ตอนที่ 1067 ปาฏิหาริย์เกิด?
ทารกหญิงอยู่กับเย่ว์หยางแน่นอน
เขาเฝ้าดูอย่างใจเย็น
ตอนนี้ เขารู้สึกว่าได้เวลาออกหน้า
เขาไม่ต้องการเป็นวีรบุรุษ แต่เขาไม่ชินกับการทำงานของสวะเหล่านี้
หากการรังแกเอารัดเอาเปรียบมีอยู่ทุกที่ในโลก ตราบใดที่พอดูมีชั้นเชิง สิ่งนี้ก็สามารถหลีกเลี่ยงได้ การรังแกและเอาเปรียบนี้ เย่ว์หยางไม่ต้องการเข้าไปแทรกแซงทันที แม้ว่าเขตพื้นที่นี้จะเป็นของเขา แต่เพราะเรื่องนั้น เนื่องจากคำพูดและการกระทำดังกล่าว กวนใจเขามาก ในมุมมองต่อแผนนี้เป็นจงหัวและจีอู๋ลี่ทำ อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางเห็นพวกทหารรักษาพื้นที่และแม่ทัพเหลยผาวแสดงออกอย่างกระหายเลือด พวกเขานี้ไม่สนใจชีวิตมนุษย์และฆ่าได้อย่างไม่คิดอะไร นี่ไม่ใช่แค่รังแกเท่านั้น แต่เป็นการกระทำของพวกโรคจิต!
ความตั้งใจเดิมของหุบเขามนุษย์ต้องการให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างในคลี่คลายปัญหาด้วยปัญญาเหมือนกับมนุษย์
ตอนนี้พวกเขากำลังใช้ประโยชน์จากช่องโหว่
ใช้ความรุนแรงกลั่นแกล้ง
ทั้งชีวิตเย่ว์หยางดูถูกคนแบบนี้เป็นที่สุด พวกเขาเชี่ยวชาญในการหาช่องโหว่ได้
ทุกคนใช้สติปัญญาแก้ไขความรุนแรง แต่เจ้าผู้นี้ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา สมองของเขาตายไปแล้วหรือ? ฆ่ากันแบบนี้ ลืมไปแล้วหรือว่าอยู่ในหุบเขามนุษย์!
“มีคนต้องการเป็นวีรบุรุษ ฮ่าฮ่า.. น่าสนุกดีวีรบุรุษอ้างตนเองว่าพิทักษ์ความเป็นธรรมปรากฏตัวเมื่อไหร่กันนี่?” แม่ทัพเหลยผาวชะงักตอนแรก แต่แล้วก็หัวเราะลั่น ด้านหลังของเขามีทหารฝีมือดีหลายร้อยหลายพัน ทุกคนมีอสูรหุ่นอยู่ในมือ และนายกองบางคนมีตำแหน่งสูงนั่งอยู่บนอสูรหุ่นขนาดใหญ่ แน่นอนแม่ทัพเหลยผาวก็เหมือนกัน ภายใต้ที่นั่งของเขาคืออสูรหุ่นที่มีความยาวจากหัวถึงหางยี่สิบเมตร
มีอสูรหุ่นรายรอบ เทียบกับได้กับหุ่นสิงโต
เหมือนกับสิงโตที่ยืนอยู่ในกลุ่มหนูอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่ว่าจะเป็นร่าง คุณภาพวัสดุและความแข็งแกร่งแตกต่างกันมาก
แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจตอนนี้ ว่าเย่ว์หยางใช้วิธีลับใดช่วยทารกหญิงนี้ แต่คำถามนี้หายไปจากหัวเหลยผาวทันที
เขามักไม่ชอบเป็นคนที่ใช้สมอง นิสัยนี้ติดตัวมาตั้งแต่อยู่แดนสวรรค์ก่อนเข้ามาในหุบเขามนุษย์ แม้จะเข้ามาในหุบเขาแล้ว เขาก็ยังชอบใช้กำลังแก้ปัญหามากกว่าจะใช้สิ่งที่เรียกว่าปัญญา เมื่อพูดถึงปัญญาแล้วไม่ได้หมายความว่าเหลยผาวโง่ ตรงกันข้ามเขามีสติปัญญาเข้าใจได้แน่นอน
การใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาเป็นนิสัยปกติของเหลยผาว หลักการของเขาคือใช้อารมณ์และทิฏฐิที่ดื้อรั้นแก้ปัญหา
ในหุบเขามนุษย์ เหลยผาวตัดสินใจว่าเขาสามารถประสบความสำเร็จในอาชีพได้โดยไม่ต้องใช้สมอง
เขาทำแบบเดียวกันนี้มาโดยตลอด
“ทหารรับจ้างที่น่าตาย ข้านึกว่าใครเสียอีกที่บังอาจเข้ามาขวางธุระของข้าเหลยผาว นึกไม่ถึงเลยว่ายังเป็นเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม” เหลยผาวมองลงมาที่เย่ว์หยางและพบว่าเป็นบุรุษธรรมดา เขาถ่มน้ำลายลงพื้นด้วยความรังเกียจ และไม่ให้ความสนใจกับมดแมลงน้อยอย่างเย่ว์หยางต่อไป
“หัวหน้า, ไม่ หัวหน้า... ข้าขอโทษ เป็นความผิดของข้า!”
ทหารรับจ้างหนุ่มที่ถูกทหารรับจ้างหลายคนฉุดรั้งไว้เห็นหัวหน้าทหารรับจ้างถูกแทงลงกับพื้นต่อหน้าต่อตา เขากลัวแทบตายขณะร้องไห้ หลังจากบิดาและพี่ชายของเขาตายไป หัวหน้ากลุ่มที่แข็งแกร่งอีกคนกำลังจะตาย
แม้ว่าเขาเพิ่งจะโกรธจนแทบตัดความสัมพันธ์
แต่ในใจของทหารรับจ้างหนุ่มมักนับถืออีกฝ่ายว่าเป็นเหมือนพี่ชาย
บัดนี้เขาเห็นร่างโชกเลือดของหัวหน้าที่ถูกหลาวยิงที่หน้าอก ท้องทะลุหลังตรึงร่างกับพื้น ทหารรับจ้างหนุ่มจะไม่โศกเศร้าได้อย่างไร
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหุนหันพลันแล่น จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร?
เขาคิดว่าตนเองทำให้หัวหน้าตาย
ทหารรับจ้างหนุ่มทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรง เหยียดแขนขึ้นฟ้าราวกับหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ทำให้หัวหน้ากลับมามีชีวิต.. มีทหารรับจ้างหลายคนที่เศร้าโศกและไม่พอใจทหารรับจ้างหนุ่ม พวกเขารู้สึกถึงความเศร้าโศกและความเกลียดชังในใจอย่างเดียวกัน แต่พวกเขาจะแก้ปัญหาได้อย่างไร? ศัตรูมีพลังและอำนาจอยู่ในมือ ศัตรูเหมือนกับถ้ำปากพยัคฆ์ที่ลึกไม่เห็นก้น ไม่ว่าพวกเขาจะมีกี่ชีวิตก็ไม่เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นทหารรับจ้างมีจำนวนแค่สิบกว่าคนเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามแม่ทัพเหลยผาวที่คุมกลุ่มทหารมือดีเป็นร้อย พวกเขาจะสู้ได้อย่างไร?
ความคิดเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือ จากไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ยิ่งอยู่ตรงนี้นานขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น!
“หัวหน้า, หน้าหน้า...” ทหารรับจ้างหนุ่มถูกสหายลากตัวออกมา เขาคร่ำครวญร้องไห้ด้วยความเสียใจ มือของเขาพยายามยืดพื้นรั้งตัวให้อยู่ แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เขาไม่เต็มใจจะทิ้งหัวหน้าที่เขารักและเคารพไว้ที่นี่และศพเขาจะตกเป็นอาหารของสัตว์ร้าย
“มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่ไม่เลว แต่ยังไม่พอ” เหลยผาวโบกมือ “พวกเจ้าต้องแสดงฉากภาพชีวิตให้ข้าดูตื่นเต้นมากยิ่งกว่านี้!”
“ครืน ครืน ครืนน!”
ฝูงอสูรหุ่นที่กำลังจะโจมตีเย่ว์หยาง หุ่นที่ล้อมหัวหน้าทหารรับจ้าง แม้แต่อสูรหุ่นที่กัดทำร้ายทาสบุรุษที่เป็นสามีเกือบตาย หันหน้าไปพร้อมกันและไล่ตามทหารรับจ้างที่กำลังจะหนี ด้านซ้ายขวาของแม่ทัพเหลยผาวหุ่นสัตว์รบและหุ่นนักรบมากมายล้อมกักตัวทาสประจำเหมืองที่อ่อนแอ
เย่ว์หยาง?
มองเหมือนกับทหารรับจ้างพกดาบที่อ่อนแอ อย่าว่าแต่แม่ทัพเหลยผาวเลย แม้แต่องครักษ์หรือทหารรักษาการณ์ก็ยังไม่มองเขาอีกต่อไป
ทหารรับจ้างที่ไม่มีหุ่นอสูร จะเรียกได้ว่ามีพลังรบหรือ?
ไม่มีใครสนใจ
เมื่อเพิกเฉยเช่นนี้ก็เหมือนกับใช้กฎหมายบ้านเมืองบังคับ อย่างเช่นเทศกิจเห็นพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ไม่ได้ถืออาวุธในมือก็ไม่ต้องการใช้กำลังรุนแรงตามอำเภอใจไม่ใช่หรือ? แน่นอนว่าถ้าพบพ่อค้าแม่ค้าผู้เชี่ยวชาญในการใช้ค้อน ใช้ไม้พลองก็คงเป็นเรื่องปวดเศียรเวียนเกล้า อย่างไรก็ตามความน่าจะเป็นนี้น้อยมาก มีไม่ถึงหนึ่งในร้อยล้าน หนึ่งในสิบล้าน เป็นไปไม่ได้ที่จะพบเห็นโดยทั่วไป เจ้าหน้าที่มากมายไม่คิดหรอกว่าชาวโลกจะมีดาบอาญาสิทธิ์ที่หยุดยั้งทุกสิ่งได้
คู่สามีภรรยาเลือดท่วมตัวไม่มีกำลังจะเอื้อมมือไปลูบตัวลูกสาวอีกต่อไป
พวกทาสประจำเหมืองที่กล้าขยับตัวจะมีอสูรหุ่นของทหารประจำการณ์ใช้หลาว หรือแส้แขนกลคอยขู่คุกคามให้พวกเขาตกใจ
“เราไม่อาจต่อต้านได้ มิฉะนั้นเราจะถูกตัดสินว่าละเมิดเบื้องสูง” มีทหารรับจ้างชราผู้มีประสบการณ์เห็นอสูรหุ่นเคลื่อนไหว จึงห้ามสหายไม่ให้ต่อต้านพวกเขา เขาต้องการให้สหายของเขาทำอย่างเดียวกับพวกทาสประจำเหมือง จัดกลุ่มต้านทานการโจมตีของศัตรูด้วยกัน ด้วยวิธีนี้พวกทหารยังป้องกันไม่ให้ใครหนีไปได้
“ขณะที่พวกเจ้าก้าวเข้ามาในพื้นที่เหมืองตั้งแต่ก้าวแรก พวกเจ้ากลายเป็นคนบาปไปแล้ว!” ท่ามกลางเสียงหัวเราะสบายๆ ของแม่ทัพเหลยผาว อสูรหุ่นนับไม่ถ้วนวิ่งเข้าหาทหารรับจ้างกลุ่มเล็กอย่างรวดเร็ว และพยายามแยกโจมตีพวกเขาทีละคน
ภายในไม่กี่วินาทีทหารรับจ้างยังไม่ถึงกับแพ้
รอจนกระทั่งพวกเขาต้องการต่อต้านอีกครั้ง
ก็สายเกินไปเสียแล้ว
และหุ่นสัตว์รบรอบๆ ตัวเขาไม่อาจเทียบได้กับอสูรหุ่นที่เหลยผาวบัญชาการ
หุ่นสัตว์รบเหล่านั้นบีบวงล้อมแคบและยิ่งเพิ่มอสูรหุ่นขนาดยักษ์ร่วมด้วย ทำให้พวกทหารรับจ้างส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดร่างกายบาดเจ็บเพราะอสูรหุ่น
ถ้าไม่ใช่เพราะเหลยผาวต้องการจะทรมานพวกนี้ ทหารรับจ้างที่อ่อนแอคงถูกอสูรหุ่นจับร่างฉีกไปแล้ว
“หยุดนะ!”
เสียงดังมาจากด้านหลังเย่ว์หยาง
ปรากฏว่าหัวหน้าทหารรับจ้างที่ถูกหลาวแทงหน้าอกทะลุหลังดูเหมือนร่างจะมีแสงสีทองเปล่งออกจากตัวเหมือนแสงเทพ สีหน้าที่บิดเบี้ยวเจ็บปวดไม่ใช่แสดงออกว่ากำลังจะตาย แต่เป็นการต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดอย่างน่าทึ่ง
เขาสะบัดมือและตัดหลาวที่ด้านหลังของเขา
และเหยียดมือออกมาข้างหน้าท่ามกลางสายตาของทุกคน
เขาดึงหลาวที่ย้อมด้วยเลือดออกจากอก เลือดฉีดพุ่งเหมือนน้ำพุ แต่เขาเหมือนไม่รู้ตัว
“ฮะฮะฮะ ข้าต้องยั้งมือไว้เสียแล้ว ไม่มีเหตุผลใดที่จะตายเร็วมากมายขนาดนั้น ดูสิ..เป็นฉากภาพที่งดงามเหลือเกิน ใช้พลังลับเผาผลาญพลังชีวิตเพื่อช่วยเหลือพี่น้องตนเองอย่างไม่ลังเล... ในฐานะหัวหน้ากลุ่มจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบอย่างนี้ ข้าไม่รู้ว่าหัวหน้าทหารรับจ้างจะส่งต่อความรับผิดชอบนี้จากรุ่นสู่รุ่นหรือเปล่า ตัวอย่างเช่น อสูรหุ่นขนาดใหญ่ หรืออสูรหุ่นดีๆ” แม่ทัพเหลยผาวลูบคางที่เต็มไปด้วยตอหนวดเคราของเขาด้วยมือหยาบใหญ่
“ฮึ่ม!” หัวหน้าทหารรับจ้างยื่นมือที่เปื้อนเลือดคลำที่คอ และเขาเปล่งรัศมีสีทองและตวาดลั่น “ข้าแต่บรรพบุรุษ ลูกหลานของท่านมาถึงช่วงวิกฤตเป็นตายของชีวิตแล้ว เพื่อให้ชีวิตอยู่รอด โปรดอภัยลูกหลานที่ไร้ความผิดด้วยเถิด ข้าขออัญเชิญเกราะรบวานรทอง”
ครืนน ครืนนน ครืนน...เมื่อผู้นำทหารรับจ้างทำลายผลึกที่เขาแขวนรักษาไว้ที่คอมาหลายวัน
อสูรหุ่นร่างลิงยักษ์สูงสิบเมตรปรากฏต่อหน้าทุกคน
มันเปล่งแสงสีทองเจิดจ้าจนยากจะมองได้ตรงๆ และหัวหน้าทหารรับจ้างผู้นี้ที่กำลังจะตายดูเหมือนจะมีพลังชีวิตขึ้นมาเป็นร้อยเท่าทันที เขากระโดดเข้าไปในช่องอกอสูรหุ่นวานรที่เปิดออกเพื่อเข้าควบคุมอสูรหุ่น
ผสานร่างมนุษย์กับเครื่องจักร!
แขนยักษ์ของหุ่นรบวานรชูขึ้นสูง เสียงคำรามดังออกมาจากปากของหุ่นรบวานรดังสะท้านใจผู้คน
และโจมตีใส่หุ่นรบที่โจมตีใส่ทหารรับจ้าง
หัวหน้าทหารรับจ้างกวาดแขนหุ่นวานรยักษ์ใส่อสูรหุ่นรบ
ประสิทธิภาพรบของมันสูงมากกว่า
ด้วยการกวาดแขนทั้งสองฟาดเป็นรูปกากบาท ทำให้หุ่นรบตัวใหญ่พังกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย... ส่วนอสูรหุ่นตัวเล็กตัวน้อยต่างเล็ดลอดกลับไปหาเจ้านายของมัน แต่หนีไปได้ครึ่งทางก็ถูกหุ่นรบวานรไล่ตามและทำลายทีละตัวๆ จนลดจำนวนลง
“โอว..ยอดเยี่ยม!”
ทาสประจำเหมืองเห็นภาพเช่นนี้แล้ว อดปรบมือตื่นเต้นดีใจไม่ได้
พวกทหารรับจ้างที่นอนจมกองเลือดมองดูหุ่นลิงยักษ์อย่างเหลือเชื่อ ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติแล้ว ทำไมหัวหน้าถึงไม่ใช้มัน? หัวหน้าขับขี่มันอยู่ข้างในจริงๆ หรือ? หุ่นลิงยักษ์นี้ เขาได้มาจากไหน? คำถามนี้และความตื่นเต้นจากการรอดตายทำให้พวกทหารรับจ้างไม่คิดถึงอาการบาดเจ็บและลุกขึ้นมารวมตัวกัน
แข็งแกร่ง หุ่นรบวานรยักษ์นั้นแข็งแกร่งนัก แต่กังวลว่าจะสู้กับแม่ทัพเหลยผาวได้หรือไม่?
ถ้าเขาเอาออกมาใช้ก่อนนั้น พวกทหารที่น่าเกลียดเหล่านี้คงถูกไล่ทุบไปแล้ว!
ต่างจากพวกทหารรับจ้างข้างล่าง หัวหน้าทหารรับจ้างที่กำลังควบคุมหุ่นวานรยักษ์ตวาดลั่น “ข้าจะคุ้มกันหลังให้ พวกเจ้ารีบหนีไปเร็วเข้า ข้าทนได้อีกไม่นาน”
“แน่นอนว่าเจ้าไม่สามารถฝืนทนได้นานนัก ฮ่าฮ่า เจ้าไม่มีพลังหรือสิทธิ์ในการจัดการได้ เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ต้องควบคุมหุ่นอสูรที่มีระดับสูงซึ่งไม่คู่ควรกับเจ้า นี่เท่ากับว่าเจ้าหาเรื่องตายง่ายๆ! คนที่ประสบความสำคัญข้าเชื่อว่าตอนนี้คงตายไปแล้ว!” แม่ทัพเหลยผาวไม่กังวลแม้แต่น้อย เขาโบกมือข้างหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “เสริมกำลังขึ้นไปอีกสองสามคน ไปเล่นกับมันอีกครั้ง จำเอาไว้อย่าปล่อยให้มันตายง่ายเกินไป พวกเจ้าต้องหยอกล้อกับมันเหมือนแมวหยอกหนู เล่นไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะตายยังน่าสนใจมากกว่าเยอะ!”
“หนีไม่พ้นหรอก” ก่อนที่ทหารรับจ้างจะตอบโต้มีอสูรหุ่นร่างมนุษย์สูงราวเจ็ดแปดเมตรบินเข้ามาสมทบ พวกเขาคือสมาชิกของทหารฝีมือดีภายใต้บัญชาการของแม่ทัพเหลยผาว อสูรหุ่นของเขาอาจไม่ทรงพลังเท่ากับอสูรหุ่นวานรยักษ์ แต่ถ้าพูดถึงการประสานงานระหว่างวิทยาการที่สร้าง กับจักรกลที่ผสานกับมนุษย์ หัวหน้าทหารรับจ้างยังไม่ได้เท่าปลายนิ้วของเขา
แต่เดิมเหลยผาวต้องการดูฉากแสดงดีๆ แต่บังเอิญเขาเหลือบไปเห็นทหารรับจ้างที่คาดดาบที่เอว ดูเหมือนจะมีการเคลื่อนไหว
ในใจของเขาตื่นตัวมากขึ้นกว่าเดิม
เขาหันไปมองทันที
เขาพบว่าเจ้าเด็กนี่ปูเสื่อกับพื้นวางอาหารและผลไม้จากนั้นนั่งอย่างสบายอารมณ์มองดูการต่อสู้ในสนามพลางหยิบอาหารกินราวกับว่ากำลังมาเที่ยวปิกนิก สิ่งที่แปลกยิ่งกว่าเดิมก็คือทารกน้อยตัวดำสกปรกตอนนี้เปลี่ยนไปมากใส่เสื้อผ้าที่สวยงามราวกับเจ้าหญิงน้อยกำลังหลับอย่างสบาย
แม่ทัพเหลายผาวอดขยี้ตาไม่ได้ และสงสัยว่าตนเองกำลังเห็นภาพลวงตา
ไม่มีเหตุผล นี่เป็นไปไม่ได้แน่นอน
ต่อให้อาบน้ำล้างหน้าเปลี่ยนชุดให้ทารกหญิงที่ผอมหิว แต่หนูน้อยดูร่าเริงและดูสมบูรณ์สดชื่นได้อย่างไร? และดูไม่เหมือนลูกทาสที่หิวโหยในตอนแรก แต่เหมือนกับสมาชิกที่เกิดในตระกูลสมบูรณ์พูนสุข ใบหน้ากลมน้อยๆ ของทารกหญิงดูอ้วนท้วนสมบูรณ์
นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ในสนามต่อสู้ที่มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเหลยผาวได้อีกต่อไป
ตอนนี้เขาเหมือนกับเห็นปาฏิหาริย์ที่เหลือเชื่อเกิดขึ้นต่อหน้าเขาทำให้เขาสับสนใจ พลังแบบไหนกันที่ทำให้ทารกผอมแห้งอดโซที่กำลังจะตายไม่มีแรงจะร้องไห้เหลือแต่ลมหายใจรวยรินกลับกลายเป็นเหมือนเจ้าหญิงน้อยผิวเหมือนสีกุหลาบอ้วนท้วนสมบูรณ์?
เหลยผาวขยี้ตาอีกครั้งก็ยิ่งตกตะลึงมากกว่าเดิม
คู่สามีภรรยาที่นอนจมกองเลือด ไม่รู้ว่ามาอยู่ริมเสื่อตั้งแต่เมื่อใด
นอกจากคู่สามีภรรยาจะไม่ถูกอสูรหุ่นกัดทึ้งแล้ว บาดแผลของทั้งสองคนที่ฉีกขาดบาดเจ็บยังมีการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เกิดปาฏิหาริย์หรือ?!
6 ความคิดเห็น:
หืมใช้ไอเท็มอะไร
ขอบคุณครับ
ตกใจมาก นึกว่า.....
เฮียเเกเอ็นดูพวกเด็ก (ผู้หญิง) ภายในเเหวนเก็บของคงมีพวกขนม - ลูกอมเต็มไปหมดเเล้วมั้ง?!!
ทั้งบทออกมาไม่กี่บรรทัด โธ่ถัง
ขนมของเย่ว์ซวงทั้งนั้น ส่วนทำไมทุกคนกลับมาปกติก็เพราะเย่ว์หวีพลังรักษาเหลือร้าย
แสดงความคิดเห็น