ตอนที่ 948 มือสังหาร
พลังสาป หักหลัง
ขโมยล่องหนเพิ่งถูกจับกดลงกับพื้น
นักสู้ปราณฟ้าทุกคนมีความคิดที่ผิดเพี้ยนอย่างหนึ่งในใจก็คือ
เมื่อตนเองไม่ได้ คนอื่นอย่าหวังว่าจะได้
อย่างไรก็ตามขณะที่พวกเขาหัวเราะที่ร่างเงาล่องหนลอบลงมือ
พวกเขาก็ยังตกใจเช่นกันพลังของจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพอาจไม่ด้อยไปกว่ามารสัมฤทธิ์ฟ้า
ชิงหลาง
ว่านเจียวและโหลวลั่วขมวดคิ้วกันทั้งสามคน
ด้วยพลังของจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพ
พวกเขารู้สึกว่าแม้ว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะได้
ก็ต้องสิ้นเปลืองพลังมากมายและอาจจ่ายด้วยราคาแพง สู้กับศัตรูตัวต่อตัวก็ยากพออยู่แล้ว
ถ้าเป็นหนึ่งต่อสอง หรือหนึ่งต่อสามเล่า? เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้น่ากลัว
มีพลังแทบจะไม่ด้อยกว่านักสู้ระดับราชาเลย
ราชาจื่อฟงรู้ว่าไม่อาจสูญเสียเลือดเทพได้
แต่เขาไม่เร่งรีบยับยั้ง
แต่กลับเข้ามาคุ้มกันคุณชายเย่ว์ไตตัน
เลือดเทพถูกชิงคงกลายเป็นเรื่องตลก
แต่ถ้าคุณชายถูกโจมตี นั่นเป็นเรื่องน่ากลัวที่สุด
ทันทีที่ขโมยถูกจับได้ทุกคนคลายใจอยู่ช่วงหนึ่ง
แต่ทันใดนั้นมีเรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้น ราชาจื่อฟงมองเห็นนักสู้ปราณฟ้าจากกลุ่มอาคันตุกะที่ดูธรรมดา
ทั้งสองคนนั้นไม่ได้มุ่งไปที่เลือดเทพแม้แต่น้อย
แต่กลับมุ่งเป้ามาที่คุณชายไตตันแทน
ถ้าทั้งสองคนนี้เตรียมจะชิงตัวคุณชายไตตันไป
อย่างนั้นก็คงไม่เป็นไร
อย่างไรก็ตามเมื่อราชาจื่อฟงชำเลืองมองศัตรูทั้งสอง เขาตวาดลั่นทันที ศัตรูทั้งสองไม่ต้องการลงมือจับ
แต่พวกเขาต้องการสังหารคุณชายไตตัน
ถ้าคุณชายไตตันถูกฆ่า...
จะไม่มีใครต้านรับผลที่ตามมาได้
น่ากลัวว่าภูมิภาคสวนสวรรค์อาจจะถึงกาลอวสาน
ราชาที่รับผิดชอบพื้นที่ต่อให้ตายหมื่นครั้งก็ยังไม่เพียงพอต่อการไถ่ถอนโทษ
“โจรร้าย! บังอาจนัก?”
ราชาจื่อฟงได้แต่คิดเช่นนี้ในใจ เขาต่อสู้อย่างดุเดือดพยายามสกัดกั้นการโจมตีของมือสังหารทั้งสอง
ไม่ต้องพูดถึงราชาจื่อฟง แม้แต่ชิงหลาง
ว่านเจียวและโหลวลั่วที่มองดูอย่างสนุกสนานยังร้องตกใจไปด้วย ถ้าคุณชายไตตันตายที่นี่ พวกเขาก็จบกัน
แต่พวกเขากังวลว่าจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับองครักษ์อย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรที่ยืนรอดูผล
“เจ้าโจรที่ไม่รู้จักเจียมตัว! หาที่ตายชัดๆ!”
มารสัมฤทธิ์ฟ้าอยู่กับเย่ว์หยางยกมือและปล่อยสายฟ้าสังหารสองนักฆ่า
“อ๊า....”
เมื่อราชาทั้งสามเห็นมารสัมฤทธิ์ฟ้าลงมือ พวกเขาอดรู้สึกขนลุกชันมิได้ แม้ว่าพวกเขาจะคาดได้ถูกต้อง
แต่พวกเขาก็ยังประมาทคนผู้นี้อยู่
แสงรัศมีเจิดจ้านัก
ฮูเหลยพบว่าแสงรัศมีฉายออกมาจากด้านหลังของพวกเขาเอง
ฮูเหลยต้องการจะขอโทษมาโดยตลอด
เพราะก่อนนั้นเขาเข้าใจผิดคุณชายไตตัน และต้องการให้คุณชายไตตันยกโทษให้เขา
อย่างไรก็ตามในตำแหน่งที่นั่งของเขานี้
เขาได้แต่นั่งอยู่ที่ขอบห้องจัดเลี้ยงรอบนอกสุดที่เต็มไปด้วยนักสู้ปราณฟ้าที่เข้ามาร่วมแสดงความยินดีเท่านั้น
หลังจากที่เขาพบว่ามีขโมยพรางตัวร่างโปร่งแสงและขโมยนั้นถูกจับได้
จากนั้นก็พบว่ามีการบุกโจมตีระลอกสอง
เขาเกร็งพลังรอคอยช่วยเมื่อจำเป็น
บางทีคุณชายไตตันคงไม่ตกอยู่ในอันตรายที่แท้จริง แต่ฮูเหลยก็จะทำโดยไม่สนใจทั้งนั้น
ในขณะนั้น
ที่ด้านหลังของเขา
จู่ๆ
มีประกายแสดงระยิบระยับฉายวาบ และฮูเหลยเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้น
มีศัตรูอยู่ที่ด้านหลังหรือ
เขาไม่มีเวลาหันไปมอง
แสงประกายระยิบระยับงดงามเหล่านั้นกลายเป็นเหมือนกับแม่น้ำดวงดาวนับหมื่นดวงเป็นงดงามไม่มีใดเทียบ
ผู้คนที่เห็นรู้สึกเหมือนตกอยู่ในทางช้างเผือก
ฮูเหลยพบว่าทุกคนในห้องนิ่งเหมือนเป็นหุ่น
มีเพียงราชาจื่อฟงกำลังเคลื่อนไหวช้าๆ แต่ฮูเหลยตกใจเมื่อพบว่าราชาจื่อฟงเคลื่อนไหวช้าราวกับทากคลาน ความเร็วของเขาช้าเกินไปหรือไม่?
ราชาจื่อฟงรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
นี่คือสนามพลัง หรือความสามารถพิเศษของสมบัติวิเศษ อย่างน้อยต้องเป็นสมบัติวิเศษใกล้ระดับเทพ...
พลังที่น่ากลัวนี้จำกัดความเคลื่อนไหวของทุกคนในพื้นที่บริเวณ ราชาจื่อฟงไม่สนใจเลือดเทพ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือปกป้องคุณชายไตตัน
สิ่งที่ศัตรูต้องการไม่ใช่เลือดเทพ
แต่เป็นชีวิตของคุณชายไตตัน
ราชาจื่อฟงไม่สามารถแม้แต่จะดูแลสนมจูกวงคนรักของเขาได้ เขาพุ่งเข้าหาคุณชายไตตันโดยไม่ได้คิดอะไร
เพราะราชาจื่อฟงในตอนนี้เตรียมจะเข้าขัดขวางนักฆ่า
จากนั้นค่อยกลับมาอีกครั้ง แต่ยังมีระยะห่างจากคุณชายไตตัน
แม้ว่าจะมีระยะห่างเพียงสองเมตรก็ตาม
แต่ระยะห่างสองเมตรนี้ไกลราวกับฟากฟ้าหนึ่งทำให้จื่อฟงรู้สึกยากจะหยุดยั้งเพื่อรักษาชีวิตไว้ได้
อีกด้านหนึ่งมารสัมฤทธิ์ฟ้าใช้สายฟ้าโจมตีศัตรูที่แข็งแกร่งทรงพลังสองคน
กำลังกลับมาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามความเร็วของเขายังแตกต่างจากราชาจื่อฟงมาก เขาเร่งความเร็วขึ้นอีกเล็กน้อย
แต่ไกลเกินกว่าจะไปถึงตัวเย่ว์หยาง
“....”
สนมจูกวงเม้มริมฝีปากและดูเหมือนต้องการจะพูดบางอย่าง แต่ในที่สุดนางไม่ได้พูดอะไร
นางกลับรักษาสภาพเยือกเย็นไว้ได้อีกครั้ง
รอดูสถานการณ์การต่อสู้เปลี่ยนแปลง
มือสังหารผู้แข็งแกร่งทั้งสองที่ถูกมารสัมฤทธิ์ฟ้ารุกไล่ดูเหมือนจะสวมเกราะวิเศษอยู่กับตัว
ไม่สนใจสายธารแสงดวงดาว
พวกเขาเล็งมีดไปที่เย่ว์หยาง
ที่มือของเขามีแสงสีม่วงประหลาดกระพริบวาบ แสงมรณะพุ่งวาบอย่างรวดเร็ว
ไม่!
ราชาจื่อฟงรุ่มร้อนใจจนร้องออกมา
ฆ่าใครก็ฆ่าได้ไม่เป็นไร แต่คิดจะฆ่าคุณชายผู้นี้ในแดนสวรรค์เชียวหรือ? คุณชายผู้นี้มีสมบัติมากมาย หากจะปล้นก็ยังไม่มีปัญหา
แต่ไม่ต้องฆ่าก็ได้ ทันทีที่ฆ่าคน
ภูมิภาคสวนสวรรค์ยังจะคงอยู่ได้หรือ?
อย่างไรก็ตามราชาจื่อฟงไม่สามารถหยุดได้ ได้แต่มองดูโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น
ขณะที่ทุกคนมองภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้า
นักฆ่ทั้งสองกำลังจะแทงใส่หัวใจของคุณชายไตตัน
ทันใดนั้นสุนัขเลี้ยงที่หมอบคลานอยู่ใต้โต๊ะพลันกระโจนขึ้นมาทันที
ไวยิ่งกว่ากระต่ายเปรียว
ราวกับสายฟ้า
แม้แต่พลังประกายแสงดาวระยิบระยับที่คาดว่าน่าจะเป็นของวิเศษระดับใกล้ขั้นเทพก็ยังไม่สามารถหยุดการกระทำของมันได้ ราชาจื่อฟง ชิงหลาง ว่านเจียว โหลวลั่ว ฯลฯ
และนักสู้ปราณฟ้าทั้งหลายต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าเจ้าสุนัขโง่กลายร่างเป็นอสูรเทพ!
พลังปณิธานของอสูรเทพระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่งข่มพลังของสมบัติวิเศษไว้ได้
มันเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมากางโล่แสงป้องกันไม้ตายสังหารของมือสังหารทั้งสอง
จากนั้นเก็บเจ้านายเข้าไปในโลกคัมภีร์ของมัน
มันกลายเป็นพายุหมุนควันไฟสีดำ
และหมุนราวกับพายุหมุนรุนแรง
หลบออกมาจากหอจัดเลี้ยงของวังลู่หลิว
นักฆ่าทั้งสองที่พลาดท่าเสียทีพยายามจะไล่ตาม แต่กลับมีอสูรประหลาดเข้ามาขัดขวาง
มือสังหารที่มีความรู้อดร้องไม่ได้
“อาวุธเทพร่างอสูร?”
อาวุธเทพร่างอสูรแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่หาได้ยาก แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่หายากที่สุด
อย่างไรก็ตาม
อาวุธเทพอสูรนี้มีสติปัญญาพิเศษมันสามารถคุ้มกันเจ้านายให้หนีได้ในยามวิกฤติ
มันคือสิ่งมีชีวิตที่หาได้ยาก กล่าวอีกอย่างเมื่อเทียบกับอาวุธเทพร่างอสูรธรรมดา
ก็นับว่าไม่ต่างกันกับการเทียบอสูรปราณฟ้ากับอสูรเทพ
แม้ว่าจะแข็งแกร่งแต่อนาคตยากจะก้าวหน้าได้ แต่อาวุธเทพอสูรตัวนี้ไม่เพียงแต่ทรงพลัง
แต่ยังมีความก้าวหน้าในอนาคตได้อย่างเหลือเชื่อ
และผู้เป็นเจ้าของมันก็มีอนาคตที่ก้าวหน้าได้ไม่สิ้นสุดเช่นกัน
ดาบอสูรเทาเถี้ยมีกรงเล็บเหมือนดาบ
ร่างของมันกันศัตรูไว้เหมือนกับกำแพงเหล็กผนังทองแดง
นักฆ่าทั้งสองทุ่มเทพลังจนแทบหมดแรงก็ยังไม่สามารถผ่านมันไปได้ พวกเขาได้แต่จ้องมองอสูรเทพและถอนหายใจ
โชคดีที่อาวุธเทพอสูรแค่กระตือรือร้นรอกระทั่งเจ้านายพ้นจากห้วงเหตุคับขันได้ก็กลายเป็นแสงสีดำ
เนื่องจากเป็นอาวุธวิเศษมาตั้งแต่แรก มันผ่ามิติและกลับไปหาเจ้านายโดยตรง
ราชาจื่อฟงตื่นเต้นแทบตาย
สุนัขดำกลายเป็นอสูรเทพต่อหน้าต่อตา
อาวุธเทพร่างอสูรที่น่ากลัวกลับมีสติปัญญาสูง
เกิดเรื่องน่าทึ่งไม่สิ้นสุดจริงๆ
ไม่ว่าใครจะเป็นศัตรูกับคุณชายไตตัน ก็ต้องพบกับจุดจบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้คุณชายไตตันพ้นจากอันตรายอย่างปลอดภัย และศัตรูทำงานล้มเหลวและพบความเสียหายอย่างหนัก
ชิงหลางและราชาอื่นๆ
กลัวแทบตาย
พวกเขายังต้องรู้อะไรเพิ่มอีกไหม สุนัขสกปรกที่นอนแทะกระดูก กลายเป็นอสูรเทพ?
โชคดีที่พวกเขาไม่ได้พยายามจะคว้าตัวคุณชายไตตัน
มิฉะนั้นพวกเขาไม่รู้ว่าตนเองจะตายยังไง มีทั้งอสูรเทพและอาวุธเทพร่างอสูร
มีสุดยอดนักสู้ถึงสามคน มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกร
จักรพรรดิใต้พิภพและนักสู้ปราณฟ้าอีกหลายคน
ต้องการจะลงมือกับคุณชายไตตันอย่างนั้นหรือ? ล้อเล่นหรือเปล่า? ให้ท้าทายจักรพรรดิเสิ่นกวงยังดีกว่าเสียอีก
ในที่สุดคุณชายไตตันก็พ้นอันตราย
อย่างไรก็ตามวิกฤติยังคงอยู่
สมบัติวิเศษของนักฆ่าทั้งสองถูกข่ม
แต่ก็ยังทำงานได้ดี พวกเขาไม่ได้หลบหนีไป และหนึ่งในนั้นพุ่งเข้าหาราชาจื่อฟง
อีกคนหนึ่งวิ่งเข้าหาสนมจูกวง....
มีอีกหนึ่งที่เร็วมากกว่านักฆ่าทั้งสอง
เขาลอยเข้ามาตามทางเดินเหมือนกับเดินกลับเข้ามาในบ้านตนเอง
ความเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วกว่ามือสังหารทั้งสองคนราวกับประกายไฟ
ทุกคนมองเห็นอย่างชัดเจนบุรุษชุดทองคนหนึ่งเดินเข้ามาในท้องพระโรง
รูปลักษณ์ของเขาหล่อเหลาสง่างาม นอกจากคุณชายไตตันที่ดูมีเสน่ห์แล้ว
เกรงว่าแม้แต่มารสัมฤทธิ์ฟ้ายังดูด้อยกว่า
บุรุษรูปงามผู้นี้อยู่ในชุดเกราะมังกรทอง มือขวาถือดาบแสงที่แฝงไปด้วยปราณกระบี่
แม้ว่าเขาจะไม่ได้กวัดแกว่งก็ตาม
แต่ปราณกระบี่ของเขาดูเหมือนจะเสียดแทงหัวใจทุกคนได้
แต่มือซ้ายของเขาถือสร้อยเพชรรูปดาวเป็นประกายเหมือนทางช้างเผือก
ขณะที่ทุกคนมองดูอยู่นั้น
คนผู้นี้แทงกระบี่ออกทันที
กล่องทองที่อยู่ในมือของพ่อบ้านเย่ซึ่งมีประกายสีทองแตกและหายไปทันที...
หมัดของมารสัมฤทธิ์ฟ้าและราชาจื่อฟงแทบจะถึงพร้อมกัน แต่พวกเขาล้มเหลว
“สมบัติกึ่งระดับเทพ ดาบเซียน และสร้อยธารดารา
คนผู้นี้ต้องเป็นจักรพรรดิฟู่โฉวแน่”
ชิงหลางร้องเตือน
“ฮึ่ม!” ราชาจื่อฟงไม่คิดเช่นนั้น
คนผู้นี้คล้ายจักรพรรดิฟู่โฉวจริงๆ
แต่จักรพรรดิฟู่โฉวถ้าจะมา
ไม่จำเป็นต้องอวดอ้างความแข็งแกร่ง ด้วยพลังของจักรพรรดิแดนดิน
เขาสามารถฆ่าทุกคนได้เด็ดขาดอยู่แล้ว ทำไมต้องใช้กลอุบายเล็กๆ น้อยๆ
เพื่อชิงหยดเลือดเทพด้วย?
ด้วยพลังของจักรพรรดิฟู่โฉว
เขาสามารถมาพบกับคุณชายไตตันด้วยตนเองยังจะง่ายกว่า ทำไมถึงจงใจสังหารเขา? ต้องมีใครบางคนจงใจปลอมตัวเป็นจักรพรรดิฟู่โฉว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณชายไตตันพ้นจากอันตรายไปแล้ว
คนผู้นี้ถึงได้ปรากฏตัวทันที เห็นได้ชัดว่าต้องการโทษใส่ความบางคน
ในภูมิภาคสวนสวรรค์มีสักกี่คนที่มีพลังพอใส่ความจักรพรรดิฟู่โฉวได้?
นอกจากจักรพรรดิแดนดินทั้งสองแล้ว
ก็มีแต่พวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์...
หลังจากจักรพรรดิแดนดินทั้งสองคนบังอาจสังหารคุณชายไตตันทายาทจากตระกูลในสวรรค์บน?
จักรพรรดิเสินกวงและจักรพรรดิฟู่โฉวก็คงสมองมีปัญหาเป็นแน่
เขาเกรงว่าพวกเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้นใช่ไหม?
นอกจากนี้ยังมีพวกที่มีข้อพิพาทขัดแย้งกับตระกูลใหญ่ทั้งสี่...
ราชาจื่อฟงไม่โง่
เมื่อเขาคิดเรื่องนี้ได้แล้ว เขารู้สึกรังเกียจในใจ
แต่เขาไม่ยินดีพูดเปิดโปง
“ช่วยข้าด้วย!” สนมจูกวงหน้าซีดเผือด
ราชาจื่อฟงสามารถหลบพลังโจมตีของศัตรูได้อย่างง่ายได้โดยไม่ต้องใช้พลังพิเศษของสมบัติวิเศษ
แต่สนมจูกวงทำไม่ได้
นางอ่อนแอ
และเกือบถูกฆ่าตายจากพลังโจมตีที่รุนแรง
โชคดีที่หวีเฉาหัวหน้าองครักษ์ผู้ภักดีและเสียสละใช้ร่างตนเองขวางรับพลังโจมตีไว้ได้
ราชาจื่อฟงไม่สามารถช่วยมารสัมฤทธิ์ฟ้าและคนอื่นได้
เขารีบไปช่วยสตรีคนรักของเขาทันที
มารสัมฤทธิ์ฟ้าไปที่ขโมยร่างโปร่งแสงเตรียมสอบสวนว่ารับคำสั่งจากใครให้มาฆ่าคุณชายไตตัน
และทำไมถึงเป็นศัตรูกับแดนสวรรค์บน
นักฆ่าทั้งสองคนจนมุมและเตรียมทุ่มเทกำลังทั้งหมดสู้
จื่อฟงตั้งใจจะทรมานและสอบปากคำพวกเขา
เขาจัดการทุกอย่างๆ ใจเย็นและพาสนมจูกวงหลีกออกไป
จะดีที่สุดให้ไปอยู่ใกล้มารสัมฤทธิ์ฟ้าเพื่อความปลอดภัย
“หลังจากข้าตายไป พวกเจ้าทุกคนในที่นี้จะต้องคำสาป ถ้าต้องการมีชีวิต พวกเจ้าต้องพาเทวีเสรีภาพไปยังเกาะกลางบึงหยุดลม ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้าทั้งหมดติดกับแล้ว” โจรร่างโปร่งใสเย้ยหยัน
และร่างของเขาที่เหมือนกับก๊าซปล่อยอักขระรูนออกมานับไม่ถ้วน อักขระรูนเหล่านี้ขยายกระจายออกไปอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าไปในร่างของนักสู้ทั้งหลาย
“.....”
มารสัมฤทธิ์ฟ้าต่อต้านพลังงานและพบว่าไม่สามารถทำอะไรได้ อักขระรูนแตกกระจายหล่นใส่แขนและหายเข้าไปในตัว
“มีการรุกรานของพลังงานที่ไม่ธรรมดา นี่คือคำสาป
มันคือคำสาป!”
ราชาว่านเจียวตะโกนด้วยความรังเกียจ
“บัดซบ เจ้านักฆ่าทั้งสองผู้ชั่วช้า น้องจื่อฟง
ให้เราช่วยเจ้าเอง!” ขณะที่ราชาชิงหลางเต็มใจจะช่วย
เขาเข้าไปช่วยราชาจื่อฟง
ทันใดนั้นนักฆ่าทั้งสองระเบิดสังขารตนเองเพื่อกระจายสัญลักษณ์รูนออกไป
“ฝ่าบาท! หนีเร็ว!”
หวีเฉาผู้ภักดีและเสียสละวิ่งเข้าบังศัตรูไว้เพื่อให้ราชาตนเองปลอดภัย
“ต้องการระเบิดข้าหรือ, ไม่ง่ายนักหรอก!”
ราชาจื่อฟงรู้ว่าไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ระเบิด แต่ต้องใช้เวลา ในมือของผู้แข็งแกร่งหรือตัวเขาเอง หรือถ้าเป็นมารสัมฤทธิ์ฟ้าเล่า? ต่อให้ทั้งสองไม่สามารถหยุดได้ อย่างน้อยก็ยังมีคนหนึ่งรับมือได้ไม่ใช่หรือ
มิฉะนั้นผู้สิ้นหวังเหล่านี้จะคิดกันจริงๆ ว่าราชาผู้นี้ไร้ความสามารถ?
ราชาจื่อฟงจับนักฆ่าทั้งสองก่อนหวีเฉาจะมาถึง
ชิงหลาง
ว่านเจียว โหลวลั่ว ทั้งสามคนมาถึงพอดี มารสัมฤทธิ์ฟ้า
จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพ ยืนล้อมวง ต้องการให้ระเบิดไหม?
เชื่อได้ว่าพวกเขาไม่ต้องการ
ขณะจะหาข้อสรุปของสถานการณ์
เกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง
หวีเฉาผู้ภักดีและเสียสละแทงเข้าที่หัวใจของราชาจื่อฟง
มีดของเขาอาบยาพิษและเป็นพิษชนิดเดียวกันกับที่นักฆ่าสองคนใช้
มีดทะลุเกราะแทงผ่านกล้ามเนื้อหลังปักเข้าไปในหัวใจ
พ่อบ้านคนที่สามคว้ามือสนมจูกวงและวิ่งเข้าไปในประกายแสง
หวีเฉา
สองนักฆ่า พ่อบ้านคนที่สามที่มีร่างอ้วนและสนมจูกวงผ่านเข้าประตูเทเลพอร์ตหายไปขณะที่กลุ่มผู้คนเพิ่งจะรู้สึกตัว
วิธีการหนีจากไปของพวกเขาเหมือนกับที่บุรุษหนุ่มรูปงามชิงเลือดเทพหนีไป
ราชาจื่อฟงล้มลงกับพื้นพร้อมกับมีดโลหิตไหลทะลัก
เวลาเหมือนผ่านไปยาวนาน
ไม่มีใครพูด
ไม่มีใครคิดว่าเรื่องจะเกินเลยมาถึงขนาดนี้ แม้แต่ราชาที่เตรียมเข้ามาก่อกวนอย่างชิงหลาง
ว่านเจียวและโหลวลั่วก็ยังคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้
10 ความคิดเห็น:
หักหลังจริงๆ...หักหลังคนอ่านอ่ะ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
อ่านไปอ่านมาเหมือนจะเป็นแผนของสนมจูกวงมากกว่าทีนี้
ขอบคุณครับ
สนุกมากครับขอบคุณที่แปลให้อ่านนะครับ
ขอบคุณครับ
ใจจ้า
ขอบคุณมากครับ
รู้เหมือนโดน(คนเขียน)หลอก 555
แสดงความคิดเห็น