วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 934 เลื่อนระดับพยัคฆ์ขาวเป็นอสูรเทพ


ตอนที่  934  เลื่อนระดับพยัคฆ์ขาวเป็นอสูรเทพ
การยกระดับพลังองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเป็นระดับพลังปราณราชันย์คือเป้าหมายที่อยู่ในใจของเย่ว์หยางมาโดยตลอด แค่อาศัยพลังนางตามลำพัง ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้  แต่ต้องใช้เวลานาน  ก่อนจะเปลี่ยนแปลงถึงขั้นนั้นเย่ว์หยางได้แต่รออยู่เงียบๆ
 
ตอนนี้มีศัตรูมากขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์วิกฤติกำลังแผ่ขยาย จำเป็นต้องยกระดับพลังของนางเป็นพลังปราณราชันย์ให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้
นอกจากนี้เย่ว์หยางก็มีขอบเขตพลังปราณราชันย์ที่สมบูรณ์แบบ  แม้แต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็ยังหันกลับมามีส่วนร่วมกับเขาอีกครั้ง นางสัมผัสได้ถึงข้อบกพร่องของพลังปราณราชันย์ได้อีกครั้ง เพื่อชดเชยข้อบกพร่องจึงต้องปล่อยให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฝึกตามลำพัง!   ดังนั้นเย่ว์หยางจึงคาดหวังว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฝึกลำพังคนเดียวจะทำให้แข็งแกร่งมากกว่า
แต่ก่อนจะได้รับมุกพยัคฆ์ขาวศักดิ์สิทธิ์  เย่ว์หยางมีแผนอย่างหนึ่ง  ตอนนี้ได้มุกพยัคฆ์ขาวศักดิ์สิทธิ์  แม่เสือสาวตื่นเต้นอย่างคาดไม่ถึงที่ได้มุกศักดิ์สิทธิ์  เย่ว์หยางรู้สึกว่าเวลาสุกงอมเต็มที่แล้ว และเขาได้ปรับปรุงแผนเดิมโดยดำเนินการสามขั้นตอน
ขั้นตอนแรกใช้พลังงานของอัญมณียกระดับพยัคฆ์ขาวอสูรศักดิ์สิทธิ์ของแม่เสือสาวไปเป็นสุดยอดอสูรศักดิ์สิทธิ์  และจะดีที่สุดถ้าไปได้ถึงระดับเตรียมอสูรเทพ
ขั้นที่สองใช้พลังงานบริสุทธิ์ของหญ้าวิญญาณเทพอัคคีบวกกับเลือดเทพเพื่อยกระดับมันให้ใกล้ระดับอสูรเทพมากที่สุด
ระดับที่สามขั้นสุดท้ายซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก  เย่ว์หยางเตรียมชักนำองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้บรรลุผ่านระดับปราณราชันย์ และหลอมรวมปรับแต่งให้เข้ากับดาบเทพจักรพรรดิอวี้ และเปลี่ยนให้เป็นสมบัติวิเศษของนางเอง  ตามวิธีนี้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังไม่สามารถถึงระดับสุดยอดปราณราชันย์ได้เหมือนเย่ว์หยาง  แต่อย่างน้อยก็เป็นการบรรลุระดับใหม่ที่สมบูรณ์ มีอสูรพิทักษ์กลายเป็นอสูรเทพและมีอาวุธเทพอยู่ในมือ  เขาเชื่อว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้บรรลุระดับปราณราชันย์ จะเป็นนักสู้หลัก และกลายเป็นนักดาบหญิงในสนามรบได้
 “ไม่ต้องกังวล  วันนี้พักไว้ตรงนี้ก่อน   อย่างน้อยข้าต้องการเวลา”
ความคิดขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถูกแยกจากกันในสภาวะฝึกพลังคู่รัก
เมื่อยังไม่ถึงระดับปราณราชันย์ นางไม่สามารถรู้สึกได้ถึงโลกในจิตใจของเขาอยู่เป็นเวลานาน.. ความรู้สึกนั้น เหมือนกับเย่ว์หยางไม่สามารถรู้สึกได้ถึงจื้อจุน, จักรพรรดินีราตรีและใจของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีอยู่เป็นเวลานาน
จักรพรรดินีราตรีจะดีกว่าเล็กน้อย และพลังในปัจจุบันของเย่ว์หยางใกล้เคียงกับระดับของนาง
เย่ว์หยางยังตามหลังจื้อจุน
แต่ความรู้สึกผสานพลังกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลีจะชัดเจนที่สุด  ในช่วงแรกเย่ว์หยางแทบไม่สามารถทนได้แม้แต่วินาทีเดียว  ต่อมาภายใต้โลกพฤกษาเขาเข้าใจและหลอมรวมกับใจนางสำรวจพลังของกันและกัน นั่นยังไม่เพียงพอสำหรับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ซึ่งก็เป็นอย่างนี้ นางรู้สึกว่านางยังต้องเงยหน้ามองดูเย่ว์หยาง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งใจของนาง เมื่อมองดูขอบเขตระดับเทพ นั่นยากที่จะคงอยู่ได้เป็นเวลานาน
ขอบเขตของเย่ว์หยางไม่ปรากฏตอนนี้ นางไม่สามารถสำรวจเหนี่ยวนำได้
แน่นอนว่าสภาพใจแบบนี้จะผสานได้สมบูรณ์แบบมาก   แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดมาก แต่ก็ได้รับประโยชน์มาก
หลังจากพยายามหลายรอบในที่สุดใจของทั้งสองก็ผสานเข้าด้วยกันเป็นเวลานาน
พยัคฆ์ขาวอสูรพิทักษ์ซึ่งหลอมรวมกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยอมรับใจของเย่ว์หยางในขอบเขตเทพเป็นครั้งแรกและรับถ่ายทอดแหล่งพลังโกลาหลมาจากในร่างของเขาและรับการชำระวิญญาณด้วยปราณกระบี่และเพลิงอมฤต
อ๊าาาาาาาา.......
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัส
ราวกับว่าร่างมนุษย์ของตนเองถูกเพลิงอมฤตเผาผลาญจากในออกมาข้างนอก  อย่างไรก็ตามการเผาผลาญเช่นนี้คงอยู่ตลอดไป  เมื่อใดก็ตามที่พลังในร่างนางขาดไปเล็กน้อย  จะมีพลังจากแหล่งพลังปั่นป่วนและพลังปราณกระบี่เข้ามาช่วยเสริม เพื่อให้เพลิงอมฤตทำการชำระต่อไปได้  แม้ว่านางทำท่าว่าไม่สามารถทนได้ เย่ว์หยางจะเปิดใช้วงจักรนิรันดรบังคับให้นางอยู่ในสภาวะชำระวิญญาณไม่ปล่อยให้นางเลิกรากลางครัน
ความเจ็บปวดเช่นนี้ยากที่คนธรรมดาจะทนได้
ด้วยทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ของนาง องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะรับความรู้สึกได้เร็วกว่า ความรู้สึกจึงมากกว่าคนอื่นๆ เป็นธรรมดา พูดให้ถูกก็คือนางจะทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดมากกว่าคนอื่นถึงร้อยเท่า  อย่างไรก็ตามสิ่งที่เย่ว์หยางต้องการก็คือ นางจะต้องได้รับการรักษาและเกิดใหม่ด้วยพลังชำระที่ยิ่งใหญ่  นั่นเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดและทรงพลังที่สุด
ทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ซึ่งถูกชำระจนรู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัส จะทำให้ประสาทรับรู้ทั้งหกทรงพลังอย่างที่สุด
และยกระดับพยัคฆ์ขาวอสูรพิทักษ์
มันจะเติบโตในสภาพที่ดีที่สุด
เย่ว์หวี่และจุ้ยมาวอี้รอดูอยู่ด้านนอกด้วยความกระวนกระวาย แต่มิอาจช่วยได้
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนต้องผ่านความยากลำบากไปให้ได้ด้วยตัวนางเอง ผ่านการทดสอบที่แท้จริงนี้ จะได้ทองเนื้อดีที่สุด
การฝึกฝนยังคงดำเนินต่อไป
หนึ่งนาที สามนาที ห้านาที สิบนาที หนึ่งชั่วโมง สามชั่วโมง ห้าชั่วโมง  ในช่วงกลางครันของการฝึกฝน เย่ว์หวี่และจุ้ยมาวอี้หักห้ามความอายหันไปมองเย่ว์หยางที่อยู่ในสภาพเปลือยกายฝึกปรือพลังคู่รักถ่ายทอดพลังงาน พวกนางช่วยเขาให้คงอยู่ในสภาวะฝึกฝนต่อได้  แต่ไม่กล้าเผชิญหน้า เพราะกลัวจะรบกวนสมาธิองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจนเกิดความล้มเหลวในที่สุด
ขณะเดียวกันทั้งสองนางตกใจกับความพากเพียรขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
แม้ว่าเย่ว์หยางจะช่วยอย่างเต็มที่และบางครั้งด้วยพลังช่วยเหลือจากวงจักรนิรันดร  อย่างไรก็ตามสามารถดำเนินการฝึกฝนต่อเนื่องถึงห้าชั่วโมงก็นับว่าเป็นความอดทนอย่างเหลือเชื่อ
เย่ว์หวี่ประหลาดใจในความมุ่งมั่นขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน และจุ้ยมาวอี้ลอบละอายใจว่านางยังเป็นรองมาก
นางชื่นชมความมุ่งมั่นของแม่เสือสาวจริงๆ
การฝึกยังคงดำเนินต่อไป
ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด
จู่ๆ สรรพสิ่งก็เงียบลงในทันที  แต่ทันใดนั้นมีเสียงพยัคฆ์คำรามดังออกมาและมีพลังปะทุออกมาจากร่างองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เกิดคลื่นแรงระเบิดกระจายไปทั่วโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยางอย่างเงียบๆ ดูเหมือนว่าพยัคฆ์ขาวอสูรพิทักษ์ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะบรรลุผ่านระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ไปเป็นระดับสุดยอดอสูรศักดิ์สิทธิ์หรือระดับเตรียมอสูรเทพ ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดมาถึง จะมีการบรรลุอีกครั้ง หรือจะอยู่ในระดับขอบเขตนี้ไปอีกนานเพื่อรอเวลาในอนาคต?
 “ลงมือกันเถอะ!
เย่ว์หวี่กับจุ้ยมาวอี้มองหน้ากันและพยักหน้ายืนยัน
คนหนึ่งถือหญ้าวิญญาณเทพอัคคีซึ่งเย่ว์หยางปรุงเป็นของเหลวแล้ว อีกนางหนึ่งถือเลือดเทพที่เย่ว์หยางเตรียมเอาไว้
ในช่วงเวลาของการเลื่อนระดับของพยัคฆ์ขาว แผนการของเย่ว์หยางก้าวหน้าเป็นอย่างดี  ขั้นแรกและขั้นที่สองทำได้ดีที่สุดในช่วงเวลาเดียวกัน  เพราะหลังจากสำเร็จขั้นที่หนึ่ง โดยไม่ต้องคำนึงถึงการปรับสภาพร่างกายขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน พยัคฆ์ขาวยังคงมีสภาวะมั่นคงหลังจากเลื่อนระดับ ต้องใช้เวลาสักครู่แล้วจึงจะยกระดับใหม่ได้ เวลาต้องทิ้งช่วงกันนาน  เพราะเหตุที่ต้องแข่งกับเวลา จะต้องทำให้สำเร็จในพริบตาเดียว  การใช้พลังจากมุกศักดิ์สิทธิ์พยัคฆ์ขาว น้ำยาหญ้าเทพอัคคีและเลือดเทพ เพื่อบรรลุพลังระดับใหม่เป็นอสูรเทพในทันที
ร่างขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเปล่งรัศมีเป็นพันสาย
คมชัดเหมือนคมมีด
แรงระเบิดทำให้เสื้อผ้าของเย่ว์หวี่และจุ้ยมาวอี้สลายเป็นผุยผง และพวกนางเกร็งพลังต่อต้าน
พวกนางพยายามฝ่าเข้าไปหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและหยดของเหลว หยดเลือดเทพบนมุกพยัคฆ์ขาวบนหน้าผากนาง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเกือบจะล้มหมดสติอยู่หลายครั้ง เย่ว์หยางปล่อยให้อัญมณีพยัคฆ์ขาวคุ้มครองนาง ส่วนตนเองใช้มือประคองหลังศีรษะนาง
เสี่ยวเหวินหลีช่วยประคองหลังมือเย่ว์หยางอีกครั้ง
อัญมณีพยัคฆ์ขาวแปะอยู่ที่ระหว่างคิ้วขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
น้ำยาวิเศษและเลือดเทพ
ถูกหยดไว้แล้ว
และซึมเข้าไปในอัญมณีสีขาวทันที พลังงานของอัญมณีพยัคฆ์ขาวซึมเข้าไปในใจของพยัคฆ์ขาวอสูรพิทักษ์ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโดยตรง กลั่นพลังวิญญาณให้อยู่ในสภาพสูงสุดและหลอมรวมกับเลือดเทพ  ศักยภาพในขณะนั้นถูกระเบิดและปลดปล่อยพลังออกมาจนถึงขีดสุด
คัมภีร์อัญเชิญขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนปรากฏออกมาทันที
รัศมีสีทองสามสายฉายลงที่ด้านบนคัมภีร์อัญเชิญ  บนศีรษะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หยาง
ฉายขึ้นท้องฟ้าบิดเป็นเกลียวพลุ่งตรงขึ้นไปด้านบนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ดูเหมือนว่ามีภาพที่พยัคฆ์ขาวที่ดุร้ายโดดออกมาจากร่างขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและจากนั้นกลายเป็นภาพพยัคฆ์ขาวขยายเต็มท้องฟ้าของโลกคัมภีร์
มันอ้าปากคำรามเงียบๆ
แต่ทั้งโลกสั่นสะเทือนเหมือนจะทนไม่ได้อีกต่อไปขณะพยัคฆ์ขาวคำราม
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่เกือบจะหมดสติอยู่แล้วลืมตาขึ้นทันที ดวงตาของนางฉายประกายเจิดจ้าเทียบได้กับเทพเจ้าผู้ทรงพลัง คัมภีร์อัญเชิญของนางเปล่งรัศมีเจิดจ้าจนยากจะมอง และมีแสงสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าคัมภีร์อัญเชิญเดิมเลื่อนระดับเป็นคัมภีร์เพชรชั้นสุดยอดใกล้เคียงกับคัมภีร์ระดับศักดิ์สิทธิ์  คัมภีร์อัญเชิญพลิกหน้าเปิดโดยอัตโนมัติ และมีหน้าใหม่ปรากฏเป็นภาพพยัคฆ์ขาวตั้งแต่วัยเด็กและกลายเป็นอสูรเทพ!
ส่วนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่อยู่ใกล้ๆ ยังไม่สามารถบรรลุระดับใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง นางถึงขีดจำกัดและหมดสติอยู่ในอ้อมแขนเย่ว์หยาง
สนามพลังศักดิ์สิทธิ์มีอสูรศักดิ์สิทธิ์ในตำนานปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สายฟ้า ธาตุดิน น้ำแข็งและเปลวเพลิงปรากฏเต็มทั้งฟ้า   การเพิ่มพลังของอสูรศักดิ์สิทธิ์พยัคฆ์ขาวช่วยสนับสนุนพลังสนามพลังศักดิ์สิทธิ์  เกิดรอยฉีกขาดในพื้นที่นับพันจนแทบทำลายโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยาง
โชคดีที่โลกคัมภีร์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และเย่ว์หยางควบคุมพลังปณิธานไว้ได้หลังจากองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหมดสติแล้ว
ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะพังพินาศทันที
 “แม่เสือสาวนี้บรรลุระดับพลังใหม่ได้น่ากลัวจริงๆ!  จุ้ยมาวอี้ตกใจและเกือบถูกปราณดาบของนางฆ่า  โชคดีที่มีการปกป้องจากเย่ว์หยางและเสี่ยวเหวินหลี  มิฉะนั้นผลที่ตามมาคงสุดคาดคิด
 “หลังจากผ่านความทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสามารถอดทนผ่านไปได้  ถ้านางสามารถบรรลุระดับปราณราชันย์ นางจะหลอมรวมกับดาบเทพได้  จากนั้นจะไม่มีใครหยุดความก้าวหน้าระดับติดปีกบินในเส้นทางของนางได้  นางกับเสวี่ยอู๋เสียจะเป็นนักสู้ปราณราชันย์ระดับอัจฉริยะแน่นอน!  เย่ว์หวี่ทั้งมีความยินดีกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและรู้สึกเศร้าใจกับตัวนางเองที่ยังยืนหยัดด้วยตนเองไม่ได้ แม้ว่านางจะว่าเป็นไปไม่ได้  แต่นางยังหวังว่านางจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเสี่ยวซานและสามารถตามดูแลเขาได้มากยิ่งขึ้น  สักวันนางอาจจะถูกทิ้งจนอยู่ห่างตลอดไป....”
 “เจ้าก็ทำได้เช่นกัน เพียงแต่เจ้ายังไม่ได้ทุ่มเทอย่างแท้จริง”  จุ้ยมาวอี้คิดว่าเย่ว์หวี่นี้ก็เป็นอัจฉริยะตัวจริง  และอนาคตของนางมิอาจจะคาดคิดได้
แต่เนื่องจากสถานะนาง นางจึงมิอาจโน้มน้าวใจเย่ว์หวี่ได้
ที่สำคัญตอนนี้เย่ว์หวี่คือพี่สาวรองของเขา
คำพูดบางคำเป็นเรื่องน่าอายเกินกว่าจะพูดออกไป
เย่ว์หยางถ่ายเทพลังให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่หมดสติ และฟื้นฟูสภาพร่างกายของนาง เขามิอาจฝืนความเหนื่อยล้าได้ในที่สุด  ยังไม่ทันรับแก้วน้ำจากจุ้ยมาวอี้ก็ทรุดลงกับพื้น จุ้ยมาวอี้กับเย่ว์หวี่รับร่างเขาและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไว้
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่เป็นไร  นางเพียงแต่ปรับสภาพร่างกายรับการยกระดับพลังต่อเนื่องไม่ไหว นางแค่ต้องการปรับตัวและหลับพักผ่อน
ส่วนเย่ว์หยางเหนื่อยหนักสายตัวแทบขาด
สองสาวมองหน้ากันเองและจุ้ยมาวอี้เบือนสายตาจากเย่ว์หวี่และอุ้มองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนออกไป ปล่อยให้เย่ว์หวี่อยู่ตามลำพัง
นางรู้ว่าเย่ว์หยางเหนื่อยล้าต้องการฟื้นฟูร่างกาย นั่นต้องเป็นหน้าที่ของเย่ว์หวี่ มีแต่พลังน้ำที่บริสุทธิ์ของนางจะใช้ได้ผลดีที่สุด  จุดนี้พลังน้ำแข็งบริสุทธิ์ของเสวี่ยอู๋เสียยังเป็นรองอยู่มาก
จุ้ยมาวอี้อุ้มองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจากไป
เย่ว์หวี่ค่อยรู้สึกหายอึดอัดใจ
สำหรับน้องชายของนางที่เหน็ดเหนื่อยจนหลับ นางเห็นมามากและช่วยให้เขาฟื้นฟูพลังมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในการทดลอง หลังการต่อสู้หรือเมื่อหลอมรวมกับอักขระรูน หรือปรุงยาก็ตาม เมื่อเขาเหนื่อยนางจะใช้พลังเพื่อช่วยเหลือเขาแทบจะทันที  นางคุ้ยเคยกับสถานการณ์นี้นานแล้ว และนางไม่อาจรออะไรอื่นได้ นางรีบก้มและกอดน้องสามที่ทั้งน่ารำคาญและน่ารัก ขณะที่ฟื้นฟูพลังให้เขานางก็บ่นเขาไปด้วย  “ยิ่งโตก็ยิ่งทำตัวเหมือนเด็ก เมื่อไหร่เจ้าจะทำให้พี่สาวของเจ้าสบายใจได้เสียที!  ไม่ทราบว่าข้าเป็นหนี้เจ้าแต่ชาติปางไหน ชาตินี้ถึงต้องมาชดใช้คืนให้เจ้า...”
สิ่งที่เย่ว์หวี่พูดนั้น เย่ว์หยางไม่ได้ยิน เพราะเขาหลับไปแล้ว
แน่นอนว่าเมื่อเขาฟื้นขึ้นมา
นางจะไม่พูดกับเขาเรื่องนี้
พอวันแรกที่เย่ว์หยางฟื้นฟูร่างกายได้ก็เผ่นวิ่งไปหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน “แม่เสือสาว, ขอดูเจ้าหน่อยซิ  อสูรเทพกับเจ้านายอยู่ในสภาวะเดียวกัน ข้ายังไม่เคยเห็นเลย”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเห็นว่าจุ้ยมาวอี้และเย่ว์หวี่กำลังพักผ่อนและยังไม่ลุกขึ้น นางใช้กำปั้นยันหน้าอกเย่ว์หยาง
 “เกิดอะไรขึ้น?”  เย่ว์หยางประหลาดใจ  แม่เสือสาวไม่พอใจอย่างนั้นหรือ?
 “เจ้าพูดไม่รู้จักอายแบบนั้น ข้ากลายเป็นพยัคฆ์ขาวจริงๆ แล้ว!” หน้าขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแดงทันที และร้อนผ่าวด้วยความอาย
 “อะไรนะ?” เย่ว์หยางไม่เข้าใจ  หลังจากอึ้งอยู่นานเขาค่อยสนองตอบ  “ด้วยอสูรเทพ มันกลายเป็นพยัคฆ์ขาวหรือ? ข้าไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? ขอข้าดูก่อน”
 “ดูเงาหัวเจ้าเองเถอะ!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเห็นอาการช่างสงสัยของเจ้าเด็กนี่แล้ว นางอับอายกลายเป็นโกรธ นางทุบเขาลอยกระเด็น

7 ความคิดเห็น:

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่เย่วช่างหน้าด้านนัก 555

ulomzx กล่าวว่า...

ใช่ๆองค์หญิงมีพยัคฆ์ขาวอยู่ตัวหนึ่ง..พยัคฆ์ขาวตัวนั้นไม่มีขนด้วยสิ5555

Lex กล่าวว่า...

เจ้าเมืองโล่วฮัวมีกระต่ายขาว 1 คู่นะ ไอ้สามได้แล้วทำเป็นลืม

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Lucky กล่าวว่า...

หัาห้า. ขอดูพยัคฆ์ขาวกันหน้าด้านๆเลย 👍👍👍

บักซาดซัว กล่าวว่า...

บางทีก็น่าลำคานเชี่ยนเชี่ยนเหมือนกันนะ

แสดงความคิดเห็น