วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1007 ศึกแรกของราชินี


ตอนที่  1007  ศึกแรกของราชินี
เรื่องราวความเป็นไปของชีวิตไม่ได้ราบเรียบเสมอไป   ชีวิตมีขึ้นมีลง
 
ตัวอย่างเช่นนางเซียนหงส์ฟ้าที่อยู่ในตำแหน่งจักรพรรดิแดนดินของภูมิภาคสวนสวรรค์ และราชันย์ปีศาจใต้ที่รับตำแหน่งราชาแห่งอาณาจักรเว่ยฟงกำลังเผชิญการต่อต้านในด้านต่างๆ การต่อต้านมีทั้งโจ่งแจ้งและไม่เปิดเผยจากปัญหาเดิมระหว่างสามจักรพรรดิคือจักรพรรดิเสิ่นกวง  เฟิ่นนิ่วและฟู่โฉว  นอกจากนี้ยังมีคนของเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่คอยเติมเชื้อสุมไฟ  ทั้งยังมีสายลับของจ้าวสุริยาที่ยังหลงเหลืออยู่  รวมทั้งกลุ่มอำนาจที่ได้รับผลประโยชน์จากสงคราม...คนเหล่านี้ไม่ต้องการให้ภูมิภาคสวนสวรรค์ปลอดจากสงคราม  ทั้งไม่หวังจะให้ดินแดนในภูมิภาคนี้มีความเป็นเอกภาพ
พวกเขาไม่ทราบว่านางเซียนหงส์ฟ้า จักรพรรดินีเทียนฟามีความแข็งแกร่งเพียงไหน  ไม่รู้ทั้งที่มาของนาง
คนฝ่ายตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ยังเข้าใจผิดคิดว่านางถูกส่งมาจากฝ่ายเดียวกัน จึงไม่พยายามสร้างความวุ่นวาย  พวกเขาเพียงแต่มองดูอยู่ในที่ลับคอยจับปลาตอนน้ำขุ่น
เหล่าแม่ทัพขุนพลของจักรพรรดิเสิ่นกวง จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วและจักรพรรดิฟู่โฉวที่ทำสงครามกันมาเป็นพันปี ย่อมไม่ใช่คนโง่แน่นอน
กลุ่มผลประโยชน์ที่ทำกำไรจากสงครามเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าจิ้งจอก
เป็นไปไม่ได้ที่จะต่อต้านอย่างเปิดเผย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าจักรพรรดินีเทียนฟาแข็งแกร่งและมีพลังระดับจักรพรรดิจริงๆ การเป็นปฏิปักษ์กับนางอาจจะเข้าแผนความตั้งใจของนางไม่ใช่หรือ?  เป็นไปไม่ได้ที่จะสู้กับจักรพรรดินีเทียนฟาที่เป็นนักสู้ระดับจักรพรรดิแดนดิน ย่อมเป็นไปไม่ได้แน่นอน
ทุกฝ่ายคิดหาวิธีแก้ปัญหา
นั่นคือการลองกำลังกับราชินีเว่ยฟงก่อน
ราชินีเว่ยฟงน้องสาวของจักรพรรดินีเทียนฟามีความแข็งแกร่งระดับใดกันแน่? ลองยั่วโทสะราชินีเว่ยฟงแล้วดูปฏิกิริยาสนองตอบของจักรพรรดินีเทียนฟา  ทั้งหมดนี้จะต้องใช้วิธีหลอกล่อ  สำหรับการตายในการต่อสู้ของจักรพรรดิเสิ่นกวงและจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว  ยกเว้นแต่หน่วยข่าวกรองของจ้าวสุริยาไม่กี่คนที่รู้น้อยมาก  ทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้  จักรพรรดิแดนดินไม่ใช่หุ่นดินปั้น เป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองจะตายในลักษณะนั้น  ถ้าจักรพรรดิเสิ่นกวงและจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วตายจริง ใครเป็นคนทำ?  ใครมีพลังแข็งแกร่งมากพอจะฆ่าจักรพรรดิแดนดินถึงสองคน?
 “เกลียดนักเชียว, ผู้อื่นกำลังมีความรักกันแท้ๆ”  ราชันย์ปีศาจใต้โกรธจัด  นี่เป็นช่วงเวลาที่นางจะมีความสุขกับคนรัก  แต่นางกลับถูกพวกไม่มีสมองรบกวน
 “มีคนสามคนซึ่งได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนมาตะโกนเรียก คือส่านเย่าผู้ใต้บังคับบัญชาของจักรพรรดิเสิ่นกวง ม่อเยี่ยนตัวแทนบริวารจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว  ขวงลี่ตัวแทนกลุ่มสิบสถานบันการเงินใหญ่  พลังของทั้งสามนี้ไม่อ่อนด้อย คาดการว่าพลังโดยทั่วไปจะเป็นรองแปดขุนพลบริวารของจ้าวสุริยาอย่างซือเหรินและคนเกียจคร้านเล็กน้อย  แต่ยังแข็งแกร่งมากกว่าคนโฉดและคนอ้วน”  จักรพรรดิมังกรอธิบายรายละเอียดข้อมูลให้ธิดาของตนฟัง เพราะการเปลี่ยนแปลงของธิดาของเขา  บิดานางไม่ใช่นตาบอด  ตั้งแต่กลับมาจากบ่อน้ำพุร้อน ความสัมพันธ์ระหว่างธิดาของเขากับเย่ว์หยางแตกต่างไปจากเดิมสิ้นเชิง  แต่เพื่อความสุขของธิดาของเขา เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น 
สำหรับคนในเผ่าพันธุ์  เขาจะไม่ต้องการนักสู้อย่างเย่ว์หยางได้อย่างไร?
เผ่าภูตบูรพาต้องการจะกลับไปยังแดนสวรรค์และได้รับการยอมรับ
จักรพรรดิมังกรไม่คิดจะเพิ่มแรงกดดันในเส้นทางรักของธิดาตนเองแม้แต่น้อย  เขารักธิดาคนนี้มาก ปล่อยให้นางได้เลือกเส้นทางรักอย่างอิสระ  ในจุดนี้เขาเรียนรู้เรื่องนี้จากบิดาหลายคนที่มีลูกสาวในทวีปมังกรทะยาน  สิ่งที่เหล่าผู้อาวุโสพึงทำก็คือให้การสนับสนุนบุตรธิดาของตนอย่างดีที่สุด
ในแง่พลังความแข็งแกร่งจุนอู๋โหย่วและอาจารย์จิ้งจอกยังมิอาจเทียบได้กับจักรพรรดิมังกรแห่งเผ่าภูตบูรพา
แต่ในฐานะบิดาคนหนึ่ง
คนเหล่านี้เป็นบิดาที่ดี
ถ้าจุนอู๋โหย่วเต็มใจ ธิดาของเขาก็จะนำผลประโยชน์มาสู่ตระกูลของตนเองจากเย่ว์หยางได้มาก  พวกเขาไม่ได้ให้ธิดาตนเองทำอย่างนี้  ตรงกันข้ามตราบที่ธิดาพวกเขามีความสุข พวกเขาไม่มีอะไรต้องขอ
เป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากจุนอู๋โหย่วและอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า จักรพรรดิมังกรจึงรู้สึกว่าควรให้ธิดาของเขามีอิสระเลือกความก้าวหน้าของตนเองได้มากขึ้น
ให้นางได้โบยบินไขว่คว้าหาความสุขด้วยตัวเองโดยปลอดกังวล
นางคือธิดาที่ล้ำค่าของเขา
ตราบเท่าที่นางมีความสุข  ยังจะมีอะไรในโลกมาแลกได้อีกเล่า?
จักรพรรดิมังกรเห็นธิดามีความสุขนั่งอยู่บนบัลลังก์ราชา บางครั้งนางหันไปสบตาชายคนรัก นางรู้สึกว่าบิดาของนางตอบรับด้วยดี นางอดน้ำตาซึมมิได้
รอยยิ้มนี้นับเป็นผลเก็บเกี่ยวใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว
ความรุ่งเรืองของเผ่าภูตบูรพาไม่จำเป็นต้องใช้ความรักและความสุขขององค์หญิงของเผ่าพันธุ์แลกมา
ตรงกันข้ามนักรบเผ่าภูตบูรพาสามารถเสียสละเพื่อปกป้ององค์หญิงและบุตรธิดาของพวกเขา
จักรพรรดิมังกรไม่พูด  เมื่อธิดาของเขาเข้ามาหา  เขาพยักหน้าเล็กน้อยปกปิดความลับให้นางเป็นการสนับสนุนนาง  การแสดงออกของเขาทำให้ราชันย์ปีศาจใต้เขินอายและมีความสุข  ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนอยู่ในท้องพระโรงมากมายนางคงโผเข้ากอดเย่ว์หยางบอกข่าวดีเพื่อคลายความกังวลเล็กน้อยของเขา
 “เด็กโง่!” จักรพรรดิมังกรเมื่อเห็นธิดาของตนปลาบปลื้มจนน้ำตาซึม เขาเองก็ปลาบปลื้มใจ แม้ว่านางเติบโตขึ้นและมีพลังอำนาจมาก มีคุณสมบัติได้นั่งปกครองอาณาจักรในแดนสวรรค์ แต่เขาก็ยังมองว่านางคือเด็กหญิงตัวน้อยที่เขายังกังวลห่วงใยเสมอ
 “ใครอยู่เบื้องหลังพวกเขา? เจ้าสืบมาได้บ้างหรือเปล่า?”  เย่ว์หยางคิดแล้วสอบถาม
 “เบื้องหลังผู้ท้าทายทั้งสามนี้ก็คือบุตรคนโตของจักรพรรดิเสิ่นกวงจี้โจว แม่ทัพอันดับหนึ่งของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว เขาเป็นสหายของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วนามเหลยเป้า  และน้องชายของเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่นามเถิงเฉอ นอกจากนี้ยังมีนักสู้ระดับราชาหลายคนของสิบสถาบันการเงินอีกมาก พวกเขามีพลังระดับเดียวกับจี้โจวแต่เพื่อรักษาผลประโยชน์พวกเขาใช้ความเป็นพันธมิตรบังหน้า แต่ความจริงเป็นการร่วมมือแบบไม่แนบแน่นตราบใดที่เรากันบุตรชายของจักรพรรดิเสิ่นกวงออกไปได้  สหายที่ภักดีของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วและน้องชายของเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ก็ถูกกันออกไป  ข้าเชื่อว่ากลุ่มคนที่ให้ความสนใจเหล่านี้จะมาพร้อมกับรอยยิ้มและแย่งกันร่วมมือกับเราทันที จี้โจว เหลยเป้า และเถิงเฉอมีพลังแข็งแกร่ง  จากข้อมูลที่เราได้รับ ทั้งสามเทียบได้กับราชาสองหน้าผู้อ่อนแอที่สุด เหลยเป้าผู้แข็งแกร่งที่สุดอาจเทียบได้กับพระยาราชสีห์บริวารของจ้าวสุริยา”  จักรพรรดิใต้พิภพจะทำงานด้านข่าวกรองเป็นส่วนใหญ่  เขามีประสบการณ์ในการรวบรวมข่าวกรอง และงานทำนองนี้  จักรพรรดิมังกรจะทำหน้าที่งานเจรจาต่อรองทางการเมือง
ขณะที่มารสัมฤทธิ์ฟ้า จะทำหน้าที่ฝึกๆๆๆ บ้าฝึกอย่างเดียวไม่ทำอะไรอย่างอื่น
งานทุกด้านของวังมารจะดูแลจัดการโดยมารแค้นฟ้า  มารฟ้าวิบัติ ส่วนมารสัมฤทธิ์ฟ้าพี่ใหญ่จะทำหน้าที่คล้ายเย่ว์หยางคือเป็นเถ้าแก่ห้าง
นางเซียนหงส์ฟ้าเมื่อได้ยินว่าเหลยเป้าที่แข็งแกร่งที่สุดยังคงมีระดับเท่ากับพระยาราชสีห์ นางรู้สึกเบื่อเล็กน้อยทันที นางส่ายหน้าเบื่อหน่าย  “ภูมิภาคสวนสวรรค์ ในที่สุดก็กลายเป็นที่เล็กๆ  ไม่มียอดฝีมือ  ข้าไม่ต้องลำบากเหน็ดเหนื่อยกับการเข่นฆ่าคนพวกนี้โดยตรง”
คำพูดของนางทำให้หัวหน้าพ่อบ้านเย่ และหัวหน้าจินฟันทองที่กำลังคุกเข่าอยู่ข้างหน้าพอได้ยินแล้วอดน้ำตาไหลไม่ได้
ฝ่าบาทยังคิดว่าภูมิภาคอย่างสวนสวรรค์นี้เป็นสถานที่เล็กหรือนี่?
ต้องรู้ไว้ว่าจักรพรรดิเสิ่นกวง จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วและจักรพรรดิฟู่โฉวเป็นจักรพรรดิแดนดินทั้งสามคน ล้วนแต่พยายามอย่างหนักมาเป็นเวลาหลายพันปี แต่กลับไม่ได้รับอะไรเลย ภูมิภาคสวนสวรรค์ท่านได้รับมาทั้งหมด นี่ยังคิดจะทอดทิ้งไปเฉยๆ อย่างนั้นหรือ?
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีข้อสงสัยใดต่อคำพูดของนางเซียนหงส์ฟ้าภรรยาของคุณชายไตตัน  กล่าวกันว่านางมีพลังมากกว่ามารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกร จักรพรรดิใต้พิภพ  นางปรามาสจี้โจว เหลยเป้าและเถิงเฉอจึงเป็นเรื่องธรรมดา  คนที่สามารถสู้กับคุณชายไตตันกับจักรพรรดินีเทียนฟาต้องเป็นระดับเดียวกับจ้าวสุริยา  ตอนนี้จี้โจว เหลยเป้าและเถิงเฉอ ยังไม่ถึงระดับจักรพรรดิแดนดินด้วยซ้ำ  ดังนั้นจักรพรรดินีเทียนฟาถึงดูเบื่อหน่าย!  เขาเกรงว่าสามคนนี้คงเพ่งเป้าหมายไปที่ราชินีเว่ยฟง
 “เรื่องเข่นฆ่าสังหารคงไม่ดี ไม้ใหญ่ถูกโค่น ต้นหญ้าบนพื้นก็เติบโตขึ้นเพราะมันสูญเสียร่มเงา  เมื่อเรามาถึงภูมิภาคสวนสวรรค์ใหม่ๆ ยังไม่มีอะไรมั่นคง การกวาดล้างมากเกินไปดูยังจะไม่เหมาะ ถ้าจำเป็นต้องฆ่าคนบางคนเพื่อเป็นการเตือนคนอื่น เราก็ควรใช้วิธีนี้ มิฉะนั้นเราจะมีงานยุ่งทุกวัน  งานก็จะหนักมากขึ้น!  แนวคิดของราชันย์ปีศาจใต้สอดคล้องกับความคิดทุกคน
 “อย่างนั้นก็ฆ่าเถิงเฉอน้องชายเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ชางหลง นั่นไม่ใช่เรื่องดี”  นางเซียนหงส์ฟ้ามองเย่ว์หยางและส่งสัญญาณให้หัวหน้าองครักษ์สรุปตัดสินใจ
 “คนของชางหลงต้องถูกกำจัด  คนของจ้าวสุริยาต้องค่อยๆ กำจัด  ขณะที่คนอื่นที่ไม่สามารถใช้งานได้ทุกคนจะต้องถูกกำจัด ถ้าไม่ฆ่าก็ต้องเนรเทศออกนอกดินแดน  เรามาถึงภูมิภาคสวนสวรรค์นี้เพื่อเป็นจ้าวไม่ใช่เป็นทาส นี่คือสิ่งที่พวกเขามองอย่างผิวเผินอย่างนั้นหรือ? แน่นอนว่ากระบวนการเปลี่ยนแปลงนั้นได้รับอนุญาต แม้ไม่ต้องมาแสดงความภักดี แต่อย่างน้อยต้องไม่ขัดแข้งขัดขาเป็นปฏิปักษ์ต่อเรา  ไม่เช่นนั้นก็จับทุกคนทำปุ๋ยดอกไม้เสียเลย  เย่ว์หยางรู้ว่าตัวเขาไม่ได้ควบคุมกองทัพ  ถ้าผู้บัญชาการใจดีต่อศัตรูก็เท่ากับโหดร้ายกับทหารของตน  ถ้าคนแบบนี้ต้องการนำทหารเข้าสู้ ใครจะกล้าติดตามเขาเล่า?
 “ใช่แล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับอำนาจความแข็งแกร่ง”  มารสัมฤทธิ์ฟ้าสนับสนุนแนวคิดของเย่ว์หยาง  ในสายตาของเขา คนอ่อนแอสามารถอยู่รอดได้ แต่ต้องเจียมตัวว่าเป็นคนอ่อนแอ  ถ้าไม่ต้องการเป็นคนอ่อนแอ ต้องฝึกฝนให้หนัก!
 “เมื่อเป็นเช่นนั้น  พ่อบ้านเย่ เจ้าเป็นตัวแทนราชาของอาณาจักรเว่ยฟง จงประกาศท่าทีที่แข็งกร้าว”  จักรพรรดิมังกรหัวเราะลั่น  “เราจะคุยกันด้วยกำลัง”
 “ขอรับ!” หัวหน้าพ่อบ้านเย่และหัวหน้าจินฟันทองแอบหวังว่าวิธีการของเจ้านายจะดีขึ้นยิ่งกว่านั้น
เจ้านายแข็งแกร่ง พวกเขาที่เป็นบริวารพลอยได้หน้าไปด้วย
เมื่อก่อนราชาจื่อฟงเมื่ออยู่ต่อหน้านักสู้ปราณฟ้าผู้เข้มแข็งที่มีระดับพลังแข็งแกร่งกว่าหนึ่งระดับ เขาไม่กล้าเงยหน้ามอง ปล่อยให้พวกเขาต้องระมัดระวังกันเอง ส่วนคุณชายไตตันตอนนี้ใจเย็นมาก ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร จะเป็นจักรพรรดิผู้น่ากลัว หรือเจ้าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ชั้นใน ต่อให้เป็นจ้าวสุริยา เจ้าตำหนักเทพสุริยะก็เผชิญหน้าสู้ได้  เขาเป็นเจ้านายที่พวกเขาคู่ควรอุทิศชีวิตรับใช้
หัวหน้าพ่อบ้านเย่และหัวหน้าจินฟันทองเกษียณงานแล้ว ทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับตัวแทนอีกฝ่าย แถลงการณ์ที่เขาอ่านสร้างความประหลาดใจมาก
ในมุมมองของจี้โจว ม่อเยี่ยนและขวงลี่เห็นว่าจ้าวอาณาจักรเว่ยฟงนั้นก้าวร้าวเสียมารยาท เจ้าอาณาจักรเว่ยฟงจะหักล้างคำพูดของอีกฝ่ายด้วยกำลังกันโดยตรงในวันพรุ่งนี้  เว้นแต่ก่อนเวลานั้น ราชาทั้งสามจะคุกเข่าต่อหน้าราชินีเว่ยฟง และถูกโบยร้อยทีต่อหน้าสาธารณชน  พวกเขาต้องขอขมาด้วยความจริงใจ  มิฉะนั้นราชาทั้งสามจะต้องประสบชะตากรรมที่อนาถ ผลของการก้าวร้าวและต่อต้านระรานศักดิ์ศรีของนักสู้ที่แข็งแกร่งกว่า ราชาทั้งสามจะต้องรับผิดชอบ...
ทันทีที่ประกาศแถลงการณ์ ทุกคนโห่ร้องเดือดดาล
ต้องรู้ก่อนว่าอาณาจักรเว่ยฟง เดิมทีก็คืออาณาจักรจื่อฟง  เป็นแค่ประเทศแนวหลังเล็กๆ
เนื้อที่ส่วนใหญ่อยู่ในบึงหยุดลมที่ควบคุมไม่ได้
ปรากฏว่าอาณาจักรจื่อฟงเดิมเป็นเพียงประเทศที่ราชารับหน้าที่ขนส่งทางทหาร เป็นเหมือนประเทศน้องเล็กเมื่อเทียบกับประเทศอาณาจักรใหญ่  ไม่ต้องพูดถึงภูมิภาคสวนสวรรค์ทั้งหมด แค่ภายใต้เขตปกครองของจักรพรรดิเสิ่นกวงในดินแดนมากกว่ายี่สิบเขตปกครอง อย่างน้อยก็มีหลายพันประเทศที่ใหญ่กว่าเขตแดนอาณาจักรจื่อฟง  กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความแข็งแกร่งของอาณาจักรจื่อฟงดั้งเดิม ความจริงถูกจัดอยู่ในลำดับเป็นหมื่น  ตอนนี้ราชินีเว่ยฟงผู้รับตกทอดแม้มีพลังมากกว่า แต่นางก็ยังเป็นเจ้าปกครองอาณาจักรเล็กๆ อยู่ดี แต่ยังกล้าสั่งจี้โจว ม่อเยี่ยนและขวงลี่ตัวแทนของราชาในภูมิภาคสวนสวรรค์ให้คุกเข่าขอความเมตตา และถูกลงแส้ต่อหน้าสาธารณชนอีกหรือ?
เรื่องที่น่าขันที่สุดก็คือน้ำเสียงท่าทีนางที่มีต่อราชาทั้งสามนี้ ราชินีเว่ยฟงนับเป็นตัวอะไร?
แค่เพราะนางเป็นน้องสาวจักรพรรดินีเทียนฟาอย่างนั้นหรือ?
คิดจริงๆ หรือว่าทำอย่างนี้แล้วคนอื่นจะปล่อยนางไป
แดนสวรรค์เป็นที่เน้นการใช้พลังแน่นอน  มีพลังไม่เพียงพอ ต่อให้พี่สาวนางจะรับตำแหน่งเป็นจักรพรรดินีเทียนฟาแล้ว  นางไม่มีทางปกป้องนางได้  ยังไม่ต้องพูดถึงว่าพี่สาวนางไม่ใช่ผู้สืบทอดที่แท้จริง  ปัจจุบันนี้ถ้าจะยกแนวคิดนี้มาพูด  ในที่สุดแล้วไม่มีน้ำหนักเพียงพอจะพูดได้
จี้โจว ม่อเยี่ยนและขวงลี่สามราชาพอได้ทราบข่าวนี้ก็โต้ตอบทันที  “งั้นก็สู้กัน!
เขาคิดว่าจะต้องดำเนินการพบปะและเจรจาอย่างจริงจังและแลกเปลี่ยนสนับสนุนให้ความสนใจ
คาดไม่ถึงเลยว่าราชินีเว่ยฟงนี้จะหยิ่งยโส ทั้งยังโอ้อวดอำนาจ
 “หวังว่าจะมีอะไรดีๆ ให้ดู!  คนนับไม่ถ้วนที่เห็นเหตุการณ์ เมื่อพวกเขาได้ทราบข่าวก็รีบเดินทางไปเมืองลู่หลิวที่แต่เดิมพวกเขาก็ไม่รู้จัก เพื่อดูศึกแรกของราชินีบนบัลลังก์!

3 ความคิดเห็น:

ulomzx กล่าวว่า...

พวกมันคงลืมแล้วว่าเป็นศัตรูเย่ว์หยางจะมีชะตาอนาถขนาดไหน

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น