ตอนที่ 1010
มีอะไรจะแสดงอีกไหม...
“ประลองกับข้าน่ะหรือ? เจ้าเลือกข้าจริงๆ นะ!”
เย่ว์หยางหลั่งเหงื่อเล็กน้อย
เขาไม่ต้องการทำตัวโดดเด่น เขานั่งอยู่ในเกี้ยวแดงพร้อมกับสาวผีผาหยก
แต่เมื่อราชินีบอกว่านางนั่งบัลลังก์แล้ว จำเป็นต้องใส่ใจกับภาพลักษณ์
นางจึงผลักไสเขาออกมา
เพราะนางต้องการให้หนุ่มคนรักออกมาจากเกี้ยว
และกลัวว่าเขาจะมือบอนอยู่ไม่สุข
เกี้ยวสั่นสะเทือนเพราะเรื่องอะไร
ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้?
ประลองแบบลับก็ยังไม่ดี และประลองต่อหน้าธารกำนัลยิ่งไม่ดี โดยเฉพาะอย่างวันแรกที่ขึ้นครองบัลลังก์ซึ่งมีผลต่อภาพพจน์!
ซานเย่าพร้อมจะประลองกับเย่ว์หยางหัวหน้าองครักษ์ ไม่มีใครโง่ แน่นอนเขาเข้าใจความในใจของซานเย่า เข้าใจความเยือกเย็นของเขา
เขาไม่กลัวตายทำเป็นลุกขึ้นยืนท้าทายหัวหน้าองครักษ์ที่ดูอ่อนแอที่สุด! ขวงลี่หน้าซีด เขารู้สึกอาย
เพราะถือซานเย่าเหมือนเป็นน้องชาย แต่ในทันทีนั้นเขากลับทำลายมิตรภาพได้ลงคอ
“ฮึ่ม!” ตอนนี้ขวงลี่ไม่ได้เกลียดราชินีเว่ยฟงแล้ว แต่มีความรู้สึกขอบคุณนางอยู่ในใจ ถ้าไม่มีนางปรากฏตัวออกมาคงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ซานเย่าผู้ไร้ยางอายแสดงธาตุแท้ออกมา
เขาแทบจะอดใจรอฉีกกระชากซานเย่ามิได้
แต่ที่สำคัญขวงลี่เป็นนักสู้ระดับราชา
เขายังควบคุมตนเองได้
ขวงลี่กำหมัดแน่น เขาโกรธแค้นหรี่ตามองซานเย่า จากนั้นก้าวเท้าออกมาคุกเข่าข้างหนึ่ง “ขวงลี่ก้าวร้าวพูดเสียมารยาทไปก่อนนั้น
โปรดอภัยในความผิดที่ข้าก่อขึ้นก่อนนั้น
ราชินีเว่ยฟงขึ้นครองบัลลังก์ด้วยความสง่างามทุกอย่าง
ขวงลี่ยินดีรับการลงอาญาและขอใช้เลือดร่วมแสดงความยินดี ก่อนที่ราชินีเว่ยฟงจะขึ้นครองบัลลังก์นักสู้ในภูมิภาคสวนสวรรค์
ขวงลี่ไม่ประมาณตนเองบังอาจท้าสู้บริวารยอดฝีระดับสูงของราชินีเว่ยฟง... ถ้าข้าขวงลี่โชคดีรอดชีวิต
ข้ายินสนับสนุนราชินีเว่ยฟงและจักรพรรดินีเทียนฟาให้พิชิตภูมิภาคสวนสวรรค์”
เหล่านักสู้ปราณฟ้าผู้มาดูพิธีพอได้ยินเท่านั้น
เกิดความโกลาหลในหมู่พวกเขา
อย่ามองว่าขวงลี่เป็นคนเถื่อนที่เหมือนมีแต่กล้ามเนื้อแต่ไร้สมอง แต่ความจริงคนผู้นี้ฉลาดมาก ทั้งยังฉลาดกว่าซานเย่าผู้เจ้าเล่ห์
ขวงลี่คุกเข่าขมาโทษต่อหน้าราชินีเว่ยฟงและแสดงท่าทีสนับสนุนนาง
ราชินีเว่ยฟงย่อมไม่ให้คนของนางฆ่าเขาแน่นอน
ทั้งจะปล่อยให้ขวงลี่มีชีวิตต่อไป
ผลก็คือ
ขวงลี่ผู้นี้ปลอดภัยที่สุด
ขณะเดียวกันก็เป็นการขัดขวางไม่ให้ซานเย่าได้ยอมแพ้ ที่สำคัญวิธีเดียวกันนี้ย่อมใช้ไม่ได้ผลเป็นครั้งที่สอง
ซานเย่าหน้าซีดในทันที จากนั้นเขามองตาขวงลี่ เป็นแววตาที่แค้นยิ่งกว่าบิดาถูกฆ่า
และฉุดคร่าภรรยาเขาออกไป
เขาเกลียดจนอยากจะกลืนกินขวงลี่และออกไปต่อสู้กับเจ้าเด็กหน้าขาวเป็นการระบายอารมณ์
“แม่มันเถอะ พอเจ้าขวงลี่บอกว่ายอมแพ้ เจ้าบอกว่าจะดูอีกครั้ง ข้าไม่ใช่คนในคนนอกรู้จักกันแท้ๆ แต่เจ้ากลับคุกเข่าข้างหนึ่งอย่างน่าสงสาร นั่นหมายความว่าอะไร? หมายความว่าข้าเป็นกบฏ เจ้าคิดจะเป็นคนดี? แม่มันเถอะ
อย่านึกว่าอาศัยราชินีเว่ยฟงแล้ว เจ้าจะสามารถเอาชีวิตรอดได้
คิดจะกลับไปสร้างความสำเร็จได้”
อาณาจักรของเจ้าอยู่ห่างจากบึงหยุดลม
เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าราชินีเว่ยฟงจะคุ้มหัวเจ้าได้?
ซานเย่าลอบตัดสินใจว่าทันทีที่เขากลับไปเขาจะบุกโจมตีอาณาจักรของขวงลี่
ไม่ยอมแพ้ใช่ไหม?
นั่นทำให้เขากลายเป็นแม่ทัพในการประลอง
สองสหายผู้เคยผนึกกำลังกันร่วมรุกและถอยด้วยกันแตกคอกันทันทีกลายเป็นคู่อริที่จ้องจะห้ำหั่นกันและกันทันที..ทุกคนให้ความสนใจกับทั้งสองคน
ม่อเยี่ยนอยู่ในเวทีแล้ว
แต่ทุกคนแทบลืมเลือนเขา
ถ้าเปลี่ยนเป็นเวลาปกติม่อเยี่ยนคงจะบุกโจมตีอย่างหนักแน่นอน และตอนนี้เป็นเรื่องน่าขายหน้าที่ผู้คนเพิกเฉยเขา
ตอนนี้ม่อเยี่ยนต้องการให้ทุกคนเลิกสนใจพวกเขา ดีที่สุดลืมเขาไปเลย ทุกคนให้ความสนใจซานเย่าและขวงลี่
“บึ้ม บึ้ม ปัง!”
ม่อเยี่ยนเผชิญหน้ากับภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราชและยังไม่กล้าโจมตี
อย่าว่าแต่เขาไม่สามารถเอาชนะได้ แม้ว่าเขาจะเอาชนะได้ เขาไม่กล้าทำร้ายสาวใช้ของราชินีเว่ยฟง..
ม่อเยี่ยนมีเปลวเพลิงดำคลุมไปทั้งร่าง
ภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราชบุกฝ่าแนวป้องกันของเขา
จากนั้นกลับหลังหมุนตัวเตะเข้าปลายคางของม่อเยี่ยน
อุกกาบาตดำพุ่งขึ้นไปถึงสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
ภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราชหายวับไล่ตามไปในทันที
และร่างของนางไปปรากฏรออยู่ก่อนที่ความสูงพันเมตร
นางระดมหมัดเหมือนกับค้อนคู่
พลังหมัดอัดกระแทกที่ด้านหลังของม่อเยี่ยน
ทันใดนั้นดาวตกสีดำร่วงลงมาด้วยความเร็วกว่าเดิมพร้อมกับเสียงระเบิดแหวกกำแพงเสียงร่วงลงที่กลางเวทีศิลาขนาดใหญ่จมเข้าไปในพื้นหิน
ม่อเยี่ยนรู้สึกเหมือนว่าร่างของเขาถูกแมมม็อธยักษ์หมื่นตัวเหยียบ
กระดูกของเขาหักอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง
อวัยวะภายในเสียหาย
แต่ไม่ถึงทะลักออกมานอกตัว
โชคดีที่ยังรอดตาย...
จุดนี้...สำคัญเหนืออื่นใด
สำหรับความอับอายที่ได้รับทันที เพราะพลังของเขาไม่มากพอ
ถึงเสียหน้าแต่เขาไม่ใส่ใจอะไรมากนัก
เสียหน้ายังสามารถฟื้นฟูในภายหลัง
มีพลังระดับราชา ต่อให้พ่ายแพ้ก็ยังเป็นนักสู้ระดับราชาต่อไป ไม่มีกฎว่าราชาห้ามพ่ายแพ้ ตราบใดที่เขายังรอดชีวิตอยู่ได้
ตราบใดที่เขาไม่เป็นศัตรูกับศัตรูที่ไร้เทียมทาน
อย่างนั้นเกียรติยศทั้งหมดก็ยังเรียกคืนกลับมาได้
“ราชาม่อเยี่ยน
ข้าหวังว่าครั้งต่อไปเจ้าอย่าได้บุ่มบ่ามก้าวร้าว
มีบางเรื่องที่เจ้าไม่ต้องสนใจ และไม่ต้องกังวลเลย” จากในเกี้ยวแดงเสียงไพเราะของราชันย์ปีศาจใต้ดังขึ้นอีกครั้ง
นางตำหนิม่อเยี่ยนอย่างสุภาพ
“ขอบคุณราชินีเว่ยฟงที่สั่งสอน ม่อเยี่ยนละอายใจนัก
และขออภัยราชินีไว้ที่นี่
ขอบคุณราชินีที่ไว้ชีวิต”
ม่อเยี่ยนไม่โง่ เขารู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ได้
ส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่เพราะพลังของเขาเอง แต่เป็นเพราะสาวน้อยฝ่ายตรงข้ามยั้งมือไว้
ท่าสุดท้ายของอีกฝ่ายสามารถใช้ดาบตัดศีรษะของเขาได้ แต่เด็กสาวไม่ทำแค่ต่อยใส่หลังเขาอย่างรุนแรง ถ้าไม่ใช่เพราะราชินีเว่ยฟงกระตุ้นบอกล่วงหน้า ผลลัพธ์อาจเป็นอื่นอย่างแน่นอน
นอกจากนี้
ถ้าเขายังไม่รู้ดีรู้ชั่ว
อย่างนั้นม่อเยี่ยนนับเป็นตัวโง่งมแน่นอน
สหายของเขาบินขึ้นมาบนเวทีก่อนอื่นคำนับที่เกี้ยวสีแดงจากนั้นคำนับภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราช พวกเขาเห็นว่าม่อเยี่ยนรอดตายก็ดีใจ
รีบขึ้นมาช่วยประคองม่อเยี่ยนลงไป ส่งต่อให้ซานเย่าขึ้นเวทีเป็นต่อไป ถ้าม่อเยี่ยนตาย พวกเขาจะต้องสูญเสียผู้สนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดไปอย่างมิต้องสงสัย ตอนนี้ม่อเยี่ยนบาดเจ็บ
แต่การต้านรับสามกระบวนท่าเขาพ่ายแพ้หญิงรับใช้ของราชินีเว่ยฟง
เขารู้ว่าฮิปโปขวงเลี่ยวก็เป็นระดับราชาเช่นกันแต่ก็ยังตายด้วยฝีมือของหญิงรับใช้นี้ เจ้าผู้นั้นถูกฆ่าตายทันที
“นี่....”
ซานเย่ารู้สึกว่ามีความกดดันราวกับภูเขากดทับ ม่อเยี่ยนนี้ไม่ตาย
แต่ก็พิสูจน์ว่าราชินีเว่ยฟงยังไม่ถึงกับหายโกรธ แต่ศักดิ์ศรีนางยังไม่เพียงพอ
สิ่งที่น่าลำบากใจที่สุดก็คือเจ้าขวงลี่ไร้ยางอายกลับคุกเข่าขอความเมตตา
ขวงลี่ไม่สมควรตายแม้จะเจ็บปวดใจยิ่งกว่าม่อเยี่ยน
แต่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับชีวิต
เขาไม่ตาย ม่อเยี่ยนไม่ตาย
อย่างนั้นราชินีเว่ยฟง
อย่างนั้นราชินีเว่ยฟงก็ต้องฆ่าเพื่อพิทักษ์ศักดิ์ศรีในที่สุดหรือ? ถ้ามีการกล่าวพลังของเจ้าเด็กหน้าขาวหัวหน้าองครักษ์นั้น ไม่น่าจะทำอะไรเขาได้ แต่เขาไม่สามารถจับกลอุบายที่อยู่เบื้องหลังราชินีเว่ยฟงได้
หากนางชื่นชอบเจ้าเด็กหน้าขาวนี่และลอบทำร้ายเขาในพริบตา
เขาคาดว่าผู้ชมดูคงไม่เข้าใจ อย่างนั้นเขามิต้องตายอย่างว่างเปล่าหรอกหรือ?
จะไม่สู้ก็ไม่ได้
เขาเพิ่งพูดออกไปแล้ว
ตอนนี้เขาควรจะทำยังไง?
“เจ้าขี้ขลาด!” ขวงลี่แค่นเสียงเยาะเย้ย ทันใดนั้นเขาคว้าตัวซานเย่าพุ่งขึ้นเวทีราวกับประกายไฟ
แล้วคำนับอาหงที่อยู่ข้างเย่ว์หยางและพูดอย่างให้เกียรติ “แม้ว่าข้าไม่รู้ชื่อและตระกูลของท่านผู้สูงส่ง
ขวงลี่อยู่ที่นี่ไม่รู้จะขอคำชี้แนะอย่างไร โปรดชี้แนะ”
ถ้าเขาไม่เห็นคนของขวงลี่ บางทีเขาอาจเข้าใจผิดคิดว่าเขาคือบัณฑิตผู้ทรงภูมิใฝ่รู้
แน่นอนว่าขวงลี่ขอโทษเพื่อเอาชีวิตรอด
เขาใส่ใจเรื่องคนที่ไม่โดดเด่นอีกหรือ?
นอกจากนี้ผู้ที่เขาท้าทายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งสามารถฆ่ากิ้งก่าปีศาจได้ทันที พลังของนักสู้ผู้นี้ยังแข็งแกร่งมากกว่าสาวน้อยที่เพิ่งต่อสู้ เขาไม่กลัว เขาจึงท้าสู้นาง
อาหงเงื้อมือ
ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยขนนกเพลิงร่วงลงมา
ไม่เพียงแต่ขวงลี่ที่ตกใจเท่านั้น แต่นักรบที่ชมดูทั้งหมดตกใจกลัวแทบตาย สาวใช้ผู้นี้แข็งแกร่งมากมายอย่างแน่นอน
นางสำเร็จพลังสำนึกเทพ หากไม่สามารถบรรลุพลังปราณฟ้าระดับห้าขึ้นไป
ไม่มีทางที่จะเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งได้
ไม่ว่าจะมีราชากี่คนก็ตามเมื่อท้าทายนักสู้ที่มีพลังสำนึกเทพ
(เทียบกับปณิธานราชันย์ของหอทงเทียน) ก็เท่ากับหาที่ตาย
ช่องว่างระหว่างนี้แตกต่างราวกับนักสู้ปราณฟ้าเทียบกับนักสู้ปราณดิน
ไม่สามารถจะก้าวข้ามช่องว่างนี้ได้เลย
ขวงลี่ทรุดตัวทันที
เขาไม่กล้าต่อต้าน
เพราะต่อต้านไปก็ไร้ความหมาย
อาหงเงื้อมือขวาขึ้นช้าๆ ราวกับเจ้าหญิงเดินชมอุทยาน
นางรวบรวมขนนกเพลิงในท้องฟ้า
ในพริบตาเดียวขนนกเพลิงหลอมรวมกันกลายเป็นแส้เพลิงเส้นหนึ่ง
เผียะ
แส้เพลิงหวดใส่ขวงลี่ขณะที่เขากัดฟันอดทน
แส้ที่สองและสามเสียงดังหวีดหวิวพร้อมกับพลังทำลายล้าง
ดวงตาของขวงลี่สิ้นหวัง
เขาหลับตารอความตาย
ในพลังโจมตีทั้งสองแส้
เขารู้สึกว่าไม่เพียงแต่ร่างกายของเขาเท่านั้นที่เจ็บปวด
แต่ความเจ็บปวดกินลึกถึงวิญญาณเกินจะเอ่ยคำบรรยาย! เขาอดส่งเสียงคร่ำครวญไม่ได้
ผิวเนื้อของเขากระตุกไม่หยุด เขาดิ้นรนด้วยหวังว่าจะบรรเทาความเจ็บปวด
รอยเลือดรอยแส้มีเปลวไฟลุกไหม้ต่อเนื่องค่อยๆ เผาทั้งเนื้อและวิญญาณของเขา
คนนอกไม่รู้
มีแต่เพียงมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรที่รู้จักนักรบหอทงเทียนนี้
นี่คือแส้อาญาของอาหง
นอกจากเย่ว์หยาง
มีแต่นางที่รู้วิธีโบยตีจนถึงระดับวิญญาณ
สหายของขวงลี่อยู่ในสภาพลำบากใจ พวกเขาต้องการช่วยขวงลี่กลับมา แต่ด้วยพลังของแส้ พวกเขาช่วยอะไรไม่ได้
ด้วยพลังของแส้นี้ถ้าขวงลี่ถูกแผดเผาก็ต้องตายแน่นอน นอกจากนี้ถ้าราชินีเว่ยฟงยังไม่ให้อภัย พวกเขาไม่กล้าเข้าไปช่วยคน
เมื่อวิญญาณและร่างกายของขวงลี่ถูกแผดเผาจนถึงขีดจำกัด
จนอยู่ในสภาพใกล้ตาย
อาหงหวดฟาดเวที
แส้อาญาที่ส่งผลต่อวิญญาณหายไปทันที
เปลวไฟที่เผาร่างและวิญญาณอย่างเจ็บปวดหายไปทันที
และขวงลี่ที่เจ็บปวดแทบตายได้ชีวิตกลับคืนทันที
สหายของขวงลี่ที่ใจร้อนสองสามคนขึ้นเวทีทันทีไม่มีเวลาจะทำความเคารพเกี้ยวแดงที่ราชินีเว่ยฟงอยู่
อาหงแค่นเสียงและชี้นิ้วอีกครั้ง
ปรากฏว่าพวกบุรุษที่ใจร้อนถูกแสงสีขาวฉายใส่และกลายสภาพเป็นแกะ
คนรอบตัวขวงลี่ร้องสะดุ้งตกใจ
ทันใดนั้นคนที่ชมดูทั้งหมดพากันหัวเราะขำขัน
หลังจากหัวเราะแล้ว
นักสู้ปราณฟ้าหลายคนที่ไม่เคารพราชินีเว่ยฟงต่างทำความเคารพ
เพราะเกรงว่าสาวใช้ผู้เชี่ยวชาญพลังสำนึกเทพจะโกรธและเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นแกะ
“ราชาขวงลี่! ข้าหวังว่าเจ้าจะจำไว้ว่า
ไม่ว่าเจ้าเป็นใคร
จงอย่าหยิ่งผยองโกรธแค้นคนที่ตั้งใจเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์
ข้าเชื่อว่านับจากวันนี้ไปเจ้าจะเข้าใจความหมาย มุมมองทัศนคติของเจ้าเปลี่ยนแปลงได้เร็วอย่างไม่ธรรมดา แต่ข้าไม่เห็นความจริงใจที่สุดของเจ้า
ดังนั้นจึงไม่ใช่ราชาที่เราพี่น้องสามารถไว้ใจได้ โปรดทำความเข้าใจให้ดีในอนาคต” ราชันย์ปีศาจใต้วิจารณ์ขวงลี่อย่างไม่เกรงใจ
แม้ว่านางจะวิจารณ์ไม่หยุด แต่ทัศนคติของนางเด็ดขาด
แต่คนที่มองดูรู้สึกว่าขวงลี่โชคดีมากแล้วเขาปลอดภัย
ขวงลี่ก็เหมือนกับม่อเยี่ยน
ไม่ได้รับความเชื่อใจจากราชินีเว่ยฟง
แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวล... อย่าเชื่อถือในสิ่งที่กลัว
จากนั้นใช้ความจริงใจจัดการเรื่องต่างๆ เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากราชินีเว่ยฟง นี่คือโอกาสดีที่สุด และจะให้คนอื่นทำแทนไม่ได้!
“ขอบคุณราชินีเว่ยฟงที่ยอมอดกลั้นต่อข้าขวงลี่ เวลานี้ข้าขวงลี่ละอายใจจริงๆ
ต่อนี้ไปข้าขวงลี่ขออุทิศชีวิตความสามารถเพื่อตอบแทนคุณที่ไว้ชีวิตข้า” ขวงลี่ไม่สนใจอาการบาดเจ็บสาหัส เขาพยายามดิ้นรนหันไปขอบคุณทางเกี้ยวแดง
ในช่วงสุดท้ายถ้าการลงทัณฑ์ทอดเวลาออกไปสามวินาที เขาจะถึงขีดจำกัดความอดทน
และร่างอาจระเบิดตายก็ได้
“ขวงลี่ เจ้าผู้นี้ก็เสร็จไปด้วย”
“ข้าต้องยอมรับราชินีเว่ยฟง
เจ้าเมืองที่ครองเมืองที่ล่มสลายอย่างข้าไม่มีสิทธิ์แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะต้องต่อสู้ทุกวัน
“ถ้าข้าสามารถอยู่ในกลุ่มทหารภายใต้บัญชาการของราชินีเว่ยฟง ข้าไม่ขอเป็นเจ้าแคว้นแล้ว
มีคนรับใช้หลายคนไม่อาจเทียบกับการรับใช้เจ้านายดีๆ อย่างราชินีเว่ยฟง!”
“ฝันหวานไปเถอะ เจ้าเป็นแค่เจ้าแคว้นเล็กๆ
แต่ยังหวังถึงตำแหน่งนายกองทหารหรือ?
ผู้อื่นระดับราชายังถูกดูแคลน
ถ้าข้าผู้เป็นราชาสามารถเข้าร่วมในกองทหาร แม้จะเป็นแค่ทหารกองหนุนข้าก็รับได้ พวกเจ้าที่อยู่ใกล้ข้า ไม่มีพลังมากพออาจเอื้อม
อย่าหัวเราะเยาะข้า?
ตอนนี้มีคนมากกว่าหมื่นคน เจ้าคิดว่าจัดการไหวหรือ?
พวกเขาต้องการเป็นนายกองทหารเร็วๆ ทั้งนั้น!”
นักรบปราณฟ้าเหล่านี้อดโห่ร้องด้วยความอิจฉามิได้
สาวใช้ของราชินีเว่ยฟงแข็งแกร่งมากขนาดนี้
อย่างนั้นราชินีเว่ยฟงเล่า?
นอกจากจากยังมีจักรพรรดินีเทียนฟา
จักรพรรดิแดนดินของภูมิภาคสวนสวรรค์รุ่นใหม่ที่ตั้งใจปกครองภูมิภาคทั้งหมดยังมีพลังมากกว่า
จะเป็นยังไง?
เรื่องเหล่านี้ทุกคนไม่อยากจะคิด แต่สุดท้ายทุกคนก็เข้าใจ
เหตุผลที่ราชินีเว่ยฟงขึ้นครองบัลลังก์มีการจัดพิธีการอย่างยิ่งใหญ่ มีคนเผ่าภูตบูรพาและนักสู้ปราณฟ้ามาร่วมให้เกียรติ...
เหตุผลผลนั้นง่ายมาก สองสาวพี่น้องเป็นยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ แม้ว่าราชินีเว่ยฟงจะมีพลังเป็นรองเล็กน้อย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้ที่นักสู้ระดับราชาจะท้าทายสู้ได้!
แค่สาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างๆ
ก็เป็นยอดนักสู้ที่มีสำนึกเทพ
หากบางคนไม่คิดว่าราชินีเว่ยฟงและจักรพรรดินีเทียนฟาไม่ได้มาจากแดนสวรรค์บน อย่างนั้นคนผู้นั้นนับเป็นตัวโง่งมจริงๆ
แม้ว่าทุกคนจะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่น้องคู่นี้ถึงเข้ามายึดครองภูมิภาคสวนสวรรค์ แต่พวกนางต้องมีเหตุผลอยู่แน่ บางทีพวกนางอาจรำคาญตาและรู้สึกว่าภูมิภาคสวนสวรรค์วุ่นวายมานานเกินไป
ความวุ่นวายที่ไม่สามารถควบคุมได้นั้นส่งผลกระทบต่อการพัฒนาตามปกติของแดนสวรรค์ตะวันตกหรืออาจจะมีสิ่งที่เป็นผลกระทบต่อตระกูลเผ่าพันธุ์ของนาง
หรืออาจไม่มีเหตุผลก็ได้
แค่บังเอิญผ่านมาที่นี่แล้วเกิดความคิดขึ้นฉับพลันทันด่วนว่าการเข้าควบคุมที่นี่มิใช่เป็นไปไม่ได้...
เนื่องจากจักรพรรดินีเทียนฟาและราชินีเว่ยฟง
เข้าควบคุมดูแลที่นี่
ใครจะว่าอะไรได้?
ถ้าไม่สนับสนุน
ก็ไม่จำเป็นต้องรีบ
ใครจะโง่เง่าและยืนขึ้นขัดขวางอย่างดื้อดึง?
ขวงลี่และม่อเยี่ยนเป็นตัวอย่างผู้รนหาเรื่อง ถ้าวันนี้ไม่ใช่เพราะราชินีเว่ยฟง
ที่เพิ่งขึ้นครองบัลลังก์ยังมีอารมณ์ดี
คาดว่าสองคนนี้คงติดตามกิ้งก่าปีศาจและขวงเลี่ยวไปแล้ว
พูดถึงเรื่องนี้ทุกคนเพิ่งจำได้ว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นไม่เพียงแค่เกิดขึ้นกับขวงลี่และม่อเยี่ยนเท่านั้น
ยังซานเย่าผู้ฉลาดอีกคนหนึ่งไม่ใช่หรือ?
อย่างนั้นมาดูว่าเขาจะพบจุดจบอย่างไร!
หลายคนคิดในแง่ร้ายว่าคนผู้นี้จะต้องกลัวจนปัสสาวะราดกระมัง? ขวงลี่และม่อเยี่ยนยังไม่ตาย ตอนนี้การสู้กับศัตรูจึงตกอยู่กับซานเย่า เขาจะโชคดีเอาตัวรอดได้หรือไม่?
คาดว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะความเจ้าเล่ห์ของซานเย่าอาจทำให้ราชินีเว่ยฟงโกรธได้
คนอย่างนางเกลียดแมลงที่น่ารังเกียจที่อยู่ต่อหน้านาง
อย่างขวงลี่ผู้เปลี่ยนใจอย่างรวดเร็ว
เขายังถูกลงโทษเกือบตาย ขณะที่ม่อเยี่ยนที่ซื่อสัตย์กว่ายังถูกลงโทษไม่จริงจังนัก
ตอนนี้เป็นซานเย่าผู้เจ้าเล่ห์ที่สุด
ต้องการเล่นบทฉลาดต่อหน้าราชินีเว่ยฟงหรือ?
เขาตายเรียบร้อยแล้ว
“ในที่สุดก็ถึงตาข้าจนได้ แม้ว่าข้าจะคร้านอยู่บ้าง ข้าไม่ชอบสู้และฆ่า ข้าแค่ชอบสายลมและหิมะ แต่ในเมื่อเจ้าตัดสินใจเลือกข้าให้มาสู้ ในฐานะหัวหน้าองครักษ์ส่วนตัวของราชินีเว่ยฟง
และเป็นบุรุษระดับสูง ข้าจะไม่ถอยเหมือนกัน”
เย่ว์หยางออกมาพร้อมกับพวก เท่าที่เห็นมีอาหมัน
อาหงและภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราช
เขาสวมชุดเกราะงดงาม ดาบจันทร์เสี้ยวอยู่ที่เอว
ก่อนจะออกไปอาหงยกม่านบังและจูบเขาอย่างรวดเร็ว
คล้ายภรรยาผู้อ่อนโยนอวยพรให้สามีนำชัยชนะกลับมา
“....”
สายตาของนักสู้ปราณฟ้ามองดู พวกเขามีปฏิกิริยาทันที
เด็กหนุ่มคนนี้ดูเหมือนวัยรุ่นหน้าตาดี เขาไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
ถ้าเขาเป็นหัวหน้าองครักษ์จริงๆ
เป็นไปไม่ได้ที่จะพูดไร้สาระขณะที่ราชินีเว่ยฟงขึ้นครองบัลลังก์
เขาต้องเท่ากับหรืออาจจะมีศักดิ์ฐานะสูงกว่า
นอกจากนี้ดูวิธีที่สาวใช้สวมเกราะให้เขาอย่างคล่องแคล่วชำนาญ
และจูบอวยพรเขา
ถ้าเจ้าเด็กนี่เป็นเด็กหน้าขาวธรรมดา
สาวใช้ที่สามารถฆ่านักสู้ระดับราชาได้ยังตามดูแลเขา นั่นเป็นเรื่องแปลก
คนอื่นไม่ว่าอะไร
ซานเย่าต้องการท้าทายเจ้าเด็กนี่ เขาคงได้เตะใส่เกราะเหล็กแน่นอน
โอว
หรือว่าอีกฝ่ายมีอะไรดีๆ จะแสดงให้ดู
8 ความคิดเห็น:
ท้าทายอำนาจมืด....อนาจเเน่นอน!!!
โอมาเอวะ โม ชินเดรุ
สภาพไหนวะจะมีซากเปล่า
นะ นะ หน่า นี่ !
ขอบคุณครับ ไม่น่ารอดแล้ว ดูทรง
แค่แสดงความแลาดออกมากถึงตายแน่นอนแล้ว
เจ้าหนุ่มหน้าขาวเดินออกมาพร้อมตะโกนว่า "เจ้าสุนัขสันหลังยาวจอมขี้เกียจ หัดทำการทำงานเสียบ้าง " ว่าแล้ว ก็หันกายไปเตะเจ้าหมาป่าหลังเหล็กระดับสามตัวนึง ที่ทำท่าประจบเจ้านาย นอนน้ำลายยืดอยู่หน้าเกี้ยวออกไปต่อสู้แทน...
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น