วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 904 สร้างกำไลอสูร


ตอนที่  904  สร้างกำไลอสูร
เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่กลับมา  เวลาผ่านไปแล้วห้าวัน
 
เย่ว์หยางประสบความสำเร็จในการพัฒนากำไลอสูรและและมอบเหยี่ยวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นบริวารของตั๊กแตนมัจจุราชชั่วคราว เพื่อทดลองผลิตกำไลอสูรและสามารถทำสัญญาได้สำเร็จ
กลายเป็นผลงานการทดลองแรกที่มีความเสี่ยงมาก อาจได้รับบาดเจ็บได้โดยตรง  แต่ผลตอบรับที่ออกมากลับยิ่งใหญ่
เวลานี้เย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตเล็กน้อยกับปราณกระบี่ขาวซวงหัวผสานกันชำระกุ่ยหยินไฟเป็นกลุ่มเล็กแล้วผสานเข้ากับเหยี่ยวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ที่แต่เดิมมีพลังปราณฟ้าระดับสาม ช่วยให้มันยกระดับเป็นปราณฟ้าระดับสี่ได้ทันที และใกล้จะมีพลังปราณฟ้าระดับห้า   คราวนี้เพลิงตลอดทั้งร่างของมันยังสงบตราบเท่าที่ไม่ต่อสู้อย่างเป็นทางการ แทบจะไม่รู้สึกถึงพลังความร้อนของมัน แต่ทันทีที่มันโกรธมันจะระเบิดพลังที่น่ากลัวกว่าภูเขาไฟระเบิดถึงหมื่นเท่า!  อาจกล่าวได้ว่าเหยี่ยวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ผสานเข้ากับลักษณะการทำงานของกุ่ยหยินไฟได้เต็มที่
ด้วยเหตุนี้จุ้ยมาวอี้จึงตั้งชื่อให้มันว่า “ไอริส”
นี่เพื่อเป็นการระลึกนึกถึงดอกไอริสที่นางปลูกเองกับมือในสมัยยังเด็ก  และแน่นอนเพราะเพลิงของเหยี่ยวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้มีสีฟ้าสงบเย็น มองดูเหมือนกลุ่มดอกไอริส
 “กำไลมือนี่สร้างจากแร่หยดเพลิงหรือ?  โอว สวยมาก!  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหันมาถาม “ไม่มีมณีจันทราแล้วเจ้าสร้างได้ยังไง?”
 “เจ้าพูดอย่างกะว่ามณีจันทรา ใครๆ ก็เดินเก็บเอาข้างถนนก็ได้อย่างนั้น!  เย่ว์หยางพูดไม่ออก ไม่มีทาง คนที่อยู่แต่ในบ้านไม่มีทางรู้ราคาข้าวกับน้ำมันเป็นแน่!
 “ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายหรอกหรือที่เจ้าชิงสินค้าดีๆ หลายอย่างมาได้ คู่หู!?”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยิ้ม
 “ต้นแบบชั่วคราว ในเวลานี้ยังไม่มีทางทำกำไลอสูรที่ดีที่สุดได้... นั่นทำให้สิ้นเปลืองวัสดุกับการสำรวจประสบการณ์ครั้งแรก”  แน่นอนว่าเย่ว์หยางต้องการมณีสุริยันต์, จันทราและมณีดาราเพื่อสร้างกำไลอสูรคุณภาพดีที่สุด  แต่แนวคิดกับความเป็นจริงยังอยู่ห่างไกล  เป็นไปไม่ได้ที่จะกระโดดให้ถึงสวรรค์ได้โดยการกระโจนครั้งเดียว  เขาต้องถอยกลับมาตั้งหลักก่อน
 “นับว่าไม่เลวเลย นี่ดีเกินกว่าสมบัติระดับทอง อาจถึงระดับแพลตตินัมได้ด้วยซ้ำ  ถ้ายังไปได้ไกลมากกว่านี้ นั่นจะเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์แล้ว!  เย่ว์หวี่ให้กำลังใจน้องชาย
ความจริงนางพูดมีเหตุผล เมื่อเย่ว์หยางค้นคว้ากำไลอสูรได้สำเร็จ  ฝ่าบาทพอได้ทราบข่าวดีทรงส่งตัวแทนมาแสดงความยินดีและชื่นชมความสำเร็จของเขา
ตัวแทนพระองค์ที่มาแต่ละครั้งจะชื่นชมยินดีไม่ขาดปาก
นี่แสดงว่าฝ่าบาทตื่นเต้นปลาบปลื้มใจขนาดไหน
แม้ว่าจักรพรรดิหัวซิ่วรี่จะยังปฏิเสธที่จะพบกับเย่ว์หยาง แต่พระองค์ก็ออกปากให้กำลังใจ และสัญญาว่าจะให้เย่ว์หยางเข้าวังอย่างเป็นทางการ  เมื่อวันใดเย่ว์หยางพัฒนากำไลอสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้มณีสุริยันต์  เมื่อนั้นพระองค์จะชื่นชมและมอบรางวัลให้เย่ว์หยางเป็นการส่วนพระองค์! เย่ว์หยางแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะบรรลุเป้าหมายให้ได้ทันที  น่าเสียดาย ปัจจุบันนี้เขาสร้างกำไลอสูรด้วยผลึกหยดเพลิงได้ชั่วคราว จึงเป็นสมบัติระดับแพลตตินัมเท่านั้น
แม่สี่ไม่จำเป็นจะต้องพูดอะไรทั้งนั้น เพราะปกตินางภูมิใจลูกซานเอ๋อของนางอยู่แล้ว
มีงานฉลองใหญ่ใกล้ปราสาทตระกูลเย่ว์
จุนอู๋โหย่วกำลังบรรทม เมื่อได้ยินข่าวที่น่าทึ่งเช่นนี้ ถึงกับไม่ยอมเสียเวลาสวมรองวิ่งเท้าเปล่าไปตามตัวผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและคนอื่นๆ มาร่วมดื่มฉลอง...” สามสมาคมใหญ่ประกอบไปด้วยสมาคมนักรบ  สมาคมทหารรับจ้างและสมาคมขโมยต่างบอกแจ้งข่าวดีนี้หมุนเวียนไปทั่ว
แม้ว่าจะยังไม่ดีเท่ากับคัมภีร์อัญเชิญ แต่เมื่อมีกำไลอสูรที่เติบโตไปพร้อมกับเจ้านาย นักรบหลายคนที่ไม่มีโอกาสทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญจะไม่รู้สิ้นหวังอีกต่อไป  หรือบางตระกูลที่ได้รับสัญญาว่าจะมีคัมภีร์อัญเชิญ   แต่เมื่อโตขึ้นก็ยังไม่มีหลักประกันชีวิตที่ปลอดภัย  กล้าพูดได้ว่าศิษย์ของบางตระกูล แม้ว่าจะมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมแต่ทว่าเกิดอุบัติเหตุถูกฆ่า เรื่องทำนองนี้มีมากมาย  โดยเพราะอย่างยิ่งผู้สืบทอดที่ถูกระบุตัวไว้ เมื่อตายไปก็เป็นเหตุให้ตระกูลปั่นป่วนได้ง่าย
ตอนนี้ปัญหาปวดหัวที่เกิดขึ้นในครอบครัวนี้ได้รับการคลี่คลายแล้ว
คุณชายสามตระกูลเย่ว์ได้ประกาศต่อโลกว่า  ในทวีปมังกรทะยานศิษย์ตระกูลใดก็ตามที่มีศักยภาพถึงระดับปราณฟ้าได้ ขึ้นอยู่กับระดับความพยายามและการมีส่วนร่วม จะได้รับอสูรปราณฟ้าที่มีคุณสมบัติธาตุเหมือนกันและเติบโตไปพร้อมกัน  ส่วนผู้มีความแข็งแกร่งระดับปราณดิน  จะได้รับอสูรระดับปราณดินที่เติบโตไปด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตราบใดที่มีความพยายามเพียงพอ มีศักยภาพพอ ไม่ว่าจะมีสถานะเช่นใด อาจเติบโตเป็นนักรบปราณฟ้าหรือนักรบที่แข็งแกร่งมากกว่านั้นก็ย่อมได้!
หัวหน้าราชองครักษ์ของจุนอู๋โหย่วฟงขวง นักรบหมื่นกระดูกขาว อาจารย์ตาเหยี่ยวเซี่ยโหวเว่ยเจี๋ย, ฟงชิซา, เหยียนพั่วจวินและนักรบที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ มีมากกว่าร้อยคนที่มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกกองกำลังอัศวินมังกรได้อย่างเป็นทางการ  นักรบกลุ่มแรกเป็นนักรบที่พิสูจน์ตัวและลงทะเบียนรับกำไลอสูรที่มีคุณสมบัติต่างๆ เป็นไปตามรูปแบบและคุณภาพ  กำไลอสูรถูกแบ่งออกตามคุณภาพสามระดับ อันดับแรกเป็นกำไลอสูรอะดาแมนเทียม มีพลังงานผลึกปีศาจต่ำกว่าปราณฟ้าระดับสาม  ต่อมาเป็นกำไลอสูรมิธริล (โลหะในตำนาน) ใช้กับอสูรระดับสูงกว่าปราณดินระดับห้า และกำไลอสูรทองแดงถูกกำหนดไว้สำหรับอสูรปราณดินไม่ถึงระดับห้า
สมาชิกกลุ่มอัศวินมังกรอย่างน้อยจะได้รับทำสัญญากำไลอสูรมิธริล  ยกเว้นแต่ผู้ที่มีความสามารถพิเศษจริงๆ
 “มีอัศวินมังกรเกือบสามพันคน และมีทหารนักรบเลือดมังกรอีกหมื่นคน ถ้าพวกเจ้าต้องการเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง  พวกเจ้ายังจะรออะไร?”  เมื่อคนของสามสมาคมใหญ่ได้ยินเย่ว์หยางประกาศ นักรบทุกคนเลือดลมพลุกพล่าน
 “ข้าต้องเป็นอัศวินมังกรให้ได้! 
ทั้งโลกไม่ทราบว่ามีผู้เยาว์เท่าใดที่สาบานตั้งปณิธานไว้เช่นนี้
มังกรบินมองเห็นกำไลอสูรอยู่ข้างหน้ามัน
โอกาสเช่นนี้ไม่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ และเปิดเผยต่อทุกคนในโลก  สำหรับนักสู้ผู้แสวงหาพลังในชีวิตของเขา นี่คือบันไดขึ้นสู่สวรรค์ชัดๆ!
สองวันต่อมาเมื่อเย่ว์หยางพาเจ้าอ้วนไห่ เย่คงและเสวี่ยทันหลางที่ดูราวกับสุนัขตายกลับมาจากเมืองเจิ้งฝู ที่คอฮุยไท่หลางมีกำไลอสูรผลึกหยดเพลิงขนาดใหญ่
อสูรสำหรับทำสัญญาจะว่าไปไม่ใช่เป็นอสูรที่เหมาะสมที่สุด เพราะฮุยไท่หลางไม่ใช่อสูรทำสัญญา แต่ระบุว่าเป็นมังกรทองยักษ์ พาหนะของเย่ว์หยาง มังกรทองก่อนหน้านี้ถูกเย่ว์หยางจับและขับขี่มาในเมือง จากนั้นยกให้จุนอู๋โหย่วจัดการให้นักรบเห็นเป็นตัวอย่าง มันคิดว่ามันจะสามารถแหวกฟ้าคว้าดาวได้  คิดไม่ถึงว่าฮุยไท่หลางรู้ทันความคิดมัน มันคิดว่ามันเป็นพาหนะ ต้องให้มันรู้ว่าพาหนะของเจ้านายไม่ใช่ผู้ที่ใครๆ ก็เป็นได้ตามปกติ  แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่ได้ขับขี่ฮุยไท่หลางเป็นพาหนะ  แต่ในใจฮุยไท่หลางจะไม่ยอมให้มังกรทองยักษ์แย่งตำแหน่งนี้  มันจึงต้องทำสัญญากับมังกรทองยักษ์
เจ้าต้องการเป็นพาหนะของเจ้านายไม่ใช่หรือ?
นั่นไม่มีตำแหน่งให้เจ้า ดังนั้นจงมาเป็นพาหนะของข้า!
มังกรทองยักษ์ก็มีความฉลาดและเข้าใจว่าฮุยไท่หลางนี้เป็นอสูรตัวโปรดที่สุด  ถ้าทำให้ฮุยไท่หลางโกรธ มันอาจถูกจับกินก็ได้  ฮุยไท่หลางพ่นเปลวไฟของมังกรโบราณออกมาได้ ราวกับจะข่มว่าเจ้าต้องเป็นน้องชายที่ว่าง่าย และพี่ชายนี้จะปกป้องเจ้า มิฉะนั้นมันจะกลายเป็นอาหารสุนัข
ในที่สุดมังกรยักษ์โบราณมองดูเปลวเพลิงมังกรโบราณ มันปิดจมูกยอมรับ
แม้ว่ามันจะทำสัญญากับสุนัข  แต่ยังไงก็ตามนั่นเป็นอสูรหมาป่าปีศาจล้างโลก ในเมื่อเกาะแข้งเจ้านายไม่ได้ ก็ขอเกาะแข้งอสูรตัวโปรดของเจ้านายไว้ก่อนก็ยังดี!
 “ฮุยไท่หลาง  เจ้าทำอย่างนั้นไม่ได้นะ, เจ้ามีอสูรปราณฟ้าแล้ว  ส่วนข้ายังไม่มีสักตัว  ทุกวันนี้ข้าจะเอาตัวรอดได้ยังไง! โอวไม่ ไม่, ข้าต้องลงมือเร็วๆ  วันนี้ข้าจะต้องหาอสูรปราณฟ้าสาวสวยหุ่นดีให้ได้!  เจ้าอ้วนไห่ตื่นเต้นดีใจ
 “ทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ดีกว่า!  เย่คงและเสวี่ยทันหลางทำเป็นหันไปมองทางอื่น
 “อสูรปราณฟ้าสาวสวยหรือ? ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะพอใจหรอกนะ! ข้าจะทุบเจ้า  จะตีเจ้า!  นางนวลสายลมในเวลานี้วิวัฒนาการเป็นคนบางส่วนแล้ว แต่ช่วงขาลงไปยังเป็นขานกอยู่ มีปีกคู่หนึ่งอยู่ด้านหลังนาง (คล้ายกินรี) อีกก้าวใหญ่นางก็จะเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์เต็มตัว  นางกล่าวได้คล่องแคล่ว  ความหึงของนางไม่มีใดเทียบ  ใครจะคิดกันเล่าว่านางคืออสูรนางนวลสายลมที่ฉลาดที่สุด
เจ้าอ้วนไห่ผู้น่าสงสารโดนตีอีกจนได้ และฮุยไท่หลางดูมีชีวิตชีวา มันรู้สึกคันไม้คันมือ
เย่คงและพวกชินกับภาพนี้แล้ว  ดังนั้นพวกเขาทำเป็นมองไม่เห็น
เพราะสร้างกำไลอสูรนี้ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์  เย่ว์หยางทำให้พวกที่มีคัมภีร์ถึงกับตกใจ  ยิ่งกว่านั้นคือยังสื่อสารทางวิญญาณกับอสูรได้โดยตรงอีกหรือ?  นี่เท่ากับได้อสูรพิทักษ์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง  แม้ว่าอสูรที่ทำสัญญากับกำไลอสูรยังมิอาจเทียบได้กับอสูรพิทักษ์  แต่ก็นับว่าใกล้เคียงแล้ว
เย่ว์หยางไม่ได้ทำมาให้พวกเขาง่ายๆ  อันดับแรกพวกเขาไม่สามารถหาอสูรปราณฟ้าที่เหมาะสมทำสัญญากันได้ง่ายๆ  และอีกข้อหนึ่ง เขาต้องการให้พวกเขาเข้าร่วมกลุ่มอัศวินมังกรประจำการอยู่ที่ทวีปมังกรทะยาน
 “ไม่สามารถมีส่วนร่วมแล้วบอกว่าจะออกไปจากหอทงเทียนได้ยังไง ข้ามีประสบการณ์กับนักสู้ปราณฟ้าเห็นว่าพวกเจ้ามีศักยภาพ  จึงมีความคิดริเริ่มจะช่วยพวกเจ้านักรบรุ่นใหม่ของหอทงเทียน  นอกจากนี้การเอาแต่ฝึกประจำวันอย่างเดียวยังไม่ถือว่าดีพอ จะต้องฝึกสลับกับการพักบ้าง  เอาไว้เมื่อข้าท้าทายผ่านด่านที่หก หุบเขาปีศาจได้สำเร็จ จากนั้นค่อยพาพวกเจ้าไปยังเมืองเจิ้งฝูอีกครั้ง!  เย่ว์หยางมอบหมายภารกิจให้เจ้าอ้วนไห่และพวก  ความจริงเจ้าอ้วนไห่และเย่คงไม่ได้กลับมาเป็นเวลานานทำให้ครอบครัวตระกูลเบื้องหลังกังวลห่วงใยและต้องการพบพวกเขา ต้องทราบว่าการก่อตั้งกลุ่มอัศวินมังกรนี่เป็นเหตุการณ์สำคัญของโลก  ไม่มีกลุ่มที่ร่วมฝึกกับคุณชายสามตระกูลเย่ว์  คนทั่วไปจะมองยังไง?
 “เข้าใจแล้ว” เย่คงยังคงเชื่อฟังเย่ว์หยาง ไม่เคยสงสัยถามไถ่เลย
 “เมืองเจิ้งฝูเมื่อเร็วๆ นี้ ดูเหมือนว่าจะมีคนมามาก...”  เสวี่ยทันหลางแจ้งข่าวให้เย่ว์หยางทราบก่อนแยกจากมา
เป็นพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์?
ไม่น่าเป็นไปได้ คนของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์คงไม่มีทางแทรกซึมเข้าเมืองเจิ้งฝู หรือว่าจะเป็นบุรุษผมงูพบเจอสถานะของเขา?  เขาบอกว่าอยู่ในเมืองแม่น้ำขาว! หรือจะเป็นนางพญาผึ้งพิษ หลงหม่า, วีเซลหางดาบ พวกพ้องจากหุบเขาอสูร?
เมื่อคิดถึงบุรุษผมงู เย่ว์หยางมีความสนใจทันที
แต่คนผู้นี้เป็นผู้เยาว์จากสี่ตระกูลใหญ่ การไปพบเจอเขาอาจเป็นเรื่องดี อย่างแย่ก็คงจะหาข่าวข้อมูลจากเขาได้
เมื่อคิดถึงกระจกทนทุกข์ที่ด้อยกว่าระดับเทพ หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับกระจกวิเศษ หนึ่งในหกสมบัติวิเศษ?
วิหารเทพสตรี อี้หนานได้กระจกวิญญาณมาบานหนึ่ง
บางทีอาจจะมีความเชื่อมโยงของกระจกทั้งสอง... ของวิเศษทั้งหกหายมานานมากแล้ว เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์!  เย่ว์หยางคิดได้เช่นนี้แล้ว เขารีบหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทันที  “แม่เสือสาว, เราไปเที่ยวเมืองแม่น้ำขาวกันเถอะ!
 “ข้าไม่ไป, เจ้าไปกับพี่เย่เถอะ!  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนปฏิเสธ
 “อะไรกัน แม่เสือสาว, เจ้าหึงด้วยเหรอ?”  เย่ว์หยางพยายามตื๊อโน้มน้าว
 “เปล่าเลย, ข้าต้องการเวลาศึกษาทำความเข้าใจดาบของข้า  เมื่อข้าเปลี่ยนแปลงดาบให้เป็นดาบเทพจักรพรรดิอวี้ เจ้าจะไปไหนก็ไปเถอะ”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดไม่จบ เย่ว์หยางก็ฉุดดึงนางมา  “ศึกษาค้นคว้าหรือ, ข้าเลิศที่สุดทางด้านนี้ เรามาค้นคว้าด้วยกันเถอะ... สาวหิมะ!  เจ้ากำลังตามหาข้าอยู่หรือเปล่า?  ขุนพลเทพธิดาวายุรู้สึกได้ถึงอักขระรูนโบราณหรือ?  รอเดี๋ยว ข้าจะพาแม่เสือสาวไปสมทบและค่อยสำรวจพร้อมกัน!
 “เฮ้!  อย่าตัดสินใจแทนข้าสิ!  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนประท้วง
 “อู๋เสีย!  ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!  เย่ว์หยางทำเป็นไม่ได้ยินเสียงประท้วง เขาคว้ามือแม่เสือสาวและนางได้ปล่อยตามเลย นางโกรธไม่ลงจริงๆ!

6 ความคิดเห็น:

ulomzx กล่าวว่า...

เป้าหมายใหม่ของเย่ว์หยางคือแม่เสือสาวนี่เอง

Lex กล่าวว่า...

น้องฮุยขี้อิจฉา กลัวไอ้สามไม่รัก จับมังกรทองมาทำสัญญาเฉยเลย

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับ

แสดงความคิดเห็น