วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 961 แปดขุนพลบริวาร?


ตอนที่  961  แปดขุนพลบริวาร?
เมื่อเสี่ยวเหวินหลีปรากฏตัวหวีเฉาตัวปลอมสีหน้าเปลี่ยนทันที
 
ด้วยพลังของเขา เขาทำได้แค่แผดเสียงใส่ราชาจื่อฟงและราชาชิงหลาง และนั่นเป็นเพราะเขามีตัวประกัน
ความจริงแม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่เรียกเสี่ยวเหวินหลีออกมาสู้ก็ตาม  เขาก็ยังไม่กล้าโจมตีเย่ว์หยางได้ง่ายๆ  เพราะคุณชายไตตันมาจากตระกูลมีชื่อของแดนสวรรค์บน
ที่สำคัญคนจากแดนสวรรค์บน ต่อให้เป็นตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่เว้น นั่นไม่ต่างอะไรกับการบี้มดแมลง
บุรุษชุดทองยื่นมือออกมากันหวีเฉาตัวปลอมไว้
พฤติกรรมของเขาดูเหมือนโดดเด่นและเหมาะสมกว่าคนในกลุ่ม  เขากล่าวอย่างเยือกเย็น  “เราต้องไม่สร้างศัตรูเพิ่ม!  คุณชายไตตันเป็นแค่อาคันตุกะ!
           เย่ว์หยางเมื่อได้ยินก็คัดค้านขึ้นทันที  “นั่นไม่ใช่อาคันตุกะหรือศัตรู  ก่อนหน้านี้เจ้าลอบสังหารข้า  ข้ายังไม่ได้คิดบัญชีกับเจ้า”
สีหน้าของบุรุษชุดทองยังคงสงบเหมือนก่อน  “การลอบสังหารทำไม่สำเร็จ  ก็ถือว่าไม่เป็นการลอบสังหาร”
เย่ว์หยางพบว่าเขาเป็นนักแสดงจริงๆ เมื่อเจอคนแบบนี้เขาถึงกับพูดไม่ออก
ถ้าไม่มีการลอบฆ่าที่สำเร็จ ถึงจะนับเป็นการลอบฆ่า นั่นอยู่ในงานเลี้ยงไม่ใช่หรือ?  เขาต้องหลบหนีการลอบสังหารด้วยฝีมือของตนเอง ไม่ใช่ว่ามือสังหารจะไม่มีพิษสง ในเมื่อพวกเขาลงมือกันทั้งหมด นั่นยังไม่ใช่เป็นการลอบสังหารอีกหรือ? ไม่สมควรจะแก้แค้นหรือ? นี่มันแนวคิดบ้าอะไรกัน?  เขาเริ่มเข้าใจเพิ่มอีกเล็กน้อย พฤติกรรมการทำงานของพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ช่างแตกต่างกันจริงๆ
บุรุษชุดทองหยุดคิดเล็กน้อยและเขาตัดสินใจทันที  “ถ้าคุณชายไตตันยินดีจากไป  อย่างนั้นข้าจะคืนหยดเลือดเทพให้กับท่าน”
เย่ว์หยางแก้ไข  “ไม่ใช่หยดเลือด  แต่พวกเจ้าขโมยเลือดเทพของข้าไปหนึ่งขวด!
ทุกคนหลั่งเหงื่อพรั่งพรู
ฝ่ายตรงข้ามยินดีจะคืนหยดเลือดเทพก็นับว่าไม่เลวแล้ว
ต้องการหนึ่งขวดหรือ?  นี่เขาคิดว่าเลือดเทพคือน้ำต้มหรือ?  รีบรับเลือดเทพและรีบจากไปย่อมดีที่สุด
บุรุษชุดทองจักรพรรดิฟู่โฉวตัวปลอมไม่พูดอีกต่อไป  แต่หันไปหากลุ่มของตนเอง  ดูเหมือนว่าเย่ว์หยางจะตัดสินใจเช่นนั้นแล้ว
ที่ด้านนอก มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกร สองพี่น้องกระทิงเถื่อนและฮุยไท่หลางยังคงล้อมต่อสู้กับจักรพรรดิฟู่โฉว
เพื่อความแม่นยำ พวกเขาต้องล้อมไว้ เพราะพวกเขาต้องทุ่มพลังสู้เต็มที่  ถ้ามีใครผ่อนกำลังแม้แต่เล็กน้อย  คาดว่าจักรพรรดิฟู่โฉวจะพบเจอข้อผิดพลาดและสังหารคนผู้นั้น
ที่ท้ายทางผ่านมิติ มีความผันผวนของพลังและมีการระเบิด
รูปประตูมิติค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
ฐานของประตูนี้ประกอบด้วยลวดลายของอักขระรูนสวรรค์หลากหลายรูปแบบเปล่งแสงเงินแสงทองเจิดจ้ามองดูลึกลับ
 “นี่คือประตูดวงดาวหรือ?”  เย่ว์หยางหันไปให้ความสนใจประตู เสี่ยวเหวินหลียังไม่ทันลงมือโจมตีก็กลับมาอยู่ข้างตัวเย่ว์หยางคอยคุ้มกันเขาเงียบๆ  ขณะเดียวกับที่เธอกลับมาอยู่ข้างตัวเย่ว์หยาง มีเงาสองสามสายลอบเข้ามา เงาเหล่านี้ไม่ทราบว่าหลบรอดความสนใจจากจักรพรรดิฟู่โฉวผ่านทะเลคลั่งเข้ามาในทางผ่านมิติได้อย่างไร
ผู้นำคนแรกคือคนเถื่อนร่างกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อแข็งแรงเหมือนวัว
ที่ปากมีเขี้ยวงอกโง้วเหมือนดาบ
กายท่อนบนเปลือยเปล่า ผิวสีกากีสักเป็นรูปลวดลายแปลกประหลาด รอบเอวพันด้วยเอ็นสัตว์ร้อยห้อยด้วยศีรษะของคนที่ตายอย่างอยุติธรรม
คนเถื่อนกระหายเลือดถือกระบองด้วยมือซ้าย มือขวาถือเนื้อดิบของสัตว์ชนิดหนึ่ง เขากำลังแทะกินอย่างมูมมาม
แค่ดวงตาและท่าทางที่น่ากลัวทำให้คนที่พบเห็นตอนแรกรู้สึกแข้งขาอ่อนทันที!
ที่ตามข้างหลังคนเถื่อนมาติดๆ เป็นบุรุษสูงถึงสิบเมตร เขาเตี้ยกว่าพวกเผ่าโนม (ยักษ์ชนิดหนึ่ง) เพียงครึ่งเมตร แต่เขาเป็นเผ่าโนมอยู่ดี
โนมน้อยนี้สวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย
บนศีรษะสวมหมวกสูงกว่าความสูงของตนอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง
ต่างจากคนเถื่อนผู้ดูโหดอำมหิต  โนมน้อยผู้นี้ยิ้มดูเหมือนกำลังอารมณ์ดี
ด้านหลังโนมน้อย เขาเป็นเป็นชายชราศีรษะโล้น สีหน้าของเขาเหมือนกับว่าผู้คนทั้งโลกติดหนี้เขา  นอกจากมีรูปหน้าที่ดูเหมือนโลงศพแล้ว เขามีเครายาวสีขาว ชายชราดูเหมือนไม่มีอะไรแตกต่าง  แน่นอนว่าตราบเท่าที่เป็นนักสู้ปราณฟ้า ก็สามารถมองออกได้ง่ายว่าชายชราหน้าเหมือนโลงศพแข็งแกร่งทรงพลังมากกว่าคนเถื่อนอำมหิตและคนเผ่าโนมที่มาถึงก่อนมากมายหลายเท่า เทียบกับสองคนแรกแล้ว ปีศาจเฒ่าน่ากลัวกว่า
เบื้องหลังชายชราหัวล้าน เป็นบุรุษร่างอ้วนใหญ่
คนอ้วน ทุกคนเคยเห็นมาแล้ว
แต่คนอ้วนลักษณะอย่างนี้ ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ  คนอ้วนผู้นี้ไม่ต่างไปจากลูกชิ้นเนื้อขนาดใหญ่  แม้แต่นิ้วก็ยังอวบอ้วน  ใบหน้าอวบอ้วนจนแทบลืมตาไม่ขึ้นมองเห็นแต่เส้นโค้งเบาบาง  ถ้าต้องการมองดูตาคนอ้วนผู้นี้ คาดว่าต้องแล่ไขมันที่หนังตาของเขาออกหลายๆ ชั้นจึงจะเจอได้
อย่างไรก็ตาม คนอ้วนก็ยังมีเท้า
ทั้งยังสามารถเดินได้
แค่เพียงมองดูเขาเดิน ทุกคนยังรู้สึกอึดอัดและเหนื่อยแทน
ทุกคนที่เห็นคนอ้วนผู้นี้อดคิดไม่ได้ว่า “ถ้าเขาเปลี่ยนจากเดินเป็นกลิ้งไปแทน คาดว่าจะไปได้รวดเร็วกว่า”
แม้จะไม่ใช่ระยะไกลออกไป แต่คนอ้วนใช้เวลาเดินสิบนาทีกว่าจะเดินผ่านทางเดินมิติตรงไปที่หญิงงามจูกวงที่กำลังจะตาย  เขามองดูอัญมณีประดับหน้าผากของหญิงงามจูกวงและหรี่นัยน์ตาเป็นประกายมองดูเหมือนรูเข็มสำหรับร้อยด้าย  “โอว...นี่ นี่มันลูกปัดอธิษฐานไม่ใช่หรือนี่!  ของดีแท้ๆ  นางงามน้อย ถ้าเจ้ายินดีจะยกให้ข้า ข้ายอมรับปากเจ้าทุกอย่าง รีบถอดออกมา  ข้าอยากได้  ข้าชอบมันมาก  เอามาให้ข้า!
 “ถ้าข้ายกให้ท่าน ท่านจะไว้ชีวิตข้าหรือไม่?”  หญิงงามจูกวงหอบหายใจถามอย่างอ่อนแรง
 “ไม่ได้, นั่นเป็นไปไม่ได้  ถ้าเจ้าไม่อยากส่งมาให้ด้วยตนเอง  อย่างนั้นข้าจะหยิบเอง แม้ว่าข้าจะไม่ชอบทำอย่างนั้นก็ตาม”  บุรุษอ้วนอ้าปากหอบหายใจ พูดตามตรง
 “นั่นคือสินสงครามของข้า  ไสหัวไปไกลๆ เลยเจ้าอ้วน!  หวีเฉาตัวปลอมโมโห
 “เจ้ากับข้าเป็นพี่น้องกันไม่ใช่หรือ  เจ้ากำลังยุ่งมาก ข้าจะช่วยเก็บไว้ให้ก่อน”  คนอ้วนหัวเราะอย่างไม่อาย
 “อะไรนะ? ข้ากับเจ้าเป็นพี่น้องกันหรือ  อย่างเจ้าน่ะหรือ?  เจ้าเกี่ยวอะไรด้วย?”  หวีเฉาตัวปลอมกระชากมือของคนอ้วนที่ต้องการจะหยิบอัญมณีจากหน้าผากของหญิงงามจูกวง
 “โอวแน่นอน มันเป็นของข้าเองและน้องข้า ข้าเองก็ต้องจัดการให้!” คนอ้วนพูดไม่ทันจบก็หวีเฉาตัวปลอมเตะกระเด็น หลังจากหวีเฉาตัวปลอมเตะคนอ้วนกระเด็นแล้ว เขารีบวิ่งไปที่ประตูทางเข้ามิติและแค่นเสียงตะโกน  “เจ้าโง่!  เจ้าไม่มีส่วนกับเรื่องในวันนี้ไม่ใช่หรือ? ประตูแดนดาวกำลังจะเปิดอยู่แล้ว  ถ้าเจ้าต้องการมีส่วนร่วมด้วย ทำไมเจ้าไม่เข้ามา?”
 “ข้าคร้านจะปีนป่ายขึ้นไป....” ยังมีร่างเงาอีกร่างหนึ่งอยู่ภายในทางเข้าประตูมิติ ซึ่งมองดูเหมือนงูตาย เขาหลับอย่างเกียจคร้านไม่ต้องการจะเคลื่อนไหว
เย่ว์หยางสงสัยเป็นกำลัง  ขณะที่ทุกคนไม่ทันระวัง พวกเขาพบว่าคุณชายวิ่งออกไปแล้ว
ในมือถือกิ่งไม้ที่ไม่มีใครรู้จัก
เขาวิสาสะจับบุรุษผู้เกียจคร้านบนพื้นพลิกซ้าย พลิกขวา แต่บุรุษผู้นั้นก็ไม่ยอมเคลื่อนไหวเหมือนกับคนตาย เย่ว์หยางเอากิ่งไม้ในมือแหย่  คนเกียจคร้านผู้นี้เพียงแต่พลิกตัวบ่นพึมพำ “ข้ายังไม่ตาย  แต่ขี้เกียจขยับตัว”
ทุกคนหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
ไม่ง่ายนักที่จะเจอคนเกียจคร้านระดับนี้ได้...อย่างไรก็ตามคนอยากรู้อยากเห็นและกล้าหาญอย่างคุณชายไตตันหาได้ยากยิ่งกว่า!
จงกวนรีบเข้าเข้ามาคุ้มกันเย่ว์หยางทันที  ตอนนี้ราชาจื่อฟงเป็นเพราะหญิงงามจูกวงทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส อาศัยแค่จงกวนคงไม่มีกำลังมากพอ ต้องมีราชาโหลวลั่วและราชาว่านเจียวผนึกกำลังคุ้มกันความปลอดภัยของคุณชายไตตัน  แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือยังมีปีศาจอสรพิษน้อยเสี่ยวเหวินหลี  ถ้าเธอไม่อยู่ที่นั่น อย่างนั้นทุกคนคงจะยอมแพ้อย่างง่ายดาย  เป็นไปไม่ได้ที่จะสู้กับศัตรูผู้ทรงพลังมากมาย
หมิงลี่ฮ่าวยังนิ่งเหมือนคนตาย ไม่ส่งเสียงอะไร
ราชาชิงหลางมีสีหน้าจริงจัง  เขาจำสถานะของคนเหล่านี้ได้
ถ้าคนเหล่านี้มาเพียงคนหรือสองคน อย่างนั้นราชาชิงหลางอาจจะจำไม่ได้  แต่มามากขนาดนั้นนับว่ามีความชัดเจน เว้นแต่เขาเป็นคนตาบอด  ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะจำไม่ได้
เมื่อเย่ว์หยางกลับมา ราชาชิงหลางกระซิบบอกเขา  “คุณชายไตตัน!  คนเหล่านี้ความจริงก็คือแปดขุนพลบริวารของเจ้าสุริยา  หวีเฉาตัวปลอมน่าจะเป็นจอมหักหลัง (ต้าวต้าวหนาน) ที่มีชื่อเสียงทางด้านทรยศหักหลัง  เขาเก่งในเรื่องปลอมตัวเป็นคนอื่นและหลอกลวง สู้กันครั้งต่อไป เขาอาจจะปลอมตัวเป็นคนอื่นได้  ต่อไปท่านจะต้องระมัดระวัง  ถ้าท่านไม่คุ้นเคยก็ต้องจดจำให้ได้เร็วๆ  มิฉะนั้นอย่าไว้วางใจใครในนั้นอย่างง่ายดาย 
 “อาจจะเป็นร่างแปลงโฉมของจอมหักหลังต้าวต้าวหนานได้”
 “แล้วจักรพรรดิฟู่โฉวตัวปลอมเล่า?”  เย่ว์หยางรู้สึกว่าที่นี่มีอยู่สามคนที่แข็งแกร่งที่สุด  และจอมหักหลังเก่งที่สุดในสามคนนี้ เพียงแต่จักรพรรดิฟู่โฉวตัวปลอม ชายชราเครายามและคนเกียจคร้าน
 “เขาน่าจะเป็นหนึ่งในแปดขุนพลนามว่าบัณฑิตซือเหริน”  ราชาชิงหลางคาดเดา
 “ถ้าจอมหักหลังคือตัวแทนของการทรยศหักหลัง อย่างนั้นบัณฑิตซือเหรินก็เป็นตัวแทนของความรู้และเหตุผล   คนเถื่อนเป็นตัวแทนของความบ้าคลั่งกระหายเลือด เจ้าคนเผ่าโนมเป็นตัวแทนของความมั่งคั่งและสมบัติ อดีตชอบกินคน เขาเป็นคนโหดร้ายและโลภมากเก่งกาจเรื่องปล้นตีชิง เมื่อเขาลงมือแล้วต้องได้สิ่งที่เขาต้องการ  บุรุษอ้วนเป็นตัวแทนของความโลภและปล้นชิง  เขาจะไม่ยอมปล่อยผลประโยชน์ใดๆ ให้หลุดมือเด็ดขาด  ส่วนชายชราเครายาวนั้นเป็นตัวแทนของความดื้อรั้น มีความเคร่งครัด เขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในแปดขุนพล  ส่วนคนเกียจคร้านที่อยู่หน้าท่าน ความจริงเป็นคนโง่มีพลังยากจะหยั่งถึง”  ราชาโหลวลั่วรีบแนะนำเย่ว์หยางอย่างกระตือรือร้นและรวดเร็ว
 “จ้าวสุริยามีแปดขุนพลเป็นบริวารไม่ใช่หรือ?”  เย่ว์หยางงอนิ้วนับ และถามเหตุผล “อีกคนหนึ่งอยู่ที่ไหน? หรือว่า....”
เขามองไปที่ราชาสองหน้าที่กำลังถือเคียวปีศาจ
ราชาชิงหลางลดเสียงตนเองลง และเหลือบมองไปทางราชาสองหน้า “มีอีกคนหนึ่งเรียกว่าเสี่ยวโฉ่ว (ตัวตลก) ซึ่งเป็นตัวแทนของความชั่วร้ายและอำมหิตเลือดเย็น เป็นคนที่ลึกลับที่สุด ไม่มีใครเคยเห็นสถานะของเสี่ยวโฉ่ว  อาจอยู่ไกล หรืออยู่ใกล้ก็ได้ใครจะรู้”
ความหมายของราชาชิงหลางคาดการณ์ไปทางราชาสองหน้า
แต่เย่ว์หยางรู้ดี
ราชาสองหน้าก็คือราชาสองหน้า  เสี่ยวโฉ่วก็คือเสี่ยวโฉ่ว
แปดขุนพลบริวารของจ้าวสุริยามาเจ็ดคน  ดังนั้นเสี่ยวโฉ่วหายไปเป็นเวลาหลายปี?
เสี่ยวโฉ่วยังไม่ปรากฏ เขาทำอะไรอยู่  มีสามราชาที่มีพลังระดับเดียวกับราชาสองหน้า และจ้าวสุริยาผู้ทรงพลังที่แม้แต่หมิงลี่ฮ่าวก็ยังซ่อนพลังจากคนอื่น  เขาอยู่ไหนกัน?
เย่ว์หยางมีลางสังหรณ์ว่าศัตรูใกล้ปรากฏ  ดังนั้นต่อไปก็ควรเปิดเผยขั้นตอนของแผนการทั้งหมด

8 ความคิดเห็น:

Numton กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สนุกมาก รอลุ้นสุด ๆ

ulomzx กล่าวว่า...

โธ่่..ความสามารถของแปดขุนพลรวมอยู่ในเย่าว์หยางคนเดียวแล้วนะ

WingF กล่าวว่า...

ฉากใกล้จะเปิดม่่านแล้ว รอแค่ตัวละครครบก่อน

Krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นัดบ้า กล่าวว่า...

บอกได้แค่ว่าอัปรีย์ 8 คนมาไม่เท่าเยว่ 1 ตัว

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น