วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 913 มดแมลง?


ตอนที่  913  มดแมลง?
สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
 
สำหรับฉีเทียนเหอสามวันมานี้ถือว่ารวดเร็ว เขาถูกผนึกมาอย่างยาวนานเป็นเวลาหมื่นๆ ปี ในที่สุดก็จะถึงเวลาออกไปได้เสียที ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาต้องการอิสรภาพ  อย่างไรก็ตามเพราะความกระตือรือร้นจะคลายผนึก และคำพูดแปลกประหลาดของเจ้าเด็กนั่น  เขาก็ยังคงรู้สึกเหมือนเดิม นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้เขาสงสัยมากที่สุดก็คือสตรีนักดาบนั้นยังคงใช้ดาบวิเศษโจมตีเขาอยู่ที่ด้านนอก แม้ว่าเจ้าเด็กนั่นจะหายไปแล้วก็ตาม... ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอย่างนั้นทำให้ชี่เทียนเหอรู้สึกผิดปกติเล็กน้อย  จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป?
ผนึกเริ่มคลายตัวมากขึ้นทุกที ตอนแรกเป็นแขนข้างเดียว จากนั้นก็เป็นที่ศีรษะ
วันต่อมาก็เป็นทั้งร่าง
ในวันที่สามเหลือแต่เพียงขาขวา ที่ยังติดอยู่ในโซ่ตรวจแสงของผนึก
ต้องรีบฟื้นฟูอิสรภาพให้ได้อย่างรวดเร็ว  ชี่เทียนเหอพยายามกู่ร้องอยู่หลายวัน เขาถูกบังคับให้หลับมาเป็นเวลาหลายหมื่นปี  ใครเล่าจะเข้าใจเขาได้?
 “เมื่อพลังของข้าฟื้นฟูเต็มที่ หอทงเทียนและแดนล่มสลายแห่งทวยเทพก็เท่ากับตกเป็นสมบัติในกระเป๋าของข้า”  ฉีเทียนเหอหลอมรวมกับเลือดเทพและร่างศักดิ์สิทธิ์  แต่ต้องทรมานอยู่ในผนึกนานถึงหมื่นปี  จนร่างของเขาอยู่ในสภาพซึมเซา  อย่างไรก็ตามอย่างน้อยก็ยังใช้พลังได้สักหนึ่งในสิบเมื่อออกมาจากผนึก เทียบกับนักรบอื่นก็ยังนับว่าอ่อนแอกว่าชี่เทียนเหอมาก
 “แครก...”
แสงสีเหลืองที่ผนึกอ่อนลงมาเรื่อยๆ จนมาจับอยู่ที่น่องขวา ชี่เทียนเหอค่อยพบความแปลกประหลาด
บนขอบของวงจักรนิรันดร ยังมีแสงแปลกประหลาดเหมือนสายฟ้าแลบแปลบปลาบและมีเสียงดังมากขึ้นทุกที
ดูเหมือนมีบางอย่างออกมาจากภายใน แม้ว่าจะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่ชี่เทียนเหอรู้สึกได้ว่าภายใต้วงจักรนิรันดร ยังมีความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ใจกลางผนึกอย่างเงียบๆ
เดิมทีวงจักรนิรันดรมีขนาดสิบเมตร และตอนนี้มันเริ่มขยายขนาด
แย่แล้ว เป็นฝีมือเจ้าเด็กนั่นหรือ?
เจ้าเด็กนั่นหลอมรวมกับแกนกลางอักขระรูนโบราณที่ใช้กฎสวรรค์ผนึกได้หรือ?  ถ้าปล่อยให้เขาหลอมรวมกับอักขระรูนโบราณได้ นั่นหมายความว่าเขาจะกลายเป็นเจ้าของผนึกโบราณหรือไม่?  ข้าคงจะตกไปอยู่เงื้อมมือเขาอีกครั้งเป็นแน่.... มิน่าเล่าเขาถึงบอกว่าไม่ต้องลงมือด้วยตนเอง  เขาก็สามารถทำร้ายตัวชี่เทียนเหอได้แค่เอื้อม!
วงจักรนิรันดรยังคงขยายขนาดและค่อยๆ ขยายพื้นที่ปกคลุมพื้นที่ของชี่เทียนเหอมากขึ้นเรื่อยๆ
เสียงสายฟ้าร้องและฟ้าผ่าดังขึ้นรอบๆ วงจักรราวกับงูทองนับพันๆ ตัวกำลังตื่นตระหนก
 “บัดซบ, บัดซบที่สุด!
ชี่เทียนเหอสบถด่าอย่างรังเกียจ
ขณะที่แสงผนึกลามจากเข่าขึ้นไปถึงน่องขวา   ถ้าในช่วงขณะนี้เจ้าเด็กนั่นหลอมรวมกับแก่นผนึกรูนโบราณได้สำเร็จ อย่างนั้นพลังสีขาวจะผนึกเขากลับเข้าไปอีก ความพยายามที่ผ่านมาของเขาจะสูญเปล่า!
สิ่งที่ทำให้ชี่เทียนเหอรู้สึกลำบากที่สุดก็คือวงจักรนิรันดรขยายขนาดโตต่อเนื่อง
ถ้าเขาตกลงไปในวงจักรนิรันดรทุกอย่างจะหยุดนิ่งเป็นนิรันดร นั่นหมายความเขาจะไม่มีทางหลบหนีออกจากผนึกได้อีก
ไม่มีทางปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปได้
ไม่อาจปล่อยให้เจ้าเด็กนี่ทำงานได้สำเร็จ!
ตอนนี้เขาต้องการฟื้นตัวให้เร็วที่สุด ใครยังจะพยายามหยุดเขาให้ได้เล่า!
 “เจ้ามดแมลงพวกนี้ชักจะเกินไปแล้ว ออกมาเมื่อไหร่เจ้าตายแน่  อย่างไรก็ตามเจ้าคิดว่าลูกไม้เล็ก น้อยนี้จะใช้กักข้าชี่เทียนเหอไว้ได้ เจ้าก็เข้าใจผิดเสียแล้ว!  ขณะที่ชี่เทียนเหอกัดฟันชูมือสีทองข้างขวาเปล่งประกายรัศมีศักดิ์สิทธิ์สร้างเป็นรังสีดาบศักดิ์สิทธิ์ขนาดสามร้อยกว่าเมตร เขารวมเลือดเทพดึงออกมาจากขาช่วงใต้เข่าลงไปออกมาให้มากเท่าที่เป็นไปได้ จากนั้นตัดขาขวาจนขาด 
ใต้เข่าขวามีเลือดสีทองหยดออกหนึ่งหยด
แต่ไม่มีเลือดฉีดพุ่งออกมา
ในชั่วขณะที่เลือดจะไหล มันถูกผนึกแข็งไว้และบาดแผลเรียบลื่นราวกับกระจก เหมือนกับว่าใต้เข่าลงไปไม่เคยมีอวัยวะมาก่อน
แสงผนึกพันธนาการเท้าข้างขวาไว้อย่างมั่นคงและแสงพันธนาการยังขยายมาหาชี่เทียนเหอไม่หยุด
ถ้าไม่หนีเวลานี้ชี่เทียนเหอก็คงโง่เต็มที!
ไม่มีเวลาเศร้าโศกถึงขาที่เสียไป หรือต้องโกรธกับการเสียขาไปในขณะที่แถบแสงพันธนาการกลับมาอีกครั้ง เขาพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงเหมือนกับสายฟ้าสีทอง เมื่อเขากำจัดแถบแสงพันธนาการของผนึกได้เด็ดขาด เขาจะมีความรู้สึกเหมือนกลายเป็นเทพอีกครั้ง...ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ทั้งดีใจทั้งโกรธ มีแม้กระทั่งความแค้นและอับอายที่ไม่สามารถอธิบายได้
ชี่เทียนเหอลงมายืนบนพื้นห่างจากผนึกภูเขาน้ำแข็งถึงพันเมตร
ถึงแม้เขาจะโกรธมาก  แต่สาเหตุก็ยังอยู่ที่นั่น เขาจะไม่แสดงความหยิ่งผยองบนภูเขาน้ำที่พังทลาย และจะไม่เปิดโอกาสให้พลังพันธนาการของผนึกเล่นงานเขาอีกครั้ง
 “เจ้ามดแมลงที่น่าขยะแขยง ถึงเวลาชำระบัญชีเก่าของพวกเจ้าแล้ว บังอาจทำให้ชี่เทียนเหอต้องสูญเสียเท้าของเทพเจ้า ข้าไม่ปฏิเสธเลยว่าเจ้าพวกเจ้าสามารถบีบบังคับข้าจนมาถึงจุดนี้ได้ด้วยแผนการร้ายของเจ้า  อย่างไรก็ตาม ถึงเวลาชดใช้ของพวกเจ้าแล้ว”
ร่างของเขาสว่างยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ร้อยเท่า
มือขวาที่เขาชูขึ้นมีสายฟ้าแปลบปลาบราวกับมือของเทพเจ้า
คลื่นโจมตีลูกแรกก็ทำให้ภูเขาน้ำแข็งยักษ์ร้าวไปทั่ว มันสั่นสะเทือนจากภายในออกมายันเชิงเขา แนวโจมตีระยะหนึ่งกิโลเมตรปรากฏชัดเจน
เศษหิมะน้ำแข็งปกคลุมเต็มผืนดินแผ่นฟ้าน่ากลัวยิ่งกว่าวันที่หิมะถล่มโลก
หลังจากผ่านไปสองสามวินาทีก่อนจะได้ยินเสียงระเบิดแผ่นดินสะเทือน จนแก้วหูแทบแตก
 “บึ้ม!
คลื่นระเบิดที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าขยายเป็นวงออกไปอย่างรวดเร็ว และในที่สุดพื้นน้ำแข็งไม่อาจต้านแรงแผ่นดินไหวถูกกวาดออกไปไกลเป็นสิบกิโลเมตร
ชี่เทียนเหอไม่สนใจกับการโจมตีนี้  ในสายตาของเขา ทั้งหมดนี้เป็นสิทธิ์ที่เขาพึงทำได้
สิ่งเดียวที่เขาใส่ใจก็คือจะสร้างความเสียหายไปถึงแกนพลังผนึกได้หรือไม่
คำตอบชัดเจนมาก
แม้ว่าพลังของผนึกจะได้รับการกระตุ้น  แต่ก็ไม่สามารถกระจายขอบเขตพลังออกมานอกเขตภูเขาน้ำแข็ง มันไม่สามารถจับชี่เทียนเหอที่อยู่ห่างออกไปถึงสิบกิโลเมตร
 “ในเมื่อผนึกไม่สามารถทำอะไรข้าชี่เทียนเหอได้  อย่างนั้นเจ้ามดแมลงเอ๋ย เจ้าจะต้องตายภายใต้พลังโจมตีเต็มกำลังของข้า!  การถูกกำจัดเป็นบั้นปลายสถานเดียวของเจ้าเหล่ามดแมลง!  ฮ่าฮ่าฮ่า!  ชี่เทียนเหอตอนนี้เพียงแต่ตรวจสอบเท่านั้น หลังจากได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เขารวบรวมพลังเทพของเขาทันที เขารวมพลังบอลไฟนับร้อยลูกไว้ที่ฝ่ามือเตรียมจะใช้ระดมโจมตี
พลังโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่แกนกลางภูเขาน้ำแข็ง... จุดประสงค์คือใช้ฆ่าเย่ว์หยางที่อยู่ในผนึกโบราณ  อย่างน้อยก็ให้เจ้าเด็กนั่นถูกผนึกอยู่ในนั้นแทนเขาตลอดไป
อักขระรูนโบราณไม่ใช่ของที่ใช้หลอมรวมกันได้ง่ายๆ!
ในกระบวนการหลอมรวมนั้น ไม่อาจให้มีการรบกวนจากโลกภายนอกได้  ถ้ามันถูกรบกวนแม้แต่เล็กน้อย  อย่างแย่สุดวิญญาณจะถูกทำลาย
ในใจของชี่เทียนเหอนั้นเกลียดชังเย่ว์หยางมาก  หลังจากออกมาจากผนึกได้ เขาต้องจากไปให้เร็วที่สุดและรอคอยให้ตนเองอยู่ในระดับพลังสุดยอดอีกครั้ง  อย่างไรก็ตามเพราะเย่ว์หยางบังคับให้เขาต้องตัดขา ทั้งก่อนหน้านั้นยังด่าเขาว่าเป็นกอริลลา ชี่เทียนเหอไม่อาจทนรับเรื่องนี้ได้  อย่างไรก็ตามร่างเทพของเขาไม่มีวันตายและไร้เทียมทาน  ถ้าเขาไม่สามารถฆ่าเจ้ามดแมลงที่น่ารำคาญพวกนี้ได้ทันที  เขาก็แค่ไปหาที่สงบพักผ่อนและฟื้นฟูกำลัง
ถ้าเขาจะไป เขาต้องฆ่าเจ้าเด็กนั่นให้ได้ก่อน!
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง.........
เดิมทีองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่สามารถใช้ดาบเทพจักรพรรดิอวี้โยกคลอนภูเขาน้ำแข็งได้ แต่ชี่เทียนเหอสามารถถล่มภูเขาน้ำแข็งด้วยการโจมตีอย่างเต็มกำลังได้
น้ำแข็งก้อนใหญ่เท่ายอดเขาแตกกระจายจนคลุมเต็มท้องฟ้า
แนวโค้งท้องฟ้าคลุมเต็มไปด้วยน้ำแข็งหิมะ มองไม่เห็นท้องฟ้าเลย
ภูเขาน้ำแข็งที่แต่เดิมสูงถึงหมื่นเมตรพังถล่มจนตอนนี้ส่วนที่สูงที่สุดสูงไม่เกินสองกิโลเมตร  และฝังผนังน้ำแข็งที่ถูกมิติหลุมดำกลืนลงไปด้วย “เจ้าพวกมดแมลงเอ๋ย, นี่คือจุดจบของผู้ที่ดูหมิ่นเทพเจ้า!  ชี่เทียนหอแค่นเสียงเหยียดหยาม  ในเวลานั้นไม่ต้องพูดถึงเด็กหนุ่มที่ยังหลอมรวมกับอักขระรูนโบราณไม่เสร็จ ต่อให้เขาหลอมรวมได้สำเร็จ  เขาก็คงไม่รอด  ถ้าเขาได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีนี้  นอกจากนี้พลังของผนึกที่ถูกพลังเทพโจมตีจะได้รับผลกระทบกระเทือนอย่างหนัก  แล้วผนึกจะระเบิดพลังใส่เจ้าเด็กนั่นเป็นสองเท่า  และต่อให้เขาไม่ตาย ก็จะไม่มีทางออกมาได้เลย
 “ฮึ่ม!
ขณะที่ชี่เทียนเหอหมุนตัวเตรียมจะจากไป
ดาบวิเศษขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันใส่เขา
การฉวยเวลาโจมตีของนางนั้นยอดเยี่ยม  แต่ชี่เทียนเหอในเวลานี้ไม่ได้ใช้ร่างอวตารสีทองที่เกิดจากพลังเทพแยกออกมา  นอกจากนี้ต่อให้เป็นร่างอวตาร ด้วยพลังขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ยังไม่สามารถฟันเขาได้  อย่าว่าแต่ฟันเลย เพียงแค่นี้จะสร้างปัญหาให้กับชี่เทียนเหอได้หรือ?
ชี่เทียนเหอดูถูกเหยียดหยาม
เหมือนกับว่าเป็นแค่แมลงน้อย ที่พยายามกางเขี้ยวเล็บขู่
เขายกนิ้วปัดดาบเทพจักรพรรดิอวี้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน จากนั้นยิงพลังดรรชนีใส่นางจนร่วงไปที่เนินเขาขนาดใหญ่
ไม่รอให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้ดิ้นรนสู้ ชี่เทียนเหอเหยียดมือขวาไปที่ก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาและใช้นิ้วกดข้างหน้าเขา
ยอดภูเขาน้ำแข็งถูกบีบอัดจนแบนลง
ลักษณะบิดเบี้ยวดูน่ากลัว
ในพื้นที่ตรงกลางปรากฏรอยนิ้วมือขนาดหใญ่... ชี่เทียนเหอหรี่ตาและหลบฉาก เขาหลบพ้นจากพลังโจมตีของขุนพลเทพธิดาวายุ แตกต่างจากพลังโจมตีขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเพียงเล็กน้อย  เขาต้องเอาจริงในที่สุด ไม่กล้าใช้นิ้วตั้งรับ แต่ร่างของเขาหลบขุนเทพธิดาวายุอย่างลื่นไหล  อย่างไรก็ตามความคิดของชี่เทียนเหอก็ยังหยิ่งยโส  เขาเพียงแต่หลบไม่ได้ตอบโต้  แม้ว่าเขาจะไม่หันหน้ามองตอนที่หลบ แต่หน้าของศัตรูอยู่ที่ด้านหลังเสมอ 
เขาปล่อยหมัดไปที่ด้านหลังนับร้อยหมัด
ขุนพลเทพธิดาวายุไม่อาจรับหมัดของชี่เทียนเหอได้ แม้จะใช้พลังได้เพียงหนึ่งในสิบของเขาก็ตาม นางได้หลบถอยไปด้านหลัง
พลังในการต่อสู้ของขุนพลเทพธิดาวายุ ถ้าเทียบกับบรรดาอสูรมากมาย นางจะต้องติดสามสุดยอดเป็นอย่างน้อย  แต่เมื่อนางปล่อยหมัดโจมตีชี่เทียนเหอนี้  นางไม่สามารถทำร้ายฝ่ายตรงข้ามได้... ช่องว่างความห่างชั้นของพลังยังแตกต่างกันมาก
ในขณะที่ขุนพลเทพธิดาวายุไม่สามารถตามได้ทัน ชี่เทียนเหอรับมืออย่างใจเย็น ใช้ศอกโจมตีทันที
เขาศอกกระทุ้งเข้าที่ท้องของขุนพลเทพธิดาวายุ
ปัง...
ขุนพลเทพธิดาวายุร่างพุ่งชนภูเขาน้ำแข็งราวกับดาวตก พุ่งลงไปในผนังน้ำแข็ง ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น นางยังจมลึกไปและถูกฝังอยู่ในผนังน้ำแข็ง
 “นี่เป็นการดิ้นรนต่อสู้ของมดแมลง!  เมื่อมนุษย์นึกว่าตัวเองก็มีสิทธิ์เหยียบย่ำมดโดยไม่มีอะไร  สำหรับเทพเจ้าก็ฉันนั้น มนุษย์ก็เป็นแค่มดแมลงที่น่าสมเพช!  ชี่เทียนเหอดูเหมือนไม่มีความปราณีแม้แต่น้อย เขาจ้องมองฟ้าครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจส่ายศีรษะ  “ช่างเถอะ, ด้วยความเมตตา ข้าจะส่งพวกเจ้าสู่เส้นทางปรภพด้วยอาญาสวรรค์ สำหรับพวกเจ้าเหล่ามดแมลง นับว่าโหดร้ายจริงๆ!

5 ความคิดเห็น:

ulomzx กล่าวว่า...

อาญาสวรรค์ของเซือนหงษ์ฟ้าไม่ใช่รึ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Lex กล่าวว่า...

ไปทำร้ายเมียไอ้สาม จบไม่สวยแน่ท่านเทพ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับ

แสดงความคิดเห็น