช่นนี้ หัวเราะเยือกเย็นในใจ
ร่างมายาเป็นหนึ่งในเก้าเคล็ดความรู้ลึกลับธาตุลม  วิชาร่างมายานี้สร้างร่างที่มีกลิ่นอายเหมือนร่างหลัก  กล่าวคือคนอื่นยากจะบอกได้ว่าร่างใดคือร่างจริง ร่างใดคือร่างปลอม  นี่เป็นวิชาพิเศษสำหรับการหลบหนี  แต่ขณะใช้โจมตี มันอ่อนแอ
วิชาร่างมายามีเพื่อใช้หลบหนีหรือใช้สู้กับนักสู้ที่มีฝีมือด้อยกว่า
ที่สำคัญร่างแยกแต่ละร่างจะมีพลังด้อยกว่าร่างหลักมากมาย
ร่างมายาของเทพชั้นสูงว่ากันในแง่พลังคงจะแข็งแกร่งกว่าเทพแท้ไม่มาก
 “ฮึ่ม พลังโจมตีของร่างมายาร่างเดียวคงไม่แข็งแกร่งนักหรอก  แต่เมื่อผสานรวมกับอีกร่างเงาสามสิบร่างที่เหลือก็จะมีพลังมากมายแน่นอน  นอกจากนี้ยังรวมวิชาฝ่ามือมีดของร่างหลักข้าไปด้วย”  บุรุษผมทองมั่นใจ  “เจ้าผู้นี้เป็นแค่เทพแท้”
 “ปัง!  “ปัง!  “ปัง!
ทันใดนั้นคมมีดของฝ่ามือมีดระดมโจมตีใส่ร่างของลินลี่ย์  ลินลี่ย์ถูกโจมตียี่สิบแปดฝ่ามือ และเขาหลบได้เพียงสิบฝ่ามือ
ยี่สิบแปดฝ่ามือมีด มียี่สิบเจ็ดฝ่ามือปะทะกับเกราะชีพจรคุ้มกันและสลายไป  ขณะที่เกราะชีพจรคุ้มกันของลินลี่ย์ไม่เป็นอันตรายเลย แต่ฝ่ามือที่ยี่สิบแปดฟันใส่ร่างลินลี่ย์โดยตรง
 “แครก...!!
เกราะชีพจรป้องกันเปิดออก และอกของลินลี่ย์ถูกโจมตีอย่างรุนแรง โลหิตทะลักออกมาภายนอก ขณะที่กระดูกของของเขาโผล่ออกมาให้เห็น  พลังโจมตีที่ฟันเปิดเกราะชีพจรป้องกันเป็นการลงมือของร่างจริงของบุรุษผมทอง
บุรุษผมทองประหลาดใจ  เกราะชีพจรป้องกันของลินลี่ย์มีพลังที่น่าทึ่ง
 “สมบัติเทพชั้นสูงสำหรับคุ้มกันหรือ?”  บุรุษผมทองหัวเราะเบาๆ  “โชคดีที่เจ้าเป็นแค่เทพแท้  สมบัติป้องกันระดับเทพชั้นสูงที่เจ้าถือครองจึงไม่สำแดงประสิทธิภาพสูงสุด”  บุรุษผมทองเหยียดหยาม
 “แครก...”  พลังเทพในร่างของลินลี่ย์ทะลักออกและสมานรักษาบาดแผลให้เขา  ขณะเดียวกันเกราะชีพจรป้องกันบนร่างของเขาฟื้นตัวทันที  ตราบเท่าที่พลังเทพของเขายังคงเหลือ เกราะชีพจรคุ้มกันสามารถฟื้นฟูได้ทันที
 “สมบัติเทพคุ้มกันหรือ?”  ลินลี่ย์นึกเหยียดหยามในใจ  “งั้นนี่ก็คือร่างจริง!
จากพลังโจมตีนี้ ลินลี่ย์สามารถบอกได้ทันทีว่าร่างใดที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นร่างจริง
 “รักษาแผลเสร็จแล้ว?”  บุรุษผมทองประหลาดใจ  เขาตระหนักได้ทันทีว่าลินลี่ย์ไม่ได้ใช้สมบัติเทพประเภทป้องกันตัว แต่เป็นพลังป้องกันจากร่างหยาบ
 “ฮ่าฮ่า... พลังโจมตีก็ไม่เลว และพลังหยาบสำหรับป้องกันก็ไม่เลวเหมือนกัน”  ร่างทั้งสี่สิบร่างที่ล้อมลินลี่ย์พูดขึ้นพร้อมกัน  “น่าเสียดาย”  หลังจากพูดเสร็จร่างเกือบสี่สิบร่างของบุรุษผมทองก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน  ตอนนี้ไม่ว่าร่างใดโจมตีก็ไม่แตกต่างมากนักสำหรับลินลี่ย์
จากการปะทะกันที่เพิ่งผ่านมาทำให้ลินลี่ย์แน่ใจว่าร่างใดเป็นร่างจริง
ความเร็วของบุรุษผมทองนั้นมากกว่าลินลี่ย์มาก  เขาเปลี่ยนตำแหน่งได้อย่างต่อเนื่องขณะเข้ามาใกล้ลินลี่ย์
 “เจ้าเด็กผมน้ำตาลมีพลังโจมตีธาตุหยาบและพลังป้องกันได้ดี  ดูเหมือนข้าต้องฆ่าเขาด้วยพลังโจมตีวิญญาณ”  บุรุษหนุ่มผมทองคิดในใจ  “ข้าขอปฏิเสธที่จะเชื่อว่าพลังป้องกันทางวิญญาณของเทพแท้จะทรงพลังมาก!
 “ตายเสียเถิดเจ้า!  บุรุษหนุ่มผมทองใช้กระบี่ฟันอย่างใจเย็น ทำให้อากาศสั่นสะเทือนเล็กน้อยขณะที่มีเสียงกระหึ่มเบาๆ ดังขึ้น
ลินลี่ย์หรี่ตา  “โอกาสมาแล้ว!
 “ครืนนน...”  ดาบหนักอดาแมนเทียมของลินลี่ย์สะบัดออกด้วยวิชาดาบคลื่นสลายอย่างสุดกำลัง!
 “แคล้ง!” หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไปทันที ดาบคลื่นสลายของเขาไม่พบการต่อต้านแม้แต่น้อยขณะกระทบกับศีรษะศัตรู  พลังโจมตีของศัตรูไม่ได้แฝงพลังวิญญาณแม้แต่น้อย
 “อะไรกัน?”  ลินลี่ย์รู้สึกแย่ทันที  “พลังสั่นสะเทือน!
คลื่นสั่นสะเทือนแปลกประหลาดส่งเข้าสมองของลินลี่ย์โดยตรง คลื่นสั่นสะเทือนนี้ตอนแรกปะทะเข้ากับพลังป้องกันวิญญาณของสมบัติมหาเทพ เยื่อพลังใสที่รายล้อมวิญญาณเขาและแตกกระจายหายไป
ลินลี่ย์ทนรับพลังโจมตีได้  แต่ศัตรู...
 “อ๊า....!  ร่างของเทพชั้นสูงนั้นเอียงไปมา และเปล่งเสียงครางออกจากปาก
แม้ว่าเทพชั้นสูงนี้จะกลายเป็นเทพชั้นสูงด้วยตนเอง และมีพลังป้องกันวิญญาณที่บริสุทธิ์และแข็งแกร่ง  แต่เมื่อเผชิญกับดาบคลื่นสลายของลินลี่ย์ที่สร้างขึ้นจากการหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับสองอย่าง วิญญาณของเขาสั่นสะท้านและพลังจิตของเขาล่มพังทลายทันที
เขาหน้ามืดสับสนทันที
 “ตาย!” ลินลี่ย์คำรามอย่างโกรธเกรี้ยวและฟันลงอีกหนึ่งดาบ
ดาบหนักอดาแมนเทียมกระแทกใส่บุรุษหนุ่มผมทองที่ยังอยู่ในอาการมึนงงโดยตรง
 “ปัง!” วิญญาณของบุรุษหนุ่มผมทองไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และล้มลงโดยตรง
 “ควั่บ!  ร่างหนึ่งปรากฏออกมาจากศพของบุรุษหนุ่มผมทอง  “อีกร่างหนึ่งหรือ?”  ตาของลินลี่ย์เบิกกว้าง แต่เหมือนกับว่าได้รับผลสะท้อน  เขาฟันใส่อีกครั้งหนึ่ง....
เป็นวิชาดาบคลื่นสลายอีกครั้ง!
 “ปัง!” ร่างนั้นล้มลงเช่นกัน
ตอนนี้ลินลี่ย์ถึงได้นั่งลง
การใช้ดาบคลื่นสลายถึงสามครั้งรวดทำให้พลังจิตของลินลี่ย์แทบหมดเกลี้ยง  ความจริงเมื่อเขาใช้ดาบคลื่นสลายครั้งที่สามลินลี่ย์เริ่มรู้สึกปวดศีรษะแล้ว
 “ข้ากังวลมากไป ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของบุรุษหนุ่มผมทองเป็นแค่เทียมเทพ ไม่คู่ควรให้ใช้ดาบคลื่นสลายแม้แต่น้อย”  ลินลี่ย์มองร่างแยกศักดิ์สิทธิ์  จากนั้นหัวเราะให้ตัวเอง  “โชคดีที่เจ้าผู้นี้ตายได้ในที่สุด”  ลินลี่ย์เก็บแหวนมิติเก็บของ ประกายศักดิ์สิทธิ์และสมบัติเทพของบุรุษผมทอง
และจากนั้นลินลี่ย์วิ่งออกไปอีกสองสามร้อยเมตรอดทนอาการปวดศีรษะ  เขาพบตำแหน่งที่ไม่เด่นและดึงอะเมทิสต์ออกมาใช้ทันที
 “ดาบคลื่นสลายสิ้นเปลืองพลังจิตไปมากเหลือเกิน”  ลินลี่ย์ส่งพลังอะเมทิสต์เข้าไปในแหวนมังกรขนดซึ่งจัดการแปลงเป็นละอองหมอกทองส่งเข้าไปในสำนึกของลินลี่ย์  ทะเลจิตสำนึกที่แห้งผากเริ่มเปี่ยมไปด้วยพลังจิตอีกครั้ง
 “เฮ้อ” อาการปวดศีรษะแทบแตกบรรเทาเบาบาง ลินลี่ย์ระบายลมหายใจ
 “เมื่อเผชิญกับเทพแท้เป็นเรื่องอันตรายจริงๆ”  ลินลี่ย์คิดย้อนไปถึงการสู้รบนั้น บอกกับตัวเอง  “ถ้าบุรุษหนุ่มผมทองอาศัยแต่ความเร็วและพลังโจมตีธาตุหยาบซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เขาคงฆ่าข้าไปแล้ว”
ลินลี่ย์รีบสรุปผลของการต่อสู้ทันที
 “คนที่กลายเป็นเทพด้วยตนเองนั้นวิญญาณของพวกเขาถูกหล่อเลี้ยงและเปลี่ยนแปลงโดยกฎธรรมชาติซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้นพลังป้องกันวิญญาณจะแข็งแกร่งมากเช่นกัน  บุรุษหนุ่มผมทองสามารถรับพลังโจมตีจากดาบคลื่นสลายของข้าโดยที่เขาไม่ตาย ดูเหมือนว่าในอนาคตข้าคงต้องระวังไว้บ้างแล้ว”  ลินลี่ย์เริ่มระมัดระวังมากขึ้น
ลินลี่ย์หลบการโจมตีครั้งสุดท้ายได้อย่างหวุดหวิด  แต่อสูรคนอื่นๆ คงไม่โชคดีนัก เป็นไปได้ยังไงที่เทพแท้จะเอาชนะเทพชั้นสูงได้ง่ายๆ?
ลินลี่ย์คือคนที่หลอมรวมเคล็ดลึกลับของกฎได้สองอย่าง ซึ่งหาได้ยากในหมู่เทพแท้  และที่สำคัญยิ่งกว่า... ลินลี่ย์มีสมบัติมหาเทพชำรุดที่ใช้ปกป้องวิญญาณซึ่งทำให้พลังโจมตีของบุรุษผมทองสลายไป มิฉะนั้นวิญญาณของลินลี่ย์จะทนอยู่ได้ยังไง?
 “พี่ใหญ่ไม่อยู่ที่นี่  บีบีก็ไม่อยู่ที่นี่”
นีซเต็มไปด้วยความแตกตื่น  นางก้าวอย่างระมัดระวังในปราสาททรายแห่งนี้ ตอนนี้นางพบศพของอสูรคนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าปราสาททรายนี้เต็มไปด้วยอันตรายคุกคามชีวิต
เงาร่างบุรุษผอมบางไร้เสียงปรากฏออกมาจากผนังทรายด้านหลังนีซ
 “สาวน้อยนี่ไม่เลว  ข้าจะฆ่านางก่อน”  บุรุษผู้นั้นรำพึงกับตัวเอง  ขณะนั้นเขาฆ่าอสูรระดับเทพแท้ไปสามคนแล้ว  ต่อหน้าเขาอสูรระดับเทพแท้ไม่สามารถตอบโต้ได้สักนิด  เมื่อเห็นนีซอยู่ต่อหน้าเขา  บุรุษผู้อำมหิตนี้หัวเราะกับตัวเอง  “ข้าจะจบชีวิตของเจ้าเอง”

6 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Dearwy กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

jarneaka กล่าวว่า...

เสียวจะตายกันจริงๆ

Añu-y กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น