วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 946 หญิงงามจูกวง


ตอนที่  946  หญิงงามจูกวง
เย่ว์หยางรู้สึกอะไรบางอย่างได้และมองย้อนกลับไปดู
 
หมิงลี่ฮ่าวไม่ได้อยู่ข้างหลังอีกต่อไป  เขาไม่รู้ว่าหมิงลี่ฮ่าวไปสมทบกับสองพี่น้องกระทิงเถื่อนร่วมกันดื่มกินพร้อมกันตั้งแต่เมื่อใด
ขณะนั้นเมื่อเจ้าภาพงานวันเกิดเดินเข้ามาทีละก้าวอย่างสบายจนกระทั่งมาหยุดอยู่ใกล้เย่ว์หยาง จงกวน เฮยถู ไป๋หม่า เฟยหวงและฮัวปัน ฯลฯ นักรบปราณฟ้าอื่นพอเหลือบมองนางเท่นั้น ทุกคนมีแววตาตกตะลึง และฟงจีกับจินหวินที่มีพลังน้อยและอ่อนแอที่สุดพลังระดับเตรียมปราณฟ้ามีสีหน้าเคลิบเคลิ้มเหมือนกับหลงเสน่ห์
นั่นคือหญิงงามที่มีรูปลักษณ์เหมือนดวงดาวสกาวในท้องฟ้า
นางรายล้อมไปด้วยหญิงงามมากมายเดินนวยนาดออกมาจากตำหนักชั้นใน  ร่างที่งดงามอรชรของนางและอิริยาบถที่ชดช้อยสง่างามของนางทำให้ทุกคนอดพอใจมิได้ ราวกับว่านางคือสมบัติที่ดีที่สุดในโลก และในโลกนี้นางไม่เคยมีเรื่องเสียใจในชีวิต
มีนักสู้นับไม่ถ้วนในที่นั้นมีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กปานถล่มฟ้าทลายดินได้ก็ยังหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว  ส่วนสตรีที่เห็นทั้งหมดตกตะลึง
เป็นครั้งแรกที่เหล่านักสู้ปราณฟ้ามีความคิดจดจ่ออยู่กับสตรีผู้นี้
ความงามของนาง
เป็นความงามที่สวยจับใจ
ผมที่งดงามเหมือนทองของนางทิ้งตัวลงเหมือนสายน้ำเป็นประกายสีทองแวววาว
เครื่องประดับศิราภรณ์ดูเรียบง่ายและเหมาะสม กระบังหน้าโค้งเป็นวงเสยคาดศีรษะ ตรงกลางกระบังมีมุกเม็ดโตส่องประกายรัศมีหลากสีสัน ภายใต้มุกอันทรงค่านั้นเข้ากันได้ดีกับวงหน้าที่เรียบเนียนดุจหยกเป็นประกาย ราวกับดวงดาวที่ยังทอแสงในท้องฟ้าได้แม้ยามสุริยาสาดแสง  ถัดลงมาเป็นจมูกที่น่ารักงดงาม ปีกจมูกรับกับริมฝีปากบางเบาที่กำลังแย้มสรวล ความงามที่ลงตัวเช่นนี้ทำให้ไม่มีใครละสายตาจากนางได้
ที่ทำให้ผู้พบเห็นประทับใจเป็นพิเศษคือที่พวงแก้มของนางมีลักยิ้มเล็กน่ารัก
รอยยิ้มล่มเมืองของนางแทบจะแผดเผาวิญญาณของผู้พบเห็น
คนยังมาไม่ถึง
แต่นางแสดงรูปลักษณ์ความงามไม่มีใดเปรียบทุกอย่างแล้ว
เมื่อเห็นหญิงงามขนาดนี้ นักสู้ปราณฟ้าที่แต่เดิมมีเรื่องขุ่นเคืองต่อกัน ถึงกับละทิ้งข้อพิพาทบาดหมางและมองนางอย่างตะลึงลาน
เมื่อเห็นหญิงงามจูกวงโดยตรง ผู้คนก็จะเข้าใจความหมายว่าหญิงงามล่มเมืองเป็นเช่นไร  หากสามารถโอบกอดหญิงงามขนาดนี้ไว้ในอ้อมแขน นั่นคือความฝันของสุดยอดนักสู้ทุกคนไม่ใช่หรือ?
 “.....”  หลังจากมารสัมฤทธิ์ฟ้ามีสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย  เขาหันไปมองดูเย่ว์หยาง
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น  แต่ยังมีจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพ
เขากังวลว่าตัวลามกน้อยนี้จะไม่มีภูมิคุ้มกันความงาม และคงจะตะลึงลานอยู่กับที่
เย่ว์หยางแอบชูนิ้วกลางตอบโต้ที่คนทั้งสามกังวลเกินเหตุ  แม้ว่าคุณชายผู้นี้จะรักชอบสาวงาม  แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย  ไม่ว่าจะมีขวัญกล้าเทียมฟ้าแค่ไหน แม่เสือสาวก็ยังรออยู่ในโลกคัมภีร์ ใครเล่าจะกล้าเอาชีวิตไปเสี่ยง? เขาไม่กล้าร้องเพลงเด็ดดอกไม้ป่าริมทางเป็นแน่ อย่าว่าแต่ดอกไม้ป่าดอกนี้ยังมีเงี่ยงหนามเป็นพิษ เราคุณชายจะถึงกับโง่มองดูน้ำลายหกเพราะเห็นแค่หญิงงามคนเดียวน่ะหรือ?
เย่ว์หยางชูนิ้วกลางตอบโต้
มารสัมฤทธิ์ จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพทั้งสามคนรู้สึกวางใจได้ทันที เจ้าเด็กนี่ไม่กลายเป็นจอมเจ้าชู้ยักษ์เพราะเห็นหญิงงามคนหนึ่งแน่
 “ผู้น้อยขอคารวะคุณชายไตตันและท่านผู้อาวุโสทั้งสาม” หญิงงามจูกวงคำนับด้วยท่วงท่าที่ชดช้อยงดงาม เสียงที่อ่อนโยน ร่างกายที่บอบบางราวกับจะล้มเพราะถูกลมพัดทำให้ผู้คนรักและหลงใหลได้  สามราชาแทบยังยั้งใจเข้าไปประคองนางมิได้  แน่นอนต่อให้พวกเขาต้องการทำเช่นนั้น ราชาจื่อฟงคงไม่ยอมให้พวกเขาทำ
 “รีบลุกขึ้นเถอะ  ข้าเลื่อมใสความงามของพระสนมมานานแล้ว และไม่ต้องการรบกวนงานวันเกิดเกินไป  และคงไม่สายเกินไปถ้าจะมอบของขวัญวันเกิดของท่าน”  ราชาชิงหลางรีบขออภัย  ความจริงสามราชาได้ยินชื่อเสียงคำร่ำลือความงามของสนมจูกวงมานานแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าสตรีผู้นี้จะมีความงดงามเหนือเผ่าพันธุ์ทั้งปวง
 “อา..นี่ท่านคือท่านหญิงจูกวงหรือนี่? อา..นับว่างดงามไม่เบา เทียบกับคู่หมั้นข้า แค่กๆ แทบงดงามทัดเทียมกันได้เลย”
เย่ว์หยางอดโอ้อวดมิได้
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องทำให้ราชาจื่อฟงเสียใจเล็กน้อยในท่ามกลางความปลาบปลื้ม คุณชายไตตันเป็นคนธรรมดาอย่างมิต้องสงสัย  เขายังคงมีขีดจำกัดเรื่องความรัก แต่เขาเป็นคนมีเหตุผล และยังไม่ลืมคู่หมั้นตนเองอยู่ตลอดเวลา
จากมุมมองนี้คุณชายไตตันแห่งแดนสวรรค์บนคงมีคู่หมั้นหมายของตนเองแล้ว อย่างน้อยก็คงเป็นหญิงงามระดับนี้เช่นกัน
หรืออาจจะมากกว่า!
มิฉะนั้นคุณชายไตตันคงจะไม่รู้สึกตัวได้เร็วขนาดนี้
จำได้ว่าเขาให้สตรีสองนางให้คอยรับใช้ปรนนิบัติเขา  แต่เขาปฏิเสธซึ่งนั่นนับว่าสมเหตุผลแล้ว คู่หมั้นที่ไม่มีใครในโลกเทียบได้และเป็นผู้มีชาติตระกูลสูงส่ง ย่อมไม่เห็นหญิงรับใช้ผู้ต่ำต้อยอยู่ในสายตาเป็นธรรมดา  ราชาจื่อฟงในตอนนี้ได้รับการรับรองจากคุณชายไตตันแล้ว  แต่ราชาชิงหลาง ว่านเจียวและโหลวลั่วทั้งสามคนนี้แม้จะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาแต่ละคนก็แสวงหาความรักของตนเองเช่นกัน
ราชาจื่อฟงมีความรู้สึกปนความเสียใจอยู่เล็กน้อย
เหตุผลของคุณชายไตตันเกินคาดจริง และเขาพิสูจน์ได้ว่าเขามีคนรักที่มีความงามในระดับเดียวกันหรือเหนือกว่า แสดงว่าเขาได้เห็นหญิงงามมามากแล้วในโลก ไม่ใช่แค่เพียงคนเดียว  “อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติมาถึงประตูบ้านแล้ว น้องไตตัน เชิญ! ชิงหลาง ว่านเจียว โหลวลั่ว ท่านทั้งสามขอเชิญร่วมดื่มกินกันในตำหนักเถอะ”  ราชาจื่อฟงจูงมือหญิงงามจูกวงเพื่อแสดงออกว่าเขาคือเจ้าของ  เขารู้สึกได้ถึงความสำเร็จเหนือคนอื่นจากสายตาอิจฉาจากชิงหลางและพวก  ตอนแรกเขาเชิญเย่ว์หยางผู้ทรงเกียรติจากแดนสวรรค์บนให้เข้าตำหนักก่อน แล้วค่อยเชิญชิงหลางและคนอื่นเข้าร่วมงานเลี้ยง  ถ้าเขาทำได้ เขาอยากจะเตะชิงหลางกับพวกให้ได้สักครั้ง  แต่นั่นเป็นแค่ความคิดในใจเท่านั้น  เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น  เขาต้องแกล้งแสดงออกว่าเขาเป็นคนสุภาพมีน้ำใจ
 “?” แม้ว่าหญิงงามจูกวงจะแสดงออกว่าต้อนรับ แต่นางมองดูเย่ว์หยาง
ในความเห็นของนาง ราชาทั้งสามมีชิงหลางเป็นต้น นางสามารถมองออก
ต่อให้มีพลังแข็งแกร่งกว่า แต่ก็ยังมีข้อจำกัด
อย่างไรก็ตามคุณชายไตตันผู้ให้เลือดเทพเป็นของขวัญ นางไม่สามารถประเมินได้
ถ้าคุณชายไตตันเป็นผู้มาเยือนจากแดนสวรรค์บนจริงๆ  เขาคงเป็นคนร่ำรวยจอมสุรุ่ยสุร่ายที่ยอมเอาเลือดเทพออกมาก็ได้  ทุกอย่างดูสมบูรณ์  นางเกรงว่าเขาจะไม่ใช่คุณชายที่เดินทางมาเที่ยวยังโลกเบื้องล่างเท่านั้น แต่ว่ามาด้วยจุดประสงค์อย่างอื่น  ภูมิภาคสวนสวรรค์สับสนวุ่นวายทุกอย่าง  จักรพรรดิแดนดินทั้งสามต่อสู้กันมาเป็นพันปีแล้ว  สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือข่าวคัมภีร์อัญเชิญระดับเทพ และสมบัติลับในตำนาน
บางทีวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของคุณชายไตตันก็คือกฎสวรรค์ดั้งเดิม หรือสมบัติลับในตำนาน
คัมภีร์เทพไม่ต้องพูดถึงในตอนนี้
นี่คือเป้าหมายสูงสุดที่ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ต้องการครอบครองมาเป็นพันๆ ปีแล้ว แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ประกายเทพที่ไม่สมบูรณ์ และสมบัติลับต่างๆ เป็นเหยื่อล่อสุดยอดนักสู้นับไม่ถ้วนให้เข้ามาสืบค้นหาความลับ  “คู่หมั้นของคุณชายต้องเป็นผู้งดงามไม่มีใครเทียบได้เป็นแน่ จูกวงอัปลักษณ์ไม่มีทางเทียบนางได้แน่”  ระหว่างทางเดินเข้าตำหนัก สนมจูกวงเดินเคียงข้างราชาจื่อฟง  นางพยายามกระซิบว่านางมองไม่เห็นพลังของคุณชายไตตัน ไม่ควรจะประมาทเขา
 “แม่เสือสาวที่บ้านข้าไม่จำเป็นต้องพูดถึงนางก็ได้หรอก... อะแฮ่ม..  เจ้าดูดีมีสง่าไม่เลวเลย  แต่แม่เสือสาวที่บ้านข้า นางไม่คล้ายท่าน  นางไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์ที่งดงามเท่านั้น แต่นางมีความงามเฉพาะแบบเป็นของตัวเอง!  เย่ว์หยางพูดเหมือนกับจะบอกว่า ภรรยาของเขาเข้มงวดมาก โปรดอย่ายั่วยวนข้า  หญิงงามจูกวงอดแย้มยิ้มอย่างผ่อนคลายมิได้ และเผยให้ฟันซี่เล็กที่งดงามยั่วยวน
 “ลูกปัดอธิษฐาน ของวิเศษกึ่งระดับเทพ”  มารสัมฤทธิ์ฟ้าพึมพำอยู่ด้านหลังเย่ว์หยาง
 “ท่านผู้อาวุโสมีความรู้ดีจริงๆ คงเป็นคนที่น่าเคารพสักการะของคนแดนสวรรค์เป็นแน่”  สนมจูกวงได้ยินแล้ว นางสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ก็หายไปได้ในทันใด และนางตอบมารสัมฤทธิ์ฟ้า
เมื่อนางกลับหลังหัน นางรู้สึกใจสั่นเป็นระยะ
นางคิดว่าไม่มีใครสามารถรู้ที่มาของมุกแสงบนศีรษะของนาง นางคิดไม่ถึงว่ามารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้ทำหน้าที่คุ้มกันคุณชายไตตันจะสังเกตเห็นได้เมื่อเหลือบมอง  จนถึงบัดนี้ใจของนางชักหวาดกลัวชนชั้นสูงจากแดนสวรรค์บนนี้
ปรากฏว่าเมื่อเทียบชนชั้นสูงผู้มีชื่อของแดนสวรรค์บน  คนแดนสวรรค์ล่างเหมือนกับคนบ้านนอกจริงๆ
โชคดีที่ไม่ได้ยั่วยวนใจคุณชายไตตันผู้นี้
ไม่อย่างนั้นเป็นไปได้ว่านางจะฆ่ามารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้นี้โดยตรง... มารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้นี้เป็นคู่หมั้นของคุณชายส่งมาอย่างนั้นหรือ?  ดูเหมือนว่ามารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้นี้และคนอื่นสามารถแสดงความเห็นได้ คู่หมั้นที่ลึกลับของคุณชายไตตันเป็นใครกัน?  อย่างไรก็ตามถ้ามีฉายาเกี่ยวกับเสือ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้หญิงที่ไม่ธรรมดา  นางคาดว่าคงแตกต่างจากที่ทุกคนคาดหวัง แต่คาดว่าอย่างนี้จะปลอดภัยกว่า
จูกวงลอบถอนหายใจและหันมายิ้ม
ในฐานะเจ้าภาพนางเดินจับมือราชาจื่อฟงทักทายต้อนรับอาคันตุกะในวังหลวงด้วยความมั่นใจ
ราชาชิงหลาง ว่านเจียวและโหลวลั่ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใส่ใจอะไรแต่ก็อดมองดูหน้าและรูปร่างของสนมจูกวงเป็นครั้งคราวไม่ได้ ขณะที่ราชาจื่อฟงที่กำลังเดินจูงมือจูกวงรู้สึกรังเกียจในใจ
หากไม่มีคุณชายไตตันเป็นอาคันตุกะชั้นสูงของเขา  ชิงหลางและราชาอื่นคงเปิดศึกต่อสู้กับเขาไปแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะเลือดเทพ  สนมจูกวงนี้คงถูกชิงตัวไปแล้ว
ราชาจื่อฟงมองและแค่นเสียง
ตอนนี้พวกเจ้าทำอะไรไม่ได้  แต่เมื่อจบงานเลี้ยงวันเกิด  ราชาผู้นี้จะพาหญิงงามไปซ่อนตัวในที่ลับ และกินเลือดเทพพร้อมกันหลอมรวมกับพลังเทพ จากนั้นจะได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่ ถึงตอนนี้ข้าผู้นี้อาจย่ำบีทาดินแดนของเจ้าให้ราบ!  ถ้าวันนี้สามารถผูกมิตรกับคุณชายไตตัน  พวกชิงหลางทั้งสาม ก็คงเป็นเหมือนกับมดสามตัว
พวกเขาแต่ละคนล้วนกิน ดื่ม และเต้นรำ
หลังจากการคารวะสุราผ่านไปสามรอบ
ราชาชิงหลางลุกขึ้นยืนทันที

10 ความคิดเห็น:

WingF กล่าวว่า...

พี่เย่กลัวเมียหละ

Wa Wakung กล่าวว่า...

เอ้าแล้วว

เดือนดับ กล่าวว่า...

เหมือนมีอะไรแปลกๆ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

ulomzx กล่าวว่า...

ต้องมีการต่อยตีกลางงานแน่ๆ

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

ได้เวลาตีกันละ

แสดงความคิดเห็น