วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1008 เจ้าไม่คู่ควรถามชื่อข้า!


ตอนที่  1008  เจ้าไม่คู่ควรถามชื่อข้า!
เมืองลู่หลิว
 
แม้ว่าในอดีตราชาจื่อฟงมักจัดงานเลี้ยงให้หญิงงามจูกวงอยู่บ่อยครั้งมีแขกเหรื่อมากมาย  แต่เมืองลู่หลิวไม่เคยมีชีวิตชีวาเช่นนี้มาก่อนไม่เคยมีนักสู้ปราณฟ้ามาถึงมากมายขนาดนี้ นักรบปราณฟ้า  เจ้าเมือง เจ้าแคว้นหรือราชาหรือผู้ปกครองท้องที่เกินกว่าหมื่นคนรวมทั้งหัวหน้าตระกูลที่มีชื่อเสียง รวมทั้งผู้มีอำนาจทางการทหารและทหารรับจ้าง ล้วนคึกคักมีชีวิตชีวา
ทหารรับจ้างเหล่านี้มีความแข็งแกร่งและกระตือรือร้นอยากจะสร้างชื่อ
อย่างไรก็ตามเนื่องจากปัจจัยความแข็งแกร่ง และปัจจัยอื่นๆ สถานะของวันนี้ไม่สามารถไล่ไขว่คว้าความสำเร็จได้ดั่งใจ ยังไม่อาจได้รับคำชื่นชมจากผู้บังคับบัญชา
พวกเขาหวังว่าด้วยโอกาสที่ราชินีเว่ยฟงขึ้นครองบัลลังก์ ดูว่าพวกเขาจะสามารถหาเจ้านายที่มีความสามารถแท้จริง เพื่ออุทิศชีวิตรับงานในฐานะทหารรับจ้าง
ไม่สำคัญว่าจะมีเป้าหมายอะไร  การได้มาถึงเมืองลู่หลิวนับว่าดี
ราชินีเว่ยฟงตัดสินใจฉวยโอกาสขึ้นครองบัลลังก์ นั่นยังกระตุ้นความไม่พอใจของนักสู้ปราณฟ้าหลายคน ไม่ว่าใครก็ถือว่าเป็นโอกาสดี
       ถ้านักรบปราณฟ้าหลายหมื่นเข้ามาในเมืองลู่หลิงไม่สามารถจะอยู่ต่อไปได้  อารมณ์ของคนเหล่านี้ไม่ค่อยดี มีอยู่หลายคนที่เพิ่งกลับมาจากสมรภูมิ ส่วนใหญ่จะเป็นศัตรูกัน คาดว่าพวกเขาไม่สามารถอยู่นิ่งได้เกินสิบนาที และเมื่อพวกเขากระทบกระทั่งกันเป็นไปได้ว่าเมืองลู่หลิวอาจถูกทำลายได้
โชคดีที่จักรพรรดิมังกรและคนอื่นคิดถึงจุดนี้ไว้ก่อนแล้ว จึงให้อาคันตุกะทั้งหมดอยู่ที่นอกประตูเมืองทิศตะวันออก
ใกล้กำแพงเมืองมีการตั้งเวทียักษ์
ด้านล่างเวทีมีที่นั่งเกือบสองหมื่นที่ คนที่ชอบนั่งก็นั่งดู คนที่ชอบยืน จัดสรรตำแหน่งตามลำดับอิทธิพล สถานะ พลังของนักสู้ปราณฟ้าผู้แข็งแกร่งอยู่แถวแรก  นักสู้ปราณฟ้าผู้มีพลังน้อยกว่า ศักดิ์ฐานะน้อยกว่าก็อยู่ในแถวต่อๆ ไปตามลำดับ
ด้วยวิธีนี้ช่วยลดความเป็นไปได้ในการขัดแย้งกันเองระหว่างอาคันตุกะ
พวกราชาเวลาเผชิญหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาจะมีความเกลียดชังกันและกัน โดยทั่วไปแล้วแต่ละคนไม่เต็มใจจะต่อสู้กันต่อหน้าธารกำนัล อย่างมากก็แค่เยาะเย้ยตีฝีปากใส่กัน คนรุ่นเยาว์หรือผู้น้อยที่มาด้วยไม่ได้มาอยู่ใกล้ๆ  พวกเขาไม่เห็นว่าเจ้านายทำอะไร อย่างมากพวกเขาก็แค่ถลึงตาใส่ศัตรูหรือพูดคุยกับพวกพ้องที่เขารู้จัก  จุดสำคัญที่สุดก็คือคนเหล่านี้รู้ว่า ถึงแม้ราชินีเว่ยฟงจะแสดงพลัง แต่ท้ายที่สุดแล้วนางเป็นน้องสาวของจักรพรรดินีเทียนฟา การโกรธกับราชินีเว่ยฟงนับว่าไม่มีอะไร ถ้าจักรพรรดินีเทียนฟากลายเป็นเจ้าปกครองภูมิภาคสวนสวรรค์จริงๆ  ใครเล่าจะกล้าตบหน้านาง หลังจากนั้นจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมใหญ่จริงๆ!
แน่นอนว่าไม่ว่าใครเสนอหน้าสู้ พวกเขาก็ต้องเห็นแก่หน้า ไม่กล้าทำอะไรเมืองลู่หลิว
จักรพรรดินีเทียนฟาเป็นพวกถือศีลกินเจอย่างนั้นหรือ?
ความจริงศักดิ์ศรีนักสู้ระดับจักรพรรดิแดนดินย่อมไม่ถูกท้าทายแน่นอน  มิฉะนั้นจี้โจว เหลยเป้าและเถิงเฉอ ทำไมถึงได้ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังพวกเขา ซานเย่าผลักดันให้ม่อเยี่ยนและขวงลี่ท้าทายราชินีเว่ยฟงหรือ?
นั่นเป็นเพราะพวกเขากลัวว่าจักรพรรดินีเทียนฟาจะกลายเป็นจักรพรรดิแดนดินจริงๆ!
ราชินีเว่ยฟงต้องรักษาศักดิ์ศรี สองที่น้องที่ลึกลับแห่งเมืองไป๋เหอ  แน่นอนว่าพวกนางไม่สามารถอยู่พร้อมกันในเวลาเดียวกันได้  โชคดีที่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเย่ว์หยางผู้มีเข็มทิศสามภพ  ก่อนหน้านี้สองชั่วโมงที่ผ่านมาเย่ว์หยางยังคงเป็นหัวหน้าองครักษ์ร่วมทางกับสองพี่น้องลึกลับและแยกออกมาจากเฒ่าเถี่ยเหมาที่กำลังกรอกเหล้าเข้าปากและถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่น่ากลัวเล็กน้อย  สหายแมงกะพรุนผู้เตรียมจะฆ่าซือจิ่วสายลับของโรงเตี๊ยมปลาวาฬถูกกำจัด
เรื่องที่ต้องสำเร็จแน่อย่างนี้กลับล้มเหลว
ไม่เพียงแต่จับคนไม่ได้  แต่เจ้าแมงกะพรุนหายไปด้วยเช่นกัน
ในเมืองไป๋เหอ แมงกะพรุนเป็นยอดฝีมือที่รู้จักกันดี แต่ยังไม่มีเวลาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ  แม้แต่ร่องรอยการต่อสู้ก็ไม่เหลือให้เห็น และเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย เฒ่าเถี่ยเหมาไม่กังวลคงไม่แปลก  เจ้าแมงกะพรุนหายไปและซือจิ่วกับเถ้าแก่กันฉวนก็หายไป ราวกับว่าคนเหล่านี้ไม่เคยปรากฏตัว เฒ่าเถี่ยเหมาสงสัยเสมอว่าการหายไปของคนเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับสองพี่น้องหรือไม่? แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเฒ่าเถี่ยเหมาคิดไม่ถึง  สองสาวพี่น้องลึกลับจากไปโดยไม่มีเหตุการณ์อะไร ดูเหมือนว่าพวกนางไม่สนใจเมืองไป๋เหอ แร่ดอกสายฟ้าเต็มนางก็จากไปทันที
   สิ่งที่ทำให้ผู้เฒ่าเถี่ยเหมามึนงงที่สุดก็คือพี่น้องสองสาวผู้ลึกลับจากไป แต่ทิ้งบริวารกลุ่มใหญ่ เพื่อให้พวกเขาจัดหาซื้อแร่ดอกสายฟ้าต่อไป  แตกต่างจากศัตรูที่เขาคิด เหมือนกับตระกูลลับลอบสั่งซื้อแร่ดอกสายฟ้าเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง
หากเป็นศัตรูจริงจะไม่ทิ้งคนไว้ในเมืองไป๋เหอ
แม้แต่พวกที่อยู่ ก็ไม่ใช่มือใหม่ที่เพิ่งเผชิญโลกครั้งแรก
ตามข้อมูลที่ได้จากการสืบค้น  สองสาวพี่น้องลึกลับได้รับซื้อแร่ดอกสายฟ้าทั้งหมดจริง  นอกจากแร่ดอกสายฟ้าแล้วพวกเขาไม่สนใจอะไรอื่น... พวกเขาซื้อแร่ดอกสายฟ้ามากมายขนาดนั้นไปทำอะไร?
ปัญหานี้เฒ่าเถี่ยเหมาไม่เข้าใจ และเขาไม่ต้องการถาม
ที่นี่เมืองไป๋เหอ  เขาแค่ต้องการทำงานตนเองให้เสร็จสมบูรณ์
พี่น้องสองสาวลึกลับไม่ใช่ศัตรู  เฒ่าเถี่ยเหมาย่อมมีความสุขเพราะไม่ต้องการตอแยศัตรูที่แข็งแกร่งทรงพลังขนาดนั้น!
เมื่อเขาเห็นพวกนางออกเรือไปแต่เช้าตรู่   เฒ่าเถี่ยเหมาค่อยคลายความคิดดั้งเดิม เขากลับไปประจำที่เก่า
เขาไม่เคยคิดว่าหลังจากออกจากเมืองไป๋เหอแล้ว พี่น้องสองสาวลึกลับกลับไปยังเมืองลู่หลิวแห่งบึงหยุดลมทันทีคืนสถานะเป็นจักรพรรดินีเทียนฟาและราชินีเว่ยฟง
ตอนนี้นางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้เดินทางไปพร้อมเย่ว์หยาง  พ่อบ้านเย่ได้จัดเตรียมอาหารกลางวันมื้อใหญ่ด้วยความรอบคอบพอเพียงกับพวกเขาได้คืนหนึ่ง  ปกติแล้วเย่ว์หยางและทั้งสองคนจะเข้าไปกินอาหารในโลกคัมภีร์  ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ก็คือทำให้เย่ว์หยางอิ่มท้องทุกวัน  แต่บางครั้งมีคนข้างเคียงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้มาก เขาต้องให้บริวารอื่นได้โอกาสแสดงฝีมือบ้างเล็กน้อย
 “ปลากะรังแดงนึ่งหน่อไม้ที่นี่ทำได้ไม่เลว สดใหม่ดีมาก” เย่ว์หยางชื่นชมไม่ขาดปาก
 “ขอรับ!  หัวหน้าพ่อบ้านเย่ได้ทราบข่าวและแอบจำได้ว่าคุณชายไตตันชอบปลานึ่งใหม่สด ท่านผู้หญิงทั้งสองไม่ได้คัดค้านเมนูจานนี้
 “แกงจืดก็ใช้ได้ ของหวานชุดสุดท้ายหวานไปหน่อย”  นางเซียนหงส์ฟ้ามีรสนิยมทางอาหาร ได้รับการประเมินเช่นนั้นนับเป็นของขวัญชิ้นใหญ่แล้ว  พ่อบ้านเย่ฟังคำวิจารณ์ของนาง เขาไม่คิดว่าวิธีนี้จะผ่าน เขาต้องทุ่มเทความคิดยามกลางคืนให้มากขึ้นเสียแล้ว!
 “อาหารมีหลายประเภทและรสชาติเป็นที่ยอมรับได้  จุดหนึ่งก็คือการมีเครื่องเคียงมากเกินไปทำให้ความเด่นของอาหารจานหลักลดลงไป  ทุกคนตั้งใจทำอย่างดีที่สุดเพื่อรับใช้บริการ  สมควรได้รับคำชม ขอให้พยายามทำหน้าที่ให้ดีต่อไป!  คนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดควรได้รับรางวัล หัวหน้าพ่อบ้านเย่!  เจ้าไม่ให้ความสำคัญเรื่องนี้ จดบันทึกลงไป เมื่อเจ้าสร้างความดีความชอบครั้งใหม่ เจ้าจะได้รางวัลสมนาคุณอีก!  คำพูดของราชันย์ปีศาจใต้ทำให้พ่อบ้านเย่รีบขอบคุณไม่ขาดปาก  เขามีเงินทองไม่ขาดมือ  แต่เขากลัวที่สุดว่าเจ้านายจะไม่จดจำตัวเขา  ตราบเท่าที่เจ้านายจดจำตัวเขาได้ นั่นย่อมดีกว่าอะไรทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ประโยคต่อมาของราชันย์ปีศาจใต้ทำให้เขาหวาดกลัวหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
คุกเข่าลงทันที
เพราะราชาปีศาจใต้กล่าวต่อ  “จงเอาพ่อครัวที่ปรุงน้ำเชื่อมฟ้าให้เราไปตัดหัวประจาน  ข้าไม่รู้ว่าใครส่งเขามา และข้าไม่ต้องการจะรู้  แต่เขาบังอาจกระทำการที่น่าเบื่อหน่ายนี้ เราไม่ยกโทษให้เขา!
พ่อบ้านเย่ตกใจและโกรธรีบหมอบคำนับขออภัย และสาบานว่าจะกวาดล้างนักฆ่า ราชินีเว่ยฟงให้เขาพาพ่อครัววังหลวงไปอยู่ในที่ปลอดภัย
เย่ว์หยางโบกมืออย่างไม่จริงจัง  “ไม่จำเป็นต้องลากคนมากมายมาเกี่ยวข้อง พิษในอาหารนั้นจะวางกันในทันทีที่เพิ่งทำเสร็จ  มิฉะนั้นเจ้าคงตรวจไม่พบเจอ  คนวางยาพิษต้องมีความสามารถในการปรุงอาหารได้เท่านั้น ตัดหัวเขาได้ แต่ไม่ต้องประจานต่อสาธารณะ  นั่นจะส่งผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจผู้คน  เจ้าย้อนกลับไปบอกทุกคนตราบใดที่ทุกคนสนองงานได้ดี ราชินีจะปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเป็นธรรม  คนวางยาพิษสมควรเป็นมือสังหารที่ได้รับคำสั่งให้ลอบเร้นเข้ามา”
นางเซียนหงส์ฟ้ายิ้ม  “ถ้าพวกที่คิดว่าพวกเขาสามารถวางยาพิษเราด้วยฝีมือแค่นั่น  นั่นคงเป็นเรื่องตลก  ในภูมิภาคสวนสวรรค์  คนที่เรียกตนเองว่านักสู้ มีฝีมือแค่นี้เองหรือ? ช่างทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ”
สิบนาทีต่อมา
หัวหน้าพ่อบ้านเย่ควบคุมตัวนักฆ่าร่างอ้วนใหญ่มัดด้วยโซ่มังกรเข้ามาเพื่อสารภาพผิด
การจับนักฆ่าครั้งนี้นอกจากจงกวน เฮยถูและไป๋หม่าทั้งสามคนแล้ว ยังมีกุ่ยหลางน้องชายของราชาชิงหลางที่เมื่อพี่ชายของเขาตายแล้ว ครอบครัวของเขาเข้ามาขอสวามิภักดิ์ราชินีใหม่  แม้ว่าพลังของเขาจะมีแค่ปราณฟ้าระดับสาม แต่เพราะมีศักยภาพไม่เลว เย่ว์หยางตัดสินใจรับไว้เป็นคนใหม่ชั่วคราว  ในกรณีนี้กุ่ยหลางจะต้องต่อสู้เต็มที่เพื่อไขว่คว้าสิทธิ์ไม่ใช่หรือ?
 “ประหารชีวิต!  ส่งไปประจานต่อฝูงชนที่ประตูเมืองตะวันออก  ให้พวกเขาได้เห็นหน้าคนที่สมควรถูกประหาร  มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่รู้ว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเป็นเช่นไร” ราชันย์ปีศาจใต้โบกมือตัดสินชะตากรรมของคนผู้นี้
 “เจ้าจะแก้แค้นกับข้า  พวกเจ้าเหล่าสตรีในไม่ช้าจะต้องกลายเป็น...”  นักฆ่าพูดยังไม่ทันจบ กุ่ยหลางก็ตบเขาหน้าหัน “คำพูดของฆาตกรไร้ค่า ที่นี่มีที่ให้เจ้าพูดหรือ?”  จงกวนในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา พวกเขาย่อมเกลียดคนอื่นที่ต่อปากต่อคำกับเจ้านายของพวกเขา  พวกเขาลากคนผู้นี้ออกไปทุบตีทันทีจากนั้นหักกระดูกและประหารชีวิตต่อหน้าสาธารณชน  หลังจากแสดงอำนาจเล็กน้อยแล้ว หลายคนเริ่มเข้าใจอำนาจของราชินีเว่ยฟงขึ้นบ้าง
มังกรไม่ดุร้ายย่อมไม่ข้ามลำน้ำ
ราชินีเว่ยฟงนางกล้าโจมตีสามราชาผู้ปกครองดินแดนรอบบึงหยุดลมโดยตรงได้  ทั้งสามอยู่ในร้อยอันดับแรกของราชาที่ปกครองรอบพื้นที่บึงหยุดลม
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งนักฆ่าเข้ามา แต่พวกเขารู้ได้ว่าราชินีเว่ยฟงจะสั่งประหารชีวิตได้ทันทีโดยไม่ลังเล
ราชินีเว่ยฟงนี้เป็นคนแกร่งกร้าวแน่นอน  เว้นแต่พวกเขาจะมีพลังมากกว่านาง  มิฉะนั้นคาดกันว่าซานเย่า ม่อเยี่ยนและขวงลี่คงได้รับความอับอายแน่!
ศีรษะชุ่มเลือดถูกแขวนประจานหน้าประตูเมืองทิศตะวันออก
ทุกคนที่อยู่บนพื้นมองเห็นได้ทันที
กุ่ยหลางและนักสู้ปราณฟ้าระดับเจ้าเมืองที่ลี้ภัยเข้ามาร่วมกับราชินีใหม่ องครักษ์พิทักษ์ราชินีชุดเก่ายืนอยู่ป้อมประตูเมืองทิศตะวันออกเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาขโมยศีรษะที่ถูกแขวนประจาน  มิฉะนั้นจะเป็นการทำลายความสง่างามของราชินี  นอกจากพวกเขาแล้วยังมีสตรีที่เป็นองครักษ์ส่วนตัวของราชินีบินออกมาจากวังหลวง คาดว่าราชินีเว่ยฟงจัดการแต่งตั้งพวกนางเอง  กุ่ยหลางแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักกัน แต่พวกเขาให้เกียรติกันและไม่กล้าละเลยกัน
สตรีทั้งสองสีหน้าเฉยเมยพยักหน้ารับคำ และไม่พูดอะไรต่อ
มองเห็นพลังของนางแค่เพียงผิวเผิน
พวกนางพรางพลังไว้ได้อย่างสมบูรณ์  ดูคล้ายว่ามีพลังสูงส่ง บางทีก็ดูเหมือนพลังไม่พอ... แน่นอนว่าในเมื่อราชินีเว่ยฟงแต่งตั้งพวกนางเอง เมื่อเทียบกับเจ้าหน้าที่ผู้มาใหม่ อยู่ในช่วงทดลองงานอย่างกุ่ยหลางย่อมมีระดับที่ไม่เท่ากัน
 “ข้านึกว่าใคร ที่แท้ก็เป็นกุ่ยหลางนี่เอง!  เอาศีรษะคนมาแขวนไว้ที่นี่ส่งผลต่อความอยากอาหารค่ำของเราจริงๆ”  มีคนโง่ผอมสูงเหมือนท่อนไม้ยืนอยู่ในกลุ่มผู้คนพูดยั่วยุ  คนผู้นี้มีพลังปราณฟ้าระดับสี่ที่ยืนอยู่ข้างเขา มีนักสู้มากกว่าสิบคนล้วนแล้วไม่อ่อนแอ ทั้งหมดเป็นนักรบปราณฟ้าระดับสามส่งเสียงพูดพร้อมกัน
 “ถ้าเจ้ามีความสามารถในการปลอมตัว และฟื้นคืนรูปลักษณ์เดิม เจ้ากล้าจะพูดอะไรด้วยโฉมหน้าจริงหรือไม่?”  กุ่ยหลางโกรธ   เขาก้าวออกมาและชี้หน้าคนที่เหมือนท่อนไม้ “ข้ากุ่ยหลาง ขอพูดน่าเกลียดและขอบังอาจแตะศีรษะเจ้าผู้นี้  นี่คือการท้าทายศักดิ์ศรีของราชินีเว่ยฟง  จะไม่มีการให้อภัยเด็ดขาด!
 “โอว ...กลัวตายเลย!  บุรุษผอมสูงหน้าตึงทันที  “ด้วยพลังปราณฟ้าระดับสามอย่างเจ้า เจ้าบังอาจเอาความตายมาขู่ข้าหรือ?”
 “ถ้าเจ้ามีฝีมือ  เจ้าลงมาประลองฝีมือกับข้าเลย  ข้าจะต่อให้เจ้ามือเดียว”
 “ดูเหมือนว่าเจ้าขี้ขลาดนี่ไม่มีน้ำยา”
 “กุ่ยหลางเป็นหมันตามธรรมชาติของเขา”
 “ภายใต้บัญชาของราชินีเว่ยฟง สู้ไปมีแต่ตายเท่านั้น และเขาจะต้องหนีแน่นอน  ข้ากุ่ยหลางถ้าเห็นว่าใครล่วงละเมิดศักดิ์ศรีของราชินี  มีแต่ตายสถานเดียว!   ถ้าพวกเจ้าปกปิดสถานะจริง  ถ้าพวกเจ้ากล้ามาเด็ดหัวข้า ข้าก็กล้าสู้ เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าเจ้านายที่หนุนหลังพวกเจ้าจะสามารถท้าทายศักดิ์ศรีของราชินีเว่ยฟงได้?  วันที่ราชินีเว่ยฟงครองบัลลังก์ก็คือวันเดียวกับที่จักรพรรดินีเทียนฟาครองภูมิภาคสวนสวรรค์ ถ้าเจ้าไม่เชื่อก็ลองดู “  กุ่ยหลางประกาศอย่างห้าวหาญ
 “ใครที่จะพูดท้าทายกับจักรพรรดินีเทียนฟาก็ช่าง แต่ตอนนี้ราชินีเว่ยฟงท้าทายราชาสามอาณาจักรแล้ว”
 “พวกเราเป็นใคร  ระดับไหนแล้ว  เจ้าสุนัขนี่บังอาจ...”
 “ไสหัวไป  น่าเบื่อจริงๆ มัวแต่พูดเรื่องไม่ให้หมิ่นศักดิ์ศรีของราชินีเว่ยฟง  เรื่องแบบนั้นเราไม่ทำอยู่แล้ว ไม่เห็นหรือไง เราเป็นแค่ผู้ชมดู กุ่ยหลาง!  อย่าสวมหัวโขนกดหัวพวกเรานักเลย นอกจากนี้เจ้าผู้ไร้ความสามารถปรากฏตัวขึ้น ระวังนะ ลมแรงจะหอบเอาเจ้าตกเวที ฮ่าฮ่าฮ่า!
พลันมีลมกระโชกแรงในกลุ่มผู้คน
หอบเอาทรายและศิลาลอยฟุ้งขึ้นในอากาศ
ฉากภาพเหตุการณ์วุ่นวายสับสน บุรุษร่างผอมสูงเหมือนท่อนไม้ไม่รู้ว่ากระโดดขึ้นไปอยู่ซุ้มประตูเมืองตั้งแต่เมื่อใด  เขาไม่ได้หยิบเอาศีรษะมนุษย์  แต่เอื้อมมือไปที่กุ่ยหลาง  “น้องกุ่ยหลาง!  ไม่ได้พบกันนานแล้ว เราผู้พี่มาเชิญเจ้าไปดื่ม อย่าปฏิเสธเลย”
กุ่ยหลางคำราม นักสู้ปราณฟ้าสิบกว่าคนที่ประจำอยู่ในตำแหน่งโจมตีใส่บุรุษผอมสูงพร้อมกัน
อย่างไรก็ตามบุรุษร่างผอมสูงปล่อยประกายแสงสีทอง กุ่ยหลางและพวกร่างสั่นสะท้านถอยหลังโดยไม่คาดคิด
บุรุษร่างผอมหัวเราะลั่น  “ฮ่าฮ่าฮ่า อ่อนแอเหลือเกิน  แทบจะยังไม่ได้ทำอะไร.....”
คำพูดของเขายังไม่ทันขาดคำ
ทันใดนั้นมีเสียงดังปัง จากใต้ประตูเมืองดังขึ้น แรงสั่นสะเทือนกวาดไปทั้งพื้นโลกและท้องฟ้าทำให้นักสู้ที่มีพลังระดับปราณฟ้าถูกแรงระเบิดอัดกระเด็นออกไปเป็นแนววงกลมหลายสิบเมตร  ตรงใจกลางพื้นที่วงกลมมีหญิงสาวสวมหน้ากากเงิน ขาเรียวยาวสวมรองเท้าเงินงดงามเหยียบอยู่บนท้องที่มีขาสี่ข้าง บุรุษอ้วนที่ร่างเหมือนคางคกร่างใหญ่กระอักโลหิตไม่หยุด
บุรุษอ้วนกระอักโลหิต ดวงตาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวอยู่ในสภาพหมดสติ
พื้นใต้ตัวที่เขาตกลงไปเป็นหลุมกลม
มีรอยแตกร้าวอยู่รอบหลุมเหมือนใยแมงมุมแผ่กระจายขยายไปร้อยเมตร
เนื่องจากคนอ้วนที่หมดสติกำลังจะตายจึงไม่สามารถซ่อนรูปลักษณ์เดิมของเขาได้อีกต่อไป  กล้ามเนื้อใบหน้าของเขาเปลี่ยนรูปหน้าไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ฟื้นฟูรูปลักษณ์เดิมของพวกเขา  เมื่อทุกคนเห็นหน้าบุรุษผู้นั้นอย่างชัดเจน พวกเขาส่งเสียอุทานทันที  “เจ้าฮิปโปขวงเลี่ยว?”  กลับกลายเป็นน้องชายของขวงลี่ นามว่าขวงเลี่ยว...”
ขวงเลี่ยวเป็นใคร?
แทบทั้งหมดไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขา  เขาเป็นหนึ่งในสองพี่น้องของขวงลี่ เขามีพลังปราณฟ้าระดับห้าชั้นสูง  แม้ว่ายังไม่ดีเท่าพี่ชาย แต่เขาก็เป็นนักสู้ระดับราชา
คาดไม่ถึงฮิปโปขวงเลี่ยวนักสู้ระดับราชาเคลื่อนไหวไม่ได้และกำลังจะตายเพราะฝีมือของสาวน้อยฝ่ายตรงข้าม
สาวน้อยคนนี้เป็นใคร?
นางคือราชินีเว่ยฟง?
ไม่ถูกต้อง  ถ้านางเป็นราชินีเว่ยฟง  นางจะออกมาสู้ต่อหน้าสาธารณชนได้อย่างไร?  แต่ถ้านางไม่ใช่ราชินีเว่ยฟง อย่างนั้นนางมีสถานะอะไร?  เป็นไปได้ไหมว่านางเป็นหญิงรับใช้ข้างตัวราชินีเว่ยฟง?    สาวใช้สามารถสังหารนักสู้ระดับราชาได้ในทันทีหรือ.... ถ้าสาวใช้ยังน่าสะพรึงกลัวขนาดนั้น แล้วราชินีเว่ยฟง...
ทุกคนคิดจนหนังศีรษะชา
พระเจ้า, เด็กสาวคนผู้เงียบขรึมคนนี้เป็นสุดยอดนักสู้พันอันดับแรกแน่
กุ่ยหลางก็รู้สึกกลัวจนหลั่งเหงื่อเยียบเย็น  แต่โชคดีที่พวกเขามีทัศนคติให้เกียรตินาง  ไม่เช่นนั้นคงแย่แน่
คนผอมสูงตัวสั่นด้วยความกลัว ที่นี่ไม่สมควรอยู่นาน เขาทะยานขึ้นไปในอากาศทันที ความเคลื่อนไหวของคนผู้นี้รวดเร็วปานสายฟ้า เขาพยายามหลบหนีไปจากป้อมสังเกตการณ์ประตูตะวันออก
อย่างไรก็ตาม ทุกคนสามารถเห็นภาพนี้ได้อย่างชัดเจน
ก่อนที่เขาจะไม่ทันเคลื่อนไหว หญิงสาวสวมหน้ากากอีกคนบนหอคอยประตูทิศตะวันออกก็ไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด  แต่เมื่อบุรุษผอมสูงทะยานขึ้นอากาศ นางเร็วกว่าบุรุษผอมสูงสิบเท่าฟาดฝ่ามือใส่บุรุษผอมสูงโดยตรง  เป็นความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเกินไปเกินกว่าเขาจะตรวจพบการโจมตีได้ทัน
 “หาที่ตาย!” หญิงสาวหน้ากากเงินปรากฏที่ด้านหลังเงาสองร่างที่เข้าโจมตีและกระแทกใส่ศีรษะอย่างอำมหิต ต่อหน้าสายตาทุกคน
ขณะที่ร่างทั้งสองร่วงลงมา บุรุษร่างผอมสูงร่างพุ่งลงมากระแทกพื้นเหมือนดาวตก
มือทั้งของเขายันกับพื้น
มีโลหิตฉีดพุ่งออกจากปากและจมูกของเขา
คนที่สายตาดีมองเห็ฯว่าหัวใจและปอดของเขาถูกสตรีหน้ากากเงินทำลายแตกเป็นชิ้น และพลังทำลายนั้นแฝงไปด้วยปณิธานราชันย์  เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นฟูสภาพกลับคืน
คนผอมสูงพยายามประคองร่างลุกขึ้นยืน แต่เหมือนกับมีภูเขากดทับร่างเขา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยืดเอวขึ้นได้
หน้าของเขาค่อยๆ เปลี่ยนไป และมนุษย์ร่างท่อนไม้ก็กลับคืนลักษณะดั้งเดิม มีเสียงอุทานตามมาอีกครั้ง
 “เป็นกิ้งก่าปีศาจ!
 “กลับกลายเป็นว่าคนผู้นี้ชำนาญในการอำพรางตัว มีพลังปราณฟ้าระดับห้า แต่พรางตัวว่ามีพลังปราณฟ้าระดับสี่ นับเป็นตัวเจ้าเล่ห์  มิน่าเล่ากุ่ยหลางถึงขยับตัวไม่ได้.. อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเจ้าเล่ห์เพียงไหนก็ไร้ประโยชน์เมื่อพบกับดาวข่ม  กิ้งก่าปีศาจกำลังจะตาย  ราชินีเว่ยฟงแห่งเมืองลู่หลิวชนะอีกรอบ ดูเหมือนว่าภูมิภาคสวรรค์จะเปลี่ยนไปจริงๆ ฮ่าฮ่า!
 “ข้าไม่รู้ว่าสองคนที่กำลังจะตายนี้เป็นใคร?”
 “ควรจะบอกว่าเป็นนักสู้ระดับราชาเหมือนเขา  ช่างเถอะ  คนที่ตายไปแล้ว ต่อให้เป็นราชาก็ไร้ความหมาย!
 “ข้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้!  กิ้งก่าปีศาจร่างผอมสูงพยายามเร่งเร้าพลังของตน  เขาต้องการยืดเอว  แต่รู้สึกว่าร่างหนักยิ่งกว่าแบกภูเขา เพราะเท้าของสตรีหน้ากากเงินเหยียบอยู่บนหลังของเขา
นางเหยียบอยู่บนกระดูกสันหลังเสียงดังกร๊อบ  แต่ก็ยังไร้ประโยชน์
สตรีหน้ากากเงินเพิ่มแรงเหยียบอีก  “น่าเบื่อ!  ตายแล้วยังจะดิ้นรนทำไม!  ทั้งกระดูกสันหลังและกระดูกซี่โครงของกิ้งก่าปีศาจหักจนใกล้ตาย
กิ้งก่าปีศาจร้องโหยหวนด้วยกำลังอึดสุดท้าย  “ข้าอยากรู้ ข้าตายด้วยน้ำมือใคร..”
สตรีหน้ากากเงินแค่นเสียงเย็ฯชา และสตรีอีกคนหนึ่งดูเหมือนจะอ่อนเยาว์กว่ากล่าว  “ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าคู่ควรรู้จักชื่อข้าหรือไม่!
กิ้งก่าปีศาจได้ยินแล้วก็กระอักโลหิตตาย
เขาตายตาไม่หลับ

8 ความคิดเห็น:

Popcorn กล่าวว่า...

ใครน๊าาาาาาอยากรู้ๆๆๆๆ....บอกผมทีครัช

แอบอ่าน กล่าวว่า...

เย่ปิง?

Kittisak Mahamart กล่าวว่า...

พวกเผ่าครึ่งสัคว์เปล่า คิวบัว เซนทอไรเงี้ย เห็นว่าคนนึงมึสี่ขา

Outlaw12 กล่าวว่า...

จือจุน

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Unknown กล่าวว่า...

ใครหว่า

พาราเซตามอล กล่าวว่า...

อาหงกับอาหมันหรือปล่าว ดูจากพลัง

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น