วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 914 การต่อสู้ระหว่างเพลิงแดงสวรรค์กับเพลิงอมฤต


ตอนที่  914  การต่อสู้ระหว่างเพลิงแดงสวรรค์กับเพลิงอมฤต
ครึ่ก ครึ่ก!
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคลานออกมาจากซากน้ำแข็งหักพังอย่างทุลักทุเล
 
มือข้างหนึ่งถือดาบเทพช่วยพยุงตัว และอีกข้างหนึ่งใช้ปัดน้ำแข็งหิมะบนตัว หลังจากถ่มเลือดที่ยังอยู่ในปาก  นางมึนศีรษะและถามสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ที่ปรากฏตัวข้างๆ “แพนดอรา! เทพของสวรรค์บนมีลักษณะยังไง?”
 “หลายคนก่อนหน้านี้ข้าจำไม่ค่อยได้ แต่เจ้าโง่นั่นไม่มีประกายเทพ” แพนดอราในร่างสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ปฏิเสธ
 “อ๋า?  ยังมีนังมดแมลงน้อยที่มีพลังเทพอยู่ด้วย ไม่เลว หึ หึ หึ เป็นชะตาจัดสรร!  ชี่เทียนเหอตาโต  เขาพบว่าเวลานี้ในร่างของสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์มีพลังเทพที่มีความบริสุทธิ์มาก  แม้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหาพลังงานอย่างนั้นได้  แต่สำหรับเขา นี่คือพลังบำรุงในการฟื้นฟูตนเองอย่างดี!  ตราบใดที่สตรีนี้ถูกฆ่า เขาจะดูดกินพลังของนาง  เขาไม่เพียงจะกลับมาอยู่ในสภาพสุดยอดเท่านั้น แต่จะบรรลุถึงพลังเทพศักดิ์สิทธิ์ และมีประกายเทพอย่างแท้จริง!
ชี่เทียนเหอยิ่งคิดยิ่งมีความสุข
ถ้าเขาได้พลังเทพบริสุทธิ์ คาดว่าจะให้กำเนิดประกายเทพที่ไม่ต่ำทราม
ถ้าเขากลายเป็นเทพแท้ นั่นไม่ใช่เรื่องยากกับการเปิดแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ  ที่แดนล่มสลายแห่งทวยเทพมีวิญญาณนักรบ  เลือดเทพ สำนึกเทพและประกายเทพ เขาจะได้เลื่อนระดับเป็นเทพเจ้าสูงสุด
หลังจากกลายเป็นมหาเทพแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหอทงเทียน แดนสวรรค์ หรือแดนสวรรค์บน จะมิตกอยู่ในอำนาจของเขาหรือ?
ฮ่าฮ่าฮ่า!
มหาเทพ, อนาคตของเขาช่างสดใสเรืองรองเสียจริง!
คิดได้ดังนั้นแล้วชี่เทียนเหอหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
 “ไม่ต้องกลัว!  สาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์มองดูชี่เทียนเหอและมีท่าทางกลัว
แพนดอราปลอบใจนาง “ไม่ต้องกลัว!  เจ้าผู้นี้เป็นแค่กอริลลาโรคจิต!  ต่อให้หลายอย่างรู้สึกไม่ชัดเจน แต่อย่างหนึ่งที่ชัดเจนก็คือ อีกไม่นานเขาก็ตายแล้ว!  นอกจากนี้ยังตายอย่างน่าอนาถเสียด้วย!
ชี่เทียนเหอเมื่อได้ยิน แม้ว่าเขาต้องการแสดงตัวว่ามีพลังศักดิ์สิทธิ์  แต่ก็ทำไม่ได้ เขาโกรธจัดทันที  ตัวเขาเหมือนกอริลลาได้อย่างไร?
ได้ดูดกินพลังเทพของเจ้า นั่นคือความสุขของข้า!
แต่มดแมลงอย่างพวกนี้บังอาจพูดยั่วโมโหเขาอีกหรือ?
นอกจากนี้ยังคาดการณ์อย่างน่าขันว่าเทพเจ้าจะตาย?  เทพเจ้าน่ะหรือจะตาย?  ไม่มีใครเอาชนะเทพเจ้าได้  เว้นแต่เทพเจ้าด้วยกัน!  คนที่มีร่างเทพซึ่งถูกผนึกไว้ในภูเขาน้ำแข็งเป็นเวลาหลายหมื่นปี จนป่านนี้ก็ยังไม่มีอะไร  ถ้าไม่มีใครสามารถข่มขู่คุกคามเขาได้  เขากล้าพูดได้ว่านั่นเป็นคำพูดที่น่าขัน  มดแมลงเหล่านี้เป็นมนุษย์ เป็นพวกโง่ดักดานโดยแท้!
ทำไมเขาจะต้องไปโกรธพวกมดแมลงเหล่านี้ด้วย?
ชี่เทียนเหอคิดเรื่องนี้ได้แต่แค่นเสียเยาะเย้ย  และแสดงสีหน้าเย้ยหยัน
เขาไม่รู้ว่าครั้งหนึ่งแพนดอราเคยเป็นเทพนารีแห่งโชคร้ายที่น่ากลัวที่สุดแห่งแดนสวรรค์บน ทักษะในคำทำนายมรณะของนางไม่มีใครเทียบได้  หลังจากทำนายความตายของเย่ว์หยาง เหมือนกับว่าเย่ว์หยางสามารถแสดงความสามารถแมลงสาบอมตะที่ไม่รู้จักตาย  จนนางเกือบตายไปแล้ว
ชี่เทียนเหอไม่มีความกลัว  เขาพิจารณาแล้วว่าพลังเทพของนางจะใช้เป็นยาบำรุงที่เหมาะสมได้
 “.....”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดไม่ออก  ชี่เทียนเหอผู้นี้เหมือนกอริลลาจริงๆ ยามที่เขาคิดและโกรธ!
 “เจ้ากอริลลาผู้นี้น่ากลัวมาก!  สาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์หวาดกลัว
 “ข้าบอกคุณชายสามไปแล้ว  สาวใช้น้อยของเขาจะถูกพรากตัวไป นี่เขายังจะแกล้งตายอยู่อีกหรือ  หรือว่าเจ้าเบื่อไปแล้ว?”  การตอบสนองขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเป็นเพราะนางไม่อาจทนได้อีกต่อไป นางตะโกนขึ้น
 “เฮ้, อย่ามาใส่ความกันได้ไหม, ข้าไม่ได้แกล้งตายสักหน่อย แต่อักขระรูนอมตะมันหลอมรวมได้ยาก  ทุกคนคิดว่ามันเป็นอักขระรูนโบราณ  ใครจะรู้กันเล่าว่านี่เป็นอักขระรูนอมตะ!  เจ้าก็รู้ดีว่าแค่อักขระรูนโบราณก็ยากจะทนอยู่แล้ว อักขระรูนอมตะยิ่งหนักขึ้นไปอีก.. มันเป็นการเข้าใจผิด เป็นการคาดการณ์ที่ผิด  ถ้าไม่ได้เจ้าอุรังอุตังนี่ช่วยระเบิดภูเขาน้ำแข็งช่วยข้าไว้ได้ ข้าพูดได้เดี๋ยวนี้เลยว่า ไม่มีทางจะหลอมรวมกับอักขระรูนอมตะได้เต็มที่!  เจ้าก็เห็นว่าเขาทำงานอย่างหนักและช่วยเราได้มากแค่ไหน  จะไม่ให้โอกาสเขาเลย มันก็ยากจะพูดได้”  เย่ว์หยางออกมาจากภูเขาน้ำแข็ง  เขาไม่สวมเสื้อผ้า มีแต่อักขระรูนนับไม่ถ้วนกระพริบอยู่บนร่างของเขา
อย่างไรก็ตามพอเจ้าเด็กออกมาอย่างนี้ ก็ไม่มีอะไรจะขัดขวางการรับรู้ของเขาได้
เขามีหมอกควันเต็มตัวและวิ่งเข้าไปกอดสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ที่กำลังสั่นด้วยความกลัวและปลอบโยน  “ไม่ต้องกลัว  อย่ากลัวไปเลย  ความจริงเจ้าอุรังอุตังนี่ก็ทำได้ดีเลย  นี่เป็นผลจากการโยนกล้วยให้มันสองสามลูกเท่านั้นนะ...ดูสิ!
 “เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!
ชี่เทียนเหอเห็นว่าเจ้าเด็กนี่โยนกล้วยให้เขาจริงๆ เขาตัวสั่นอย่างช่วยไม่ได้  ใครเป็นอุรังอุตังกันแน่  เขาเหมือนอุรังอุตังตรงไหน? ฮึ่ม...
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหัวเราะจนตัวงอ
หลังจากเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกันมา นางไม่สนใจสภาพเปลือยกายของเย่ว์หยางต่อไป
เข้าใจผิดว่าอักขระรูนอมตะเป็นอักขระรูนโบราณนั้นแย่มาก  รอดชีวิตกลับมาได้ก็นับว่าบุญโขแล้ว
นางไม่สนใจชี่เทียนเหอที่กำลังจะใช้เพลิงแดงสวรรค์โจมตี นางกางแขนและกอดเย่ว์หยาง  “ตัวร้าย!  เจ้าทำให้ข้ากลัวแทบตาย  ข้าบอกแล้วว่าการเข้าไปในผนึกอันตรายมาก แต่เจ้าก็ยังเสี่ยงทำ... ปลอดภัยแล้ว...”  ขณะที่เย่ว์หยางกำลังแต่งตัว นางสำรวจพบว่าพลังงานของอักขระรูนอมตะซึมเข้าร่างของเขาเหมือนตราสินค้า และที่ผิวหนังของเขาก็ยังหลอมรวมได้ไม่เต็มที่
โชคดีที่เย่ว์หยางหลอมรวมอักระรูนอมตะได้  มิฉะนั้นแผนทั้งหมดจะถูกทำลายเพราะความเลินเล่อนี้จริงๆ!
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้มือลูบอักขระรูนบนผิวของเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางขมวดคิ้ว “อย่าเพิ่งแตะ, มันเจ็บ!
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้แค่นั้น  ความจริงเย่ว์หยางยังหลอมรวมไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์  เพราะเขากังวลถึงความปลอดภัยของเขานางจึงรีบเข้ามาหาเขา แต่เจ้าเด็กตัวร้ายนี่... “สมน้ำหน้า  ถ้าเจ้าตายไปก็คงไม่เจ็บอีกต่อไป!  ประโยคนี้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคงจะไม่พูดออกมาอย่างแน่นอน  แต่ชี่เทียนเหอมองดูด้วยความโกรธ  เขากลั่นเพลิงแดงสวรรค์ สว่างเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ โดยหลีกเลี่ยงไม่ทำร้ายร่างที่อ่อนแอของสาวใช้น้อย... เขาใช้กรงเล็บเพลิงจับคอของเย่ว์หยาง 
 “ไม่เลว... แต่เจ้าคิดยังไงบ้าง?”  เย่ว์หยางมีสีหน้าประหลาดใจ  เหมือนกับสงสัยว่าอุรังอุตังจะมีระดับไอคิวถึงขนาดนี้หรือไม่?
ตายซะเถอะ
ชี่เทียนเหอทนไม่ได้อีกต่อไป
กรงเล็บเพลิงรวบที่คอของเย่ว์หยางทันที  เขาตัดสินใจใช้กำลังเหมือนหักคอไก่ ไม่,  เจ้าเด็กนี่เหมือนกับมดต่างหากเล่า  เขาจะไม่มีทางเกลียดใครได้มากเท่าเจ้าเด็กเลวร้ายนี้อีกแล้ว!  ถ้าไม่ฆ่าเจ้าเด็กเวรนี่ ต่อให้เขาได้เป็นมหาเทพ  เขาก็คงไม่มีความสุข!
แววตาของเย่ว์หยางไม่มีความรู้สึกกลัว  แต่เขายังสงบและต่อสู้กับศัตรูได้อย่างเด็ดเดี่ยว
มือของเขาใช้เทเลพอร์ตส่งองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ออกห่างไปหนึ่งกิโลเมตรอย่างนุ่มนวล
ตอนนี้ด้านหลังของเขามีเสี่ยวเหวินหลี
เธอตวาดและใช้ทักษะแฝงเร้นพันธนาการ ซึ่งไม่ด้อยไปกว่าแถบแสงผนึกเทพ ทำให้ชี่เทียนเหอที่กำลังบีบคอเย่ว์หยางช้าลง
ขณะเดียวกันขุนพลเทพธิดาวายุที่จมอยู่ในซากหักพังของภูเขาน้ำแข็งปรากฏตัวที่ด้านหลังชี่เทียนเหอ  หมัดทั้งสองของนางกระแทกใส่กกหูซ้ายและขวาของชี่เทียนเหอ
ครึ่งวินาทีต่อมาชี่เทียนเหอก็สลัดพ้นจากทักษะพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลี เขาสะบัดศีรษะด้วยความโกรธ
ขุนพลเทพธิดาวายุถูกกระแทกสะท้อนกลับด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขา
เขาบีบคอเย่ว์หยางด้วยมือข้างหนึ่ง และใช้สายตาประชดประชันกล่าว “เจ้าพวกมดแมลงตัวน้อยอย่างพวกเจ้าจะทำอะไรได้?”
เย่ว์หยางยิ้มเต็มหน้า  “เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นเทพในตำนานไม่ใช่หรือ ข้าจะทำให้เจ้าระเบิด!  การมีพลังก็นับว่าไม่เลว  แต่ด้วยพลังที่เจ้ามี เจ้าก็ต้องมีแผนการใช้พลังด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องเข้าใจพลังที่เจ้ามีอย่างชัดเจน... ข้ารู้ว่าเจ้ามีอะไร  เจ้ามันว่างเปล่าไม่มีอะไร  นอกจากพลังของกอริลลา!
หลังจากชี่เทียนเหอได้ยิน เขามีสีหน้าบิดเบี้ยวเหยเก
เขาไม่เคยเห็นคนที่ถูกบีบคอใกล้จะขาดใจตาย ยังกล้าแสดงความยโสโอหังอีกหรือ?
 “ไปลงนรกซะ!  ชี่เทียนเหอไม่อาจพูดกับเย่ว์หยางได้อีกต่อไป  เขากลัวว่าเมื่อเขาพูด เขาจะกลายเป็นบ้าวิกลจริตไปเสียก่อน!
เมื่อเขาเตรียมจะระเบิดร่างเย่ว์หยางด้วยเพลิงแดงสวรรค์และปล่อยให้เขาค่อยๆ ตายไป ทันใดนั้นชี่เทียนเหอรู้สึกร้อนทันที  “มือของข้ากำลังไหม้หรือ?”  มือของชี่เทียนเหอจะถูกเพลิงแดงสวรรค์เผาได้ยังไง!
อย่างไรก็ตามวินาทีต่อมาเขาหายสงสัย เพราะเขาเห็นร่างเจ้าเด็กที่อยู่ข้างหน้าปล่อยเปลวไฟที่ไม่มีใดในโลกเปรียบปานได้
เพลิงอมฤต!
เพลิงอันดับหนึ่งที่แท้จริงของโลก
แม้แต่เพลิงแดงสวรรค์จะเป็นเพลิงที่แผดเผาและชำระสรรพสิ่งได้ แต่ก็ยังมีระดับที่ต่ำกว่า   ในใจของชี่เทียนเหอมีความริษยาสุดขีด  แค่มีวงจักรนิรันดรและอักขระรูนอมตะก็ยังไม่เพียงพออีกหรือ?  เจ้ามนุษย์ที่เสมือนมดแมลงยังมีเพลิงอมฤตอีกด้วย   เจ้าผู้นี้เข้าใกล้ความเป็นเทพเจ้ามากกว่าเขา มันไม่ยุติธรรมเสียเลย  ทำไมเจ้ามนุษย์น้อยถึงมีเพลิงอันดับหนึ่งของโลกธาตุได้?
อ๊าคคคคคคคค!
ต่อให้เจ้ามีเพลิงอมฤต ข้าก็จะต้องฆ่าเจ้าให้ได้  ถ้าเพลิงแดงสวรรค์ไม่สามารถเผาเจ้าได้ ข้าจะใช้พลังเทพบิดหักคอเจ้า!
 “น่าขัน!  เย่ว์หยางสะบัดศีรษะหลุดออกมาก่อน และใช้กฎสวรรค์น้อยเหมือนมีมือยักษ์ง้างนิ้วของชี่เทียนเหอทีละนิดจนกระทั่งคอของเย่ว์หยางหลุดจากการคว้าจับ  เย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตเผามือขวาและคว้าคอของชี่เทียนเหอบ้าง  “อย่านึกว่าเจ้ามีพลังเทพคนเดียวนะ  ของข้าก็มีเป็นพลังเทพปั่นป่วน  ข้าเก็บเอาไว้ในสนามพลังสร้างโลก ใครก็ตามรวมทั้งเทพไม่มีทางจะหักคอข้าได้ ก่อนที่ข้าจะหมดสติ ข้ายังมีสิ่งที่เรียกว่าปณิธานราชันย์ คนอย่างเจ้าไม่มีทางเข้าใจ  เจ้าไม่ใช่เพียงคนเดียวที่ได้รับเลือดเทพและไฟเทพศักดิ์สิทธิ์!
ชี่เทียนเหอคว้าแขนเย่ว์หยางและใช้มือซ้ายจับเขาไว้แน่น
ส่วนแขนขวาเขาปล่อยหมัดใส่ท้องน้อยเย่ว์หยาง ในวินาทีเดียวเขาออกหมัดถึงร้อยหมัด
ร่างของเย่ว์หยางไม่ขยับ เขาใช้มือขวาคว้ากลับในขณะที่ถูกต่อยท้องน้อย มือซ้ายของเขาไม่ได้ป้องกันแต่อย่างใด เขาใช้หมัดต่อยสวนไปหมัดหนึ่ง แต่ในสายตาของชี่เทียนเหอเขาเซไปเพราะมีหมัดระดมต่อยใส่หน้าของเขาถึงร้อยหมัด
ปัง!
ทั้งสองคนยืนตัวตรง
แต่คลื่นแรงระเบิดจากหมัดที่หนักหน่วงของทั้งสองกวาดน้ำแข็งหิมะออกไปในระยะสิบกิโลเมตร พลังน่ากลัวยิ่งกว่าพายุเฮอริเคนพัดผ่าน
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพาสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ที่ทรงตัวไม่ได้ ถอยออกมาห่างๆ
ชี่เทียนเหอตาแดงเหมือนกระทิง เขาไม่สามารถอดทนที่ศัตรูทำให้เขาอัปยศได้  ขณะที่โจมตีศัตรู อีกฝ่ายยังสามารถโต้ตอบได้อย่างคาดไม่ถึง และยังเป็นที่หน้าของเขา... นี่นับเป็นความอับอายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน...!
 “ระเบิดสุญญากาศ!  ชี่เทียนเหอตั้งท่าทางลึกลับบีบอัดพลังที่แข็งแกร่งอย่างไม่มีขีดจำกัด สุดท้ายกดพลังนั้นใส่หน้าอกเย่ว์หยาง นี่คือสุดยอดไม้ตายที่สามารถถล่มภูผา  ชี่เทียนเหอถ้าไม่ใช่เพราะอับอายกลายเป็นโทสะ ปกติจะไม่ยอมใช้ไม้ตายนี้ เพราะนี่คือหนึ่งในสามไม้ตายลับของเขา!-!

5 ความคิดเห็น:

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Unknown กล่าวว่า...

...อืม รู้สึกเดจาวูยังไงชอบกล เหมือนตบยักษ์ไตตันโบราณ โม้เยอะ พูดมาก สุดท้ายก็เป็นอาหารให้เหล่าอสูรของเฮียเเก...

ulomzx กล่าวว่า...

เย่ว์หยางวอนเจ็บตัว..มาว่าเชี่ยนเชี่ยนและสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์เป็นกล้วยได้ไง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับ

แสดงความคิดเห็น