วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1067 ปาฏิหาริย์เกิด?



ตอนที่  1067  ปาฏิหาริย์เกิด?

ทารกหญิงอยู่กับเย่ว์หยางแน่นอน


เขาเฝ้าดูอย่างใจเย็น

ตอนนี้ เขารู้สึกว่าได้เวลาออกหน้า

เขาไม่ต้องการเป็นวีรบุรุษ  แต่เขาไม่ชินกับการทำงานของสวะเหล่านี้

หากการรังแกเอารัดเอาเปรียบมีอยู่ทุกที่ในโลก ตราบใดที่พอดูมีชั้นเชิง สิ่งนี้ก็สามารถหลีกเลี่ยงได้  การรังแกและเอาเปรียบนี้ เย่ว์หยางไม่ต้องการเข้าไปแทรกแซงทันที  แม้ว่าเขตพื้นที่นี้จะเป็นของเขา  แต่เพราะเรื่องนั้น  เนื่องจากคำพูดและการกระทำดังกล่าว กวนใจเขามาก  ในมุมมองต่อแผนนี้เป็นจงหัวและจีอู๋ลี่ทำ  อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางเห็นพวกทหารรักษาพื้นที่และแม่ทัพเหลยผาวแสดงออกอย่างกระหายเลือด พวกเขานี้ไม่สนใจชีวิตมนุษย์และฆ่าได้อย่างไม่คิดอะไร นี่ไม่ใช่แค่รังแกเท่านั้น แต่เป็นการกระทำของพวกโรคจิต!

ความตั้งใจเดิมของหุบเขามนุษย์ต้องการให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างในคลี่คลายปัญหาด้วยปัญญาเหมือนกับมนุษย์

ตอนนี้พวกเขากำลังใช้ประโยชน์จากช่องโหว่

ใช้ความรุนแรงกลั่นแกล้ง

ทั้งชีวิตเย่ว์หยางดูถูกคนแบบนี้เป็นที่สุด พวกเขาเชี่ยวชาญในการหาช่องโหว่ได้

ทุกคนใช้สติปัญญาแก้ไขความรุนแรง แต่เจ้าผู้นี้ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา สมองของเขาตายไปแล้วหรือ?  ฆ่ากันแบบนี้ ลืมไปแล้วหรือว่าอยู่ในหุบเขามนุษย์!

 “มีคนต้องการเป็นวีรบุรุษ ฮ่าฮ่า.. น่าสนุกดีวีรบุรุษอ้างตนเองว่าพิทักษ์ความเป็นธรรมปรากฏตัวเมื่อไหร่กันนี่?”  แม่ทัพเหลยผาวชะงักตอนแรก แต่แล้วก็หัวเราะลั่น ด้านหลังของเขามีทหารฝีมือดีหลายร้อยหลายพัน ทุกคนมีอสูรหุ่นอยู่ในมือ และนายกองบางคนมีตำแหน่งสูงนั่งอยู่บนอสูรหุ่นขนาดใหญ่  แน่นอนแม่ทัพเหลยผาวก็เหมือนกัน ภายใต้ที่นั่งของเขาคืออสูรหุ่นที่มีความยาวจากหัวถึงหางยี่สิบเมตร

มีอสูรหุ่นรายรอบ เทียบกับได้กับหุ่นสิงโต

เหมือนกับสิงโตที่ยืนอยู่ในกลุ่มหนูอย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่ว่าจะเป็นร่าง คุณภาพวัสดุและความแข็งแกร่งแตกต่างกันมาก

แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจตอนนี้ ว่าเย่ว์หยางใช้วิธีลับใดช่วยทารกหญิงนี้ แต่คำถามนี้หายไปจากหัวเหลยผาวทันที

เขามักไม่ชอบเป็นคนที่ใช้สมอง  นิสัยนี้ติดตัวมาตั้งแต่อยู่แดนสวรรค์ก่อนเข้ามาในหุบเขามนุษย์  แม้จะเข้ามาในหุบเขาแล้ว เขาก็ยังชอบใช้กำลังแก้ปัญหามากกว่าจะใช้สิ่งที่เรียกว่าปัญญา  เมื่อพูดถึงปัญญาแล้วไม่ได้หมายความว่าเหลยผาวโง่  ตรงกันข้ามเขามีสติปัญญาเข้าใจได้แน่นอน

การใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาเป็นนิสัยปกติของเหลยผาว หลักการของเขาคือใช้อารมณ์และทิฏฐิที่ดื้อรั้นแก้ปัญหา

ในหุบเขามนุษย์ เหลยผาวตัดสินใจว่าเขาสามารถประสบความสำเร็จในอาชีพได้โดยไม่ต้องใช้สมอง

เขาทำแบบเดียวกันนี้มาโดยตลอด

 “ทหารรับจ้างที่น่าตาย  ข้านึกว่าใครเสียอีกที่บังอาจเข้ามาขวางธุระของข้าเหลยผาว  นึกไม่ถึงเลยว่ายังเป็นเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”  เหลยผาวมองลงมาที่เย่ว์หยางและพบว่าเป็นบุรุษธรรมดา เขาถ่มน้ำลายลงพื้นด้วยความรังเกียจ และไม่ให้ความสนใจกับมดแมลงน้อยอย่างเย่ว์หยางต่อไป

 “หัวหน้า, ไม่ หัวหน้า... ข้าขอโทษ เป็นความผิดของข้า!

ทหารรับจ้างหนุ่มที่ถูกทหารรับจ้างหลายคนฉุดรั้งไว้เห็นหัวหน้าทหารรับจ้างถูกแทงลงกับพื้นต่อหน้าต่อตา  เขากลัวแทบตายขณะร้องไห้ หลังจากบิดาและพี่ชายของเขาตายไป  หัวหน้ากลุ่มที่แข็งแกร่งอีกคนกำลังจะตาย

แม้ว่าเขาเพิ่งจะโกรธจนแทบตัดความสัมพันธ์

แต่ในใจของทหารรับจ้างหนุ่มมักนับถืออีกฝ่ายว่าเป็นเหมือนพี่ชาย

บัดนี้เขาเห็นร่างโชกเลือดของหัวหน้าที่ถูกหลาวยิงที่หน้าอก ท้องทะลุหลังตรึงร่างกับพื้น ทหารรับจ้างหนุ่มจะไม่โศกเศร้าได้อย่างไร

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหุนหันพลันแล่น จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร?

เขาคิดว่าตนเองทำให้หัวหน้าตาย

ทหารรับจ้างหนุ่มทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรง เหยียดแขนขึ้นฟ้าราวกับหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ทำให้หัวหน้ากลับมามีชีวิต.. มีทหารรับจ้างหลายคนที่เศร้าโศกและไม่พอใจทหารรับจ้างหนุ่ม  พวกเขารู้สึกถึงความเศร้าโศกและความเกลียดชังในใจอย่างเดียวกัน  แต่พวกเขาจะแก้ปัญหาได้อย่างไร?  ศัตรูมีพลังและอำนาจอยู่ในมือ  ศัตรูเหมือนกับถ้ำปากพยัคฆ์ที่ลึกไม่เห็นก้น ไม่ว่าพวกเขาจะมีกี่ชีวิตก็ไม่เพียงพอ  ยิ่งไปกว่านั้นทหารรับจ้างมีจำนวนแค่สิบกว่าคนเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามแม่ทัพเหลยผาวที่คุมกลุ่มทหารมือดีเป็นร้อย พวกเขาจะสู้ได้อย่างไร?

ความคิดเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือ จากไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

ยิ่งอยู่ตรงนี้นานขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น!

 “หัวหน้า, หน้าหน้า...”  ทหารรับจ้างหนุ่มถูกสหายลากตัวออกมา เขาคร่ำครวญร้องไห้ด้วยความเสียใจ  มือของเขาพยายามยืดพื้นรั้งตัวให้อยู่ แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้  เขาไม่เต็มใจจะทิ้งหัวหน้าที่เขารักและเคารพไว้ที่นี่และศพเขาจะตกเป็นอาหารของสัตว์ร้าย

 “มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่ไม่เลว  แต่ยังไม่พอ”  เหลยผาวโบกมือ  “พวกเจ้าต้องแสดงฉากภาพชีวิตให้ข้าดูตื่นเต้นมากยิ่งกว่านี้!

 “ครืน ครืน ครืนน!

ฝูงอสูรหุ่นที่กำลังจะโจมตีเย่ว์หยาง  หุ่นที่ล้อมหัวหน้าทหารรับจ้าง แม้แต่อสูรหุ่นที่กัดทำร้ายทาสบุรุษที่เป็นสามีเกือบตาย หันหน้าไปพร้อมกันและไล่ตามทหารรับจ้างที่กำลังจะหนี ด้านซ้ายขวาของแม่ทัพเหลยผาวหุ่นสัตว์รบและหุ่นนักรบมากมายล้อมกักตัวทาสประจำเหมืองที่อ่อนแอ

เย่ว์หยาง?

มองเหมือนกับทหารรับจ้างพกดาบที่อ่อนแอ  อย่าว่าแต่แม่ทัพเหลยผาวเลย แม้แต่องครักษ์หรือทหารรักษาการณ์ก็ยังไม่มองเขาอีกต่อไป

ทหารรับจ้างที่ไม่มีหุ่นอสูร จะเรียกได้ว่ามีพลังรบหรือ?

ไม่มีใครสนใจ

เมื่อเพิกเฉยเช่นนี้ก็เหมือนกับใช้กฎหมายบ้านเมืองบังคับ อย่างเช่นเทศกิจเห็นพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ไม่ได้ถืออาวุธในมือก็ไม่ต้องการใช้กำลังรุนแรงตามอำเภอใจไม่ใช่หรือ?  แน่นอนว่าถ้าพบพ่อค้าแม่ค้าผู้เชี่ยวชาญในการใช้ค้อน ใช้ไม้พลองก็คงเป็นเรื่องปวดเศียรเวียนเกล้า  อย่างไรก็ตามความน่าจะเป็นนี้น้อยมาก มีไม่ถึงหนึ่งในร้อยล้าน หนึ่งในสิบล้าน เป็นไปไม่ได้ที่จะพบเห็นโดยทั่วไป  เจ้าหน้าที่มากมายไม่คิดหรอกว่าชาวโลกจะมีดาบอาญาสิทธิ์ที่หยุดยั้งทุกสิ่งได้

คู่สามีภรรยาเลือดท่วมตัวไม่มีกำลังจะเอื้อมมือไปลูบตัวลูกสาวอีกต่อไป

พวกทาสประจำเหมืองที่กล้าขยับตัวจะมีอสูรหุ่นของทหารประจำการณ์ใช้หลาว หรือแส้แขนกลคอยขู่คุกคามให้พวกเขาตกใจ

 “เราไม่อาจต่อต้านได้  มิฉะนั้นเราจะถูกตัดสินว่าละเมิดเบื้องสูง”  มีทหารรับจ้างชราผู้มีประสบการณ์เห็นอสูรหุ่นเคลื่อนไหว จึงห้ามสหายไม่ให้ต่อต้านพวกเขา  เขาต้องการให้สหายของเขาทำอย่างเดียวกับพวกทาสประจำเหมือง จัดกลุ่มต้านทานการโจมตีของศัตรูด้วยกัน  ด้วยวิธีนี้พวกทหารยังป้องกันไม่ให้ใครหนีไปได้

 “ขณะที่พวกเจ้าก้าวเข้ามาในพื้นที่เหมืองตั้งแต่ก้าวแรก พวกเจ้ากลายเป็นคนบาปไปแล้ว! ท่ามกลางเสียงหัวเราะสบายๆ ของแม่ทัพเหลยผาว อสูรหุ่นนับไม่ถ้วนวิ่งเข้าหาทหารรับจ้างกลุ่มเล็กอย่างรวดเร็ว และพยายามแยกโจมตีพวกเขาทีละคน

ภายในไม่กี่วินาทีทหารรับจ้างยังไม่ถึงกับแพ้

รอจนกระทั่งพวกเขาต้องการต่อต้านอีกครั้ง

ก็สายเกินไปเสียแล้ว

และหุ่นสัตว์รบรอบๆ ตัวเขาไม่อาจเทียบได้กับอสูรหุ่นที่เหลยผาวบัญชาการ

หุ่นสัตว์รบเหล่านั้นบีบวงล้อมแคบและยิ่งเพิ่มอสูรหุ่นขนาดยักษ์ร่วมด้วย ทำให้พวกทหารรับจ้างส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดร่างกายบาดเจ็บเพราะอสูรหุ่น

ถ้าไม่ใช่เพราะเหลยผาวต้องการจะทรมานพวกนี้ ทหารรับจ้างที่อ่อนแอคงถูกอสูรหุ่นจับร่างฉีกไปแล้ว

 “หยุดนะ!

เสียงดังมาจากด้านหลังเย่ว์หยาง

ปรากฏว่าหัวหน้าทหารรับจ้างที่ถูกหลาวแทงหน้าอกทะลุหลังดูเหมือนร่างจะมีแสงสีทองเปล่งออกจากตัวเหมือนแสงเทพ  สีหน้าที่บิดเบี้ยวเจ็บปวดไม่ใช่แสดงออกว่ากำลังจะตาย  แต่เป็นการต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดอย่างน่าทึ่ง

เขาสะบัดมือและตัดหลาวที่ด้านหลังของเขา

และเหยียดมือออกมาข้างหน้าท่ามกลางสายตาของทุกคน

เขาดึงหลาวที่ย้อมด้วยเลือดออกจากอก เลือดฉีดพุ่งเหมือนน้ำพุ แต่เขาเหมือนไม่รู้ตัว

 “ฮะฮะฮะ  ข้าต้องยั้งมือไว้เสียแล้ว  ไม่มีเหตุผลใดที่จะตายเร็วมากมายขนาดนั้น  ดูสิ..เป็นฉากภาพที่งดงามเหลือเกิน  ใช้พลังลับเผาผลาญพลังชีวิตเพื่อช่วยเหลือพี่น้องตนเองอย่างไม่ลังเล... ในฐานะหัวหน้ากลุ่มจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบอย่างนี้  ข้าไม่รู้ว่าหัวหน้าทหารรับจ้างจะส่งต่อความรับผิดชอบนี้จากรุ่นสู่รุ่นหรือเปล่า  ตัวอย่างเช่น อสูรหุ่นขนาดใหญ่ หรืออสูรหุ่นดีๆ”  แม่ทัพเหลยผาวลูบคางที่เต็มไปด้วยตอหนวดเคราของเขาด้วยมือหยาบใหญ่

 “ฮึ่ม!” หัวหน้าทหารรับจ้างยื่นมือที่เปื้อนเลือดคลำที่คอ และเขาเปล่งรัศมีสีทองและตวาดลั่น  “ข้าแต่บรรพบุรุษ ลูกหลานของท่านมาถึงช่วงวิกฤตเป็นตายของชีวิตแล้ว เพื่อให้ชีวิตอยู่รอด  โปรดอภัยลูกหลานที่ไร้ความผิดด้วยเถิด ข้าขออัญเชิญเกราะรบวานรทอง”

ครืนน  ครืนนน  ครืนน...เมื่อผู้นำทหารรับจ้างทำลายผลึกที่เขาแขวนรักษาไว้ที่คอมาหลายวัน

อสูรหุ่นร่างลิงยักษ์สูงสิบเมตรปรากฏต่อหน้าทุกคน

มันเปล่งแสงสีทองเจิดจ้าจนยากจะมองได้ตรงๆ  และหัวหน้าทหารรับจ้างผู้นี้ที่กำลังจะตายดูเหมือนจะมีพลังชีวิตขึ้นมาเป็นร้อยเท่าทันที  เขากระโดดเข้าไปในช่องอกอสูรหุ่นวานรที่เปิดออกเพื่อเข้าควบคุมอสูรหุ่น

ผสานร่างมนุษย์กับเครื่องจักร!

แขนยักษ์ของหุ่นรบวานรชูขึ้นสูง เสียงคำรามดังออกมาจากปากของหุ่นรบวานรดังสะท้านใจผู้คน

และโจมตีใส่หุ่นรบที่โจมตีใส่ทหารรับจ้าง

หัวหน้าทหารรับจ้างกวาดแขนหุ่นวานรยักษ์ใส่อสูรหุ่นรบ

ประสิทธิภาพรบของมันสูงมากกว่า

ด้วยการกวาดแขนทั้งสองฟาดเป็นรูปกากบาท ทำให้หุ่นรบตัวใหญ่พังกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย... ส่วนอสูรหุ่นตัวเล็กตัวน้อยต่างเล็ดลอดกลับไปหาเจ้านายของมัน  แต่หนีไปได้ครึ่งทางก็ถูกหุ่นรบวานรไล่ตามและทำลายทีละตัวๆ จนลดจำนวนลง

 “โอว..ยอดเยี่ยม!

ทาสประจำเหมืองเห็นภาพเช่นนี้แล้ว อดปรบมือตื่นเต้นดีใจไม่ได้

พวกทหารรับจ้างที่นอนจมกองเลือดมองดูหุ่นลิงยักษ์อย่างเหลือเชื่อ  ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติแล้ว ทำไมหัวหน้าถึงไม่ใช้มัน?  หัวหน้าขับขี่มันอยู่ข้างในจริงๆ หรือ?  หุ่นลิงยักษ์นี้ เขาได้มาจากไหน?  คำถามนี้และความตื่นเต้นจากการรอดตายทำให้พวกทหารรับจ้างไม่คิดถึงอาการบาดเจ็บและลุกขึ้นมารวมตัวกัน

แข็งแกร่ง หุ่นรบวานรยักษ์นั้นแข็งแกร่งนัก แต่กังวลว่าจะสู้กับแม่ทัพเหลยผาวได้หรือไม่?

ถ้าเขาเอาออกมาใช้ก่อนนั้น พวกทหารที่น่าเกลียดเหล่านี้คงถูกไล่ทุบไปแล้ว!

ต่างจากพวกทหารรับจ้างข้างล่าง  หัวหน้าทหารรับจ้างที่กำลังควบคุมหุ่นวานรยักษ์ตวาดลั่น  “ข้าจะคุ้มกันหลังให้ พวกเจ้ารีบหนีไปเร็วเข้า  ข้าทนได้อีกไม่นาน”

 “แน่นอนว่าเจ้าไม่สามารถฝืนทนได้นานนัก ฮ่าฮ่า เจ้าไม่มีพลังหรือสิทธิ์ในการจัดการได้  เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ต้องควบคุมหุ่นอสูรที่มีระดับสูงซึ่งไม่คู่ควรกับเจ้า นี่เท่ากับว่าเจ้าหาเรื่องตายง่ายๆ!  คนที่ประสบความสำคัญข้าเชื่อว่าตอนนี้คงตายไปแล้ว!” แม่ทัพเหลยผาวไม่กังวลแม้แต่น้อย เขาโบกมือข้างหน้าอย่างไม่ใส่ใจ  “เสริมกำลังขึ้นไปอีกสองสามคน ไปเล่นกับมันอีกครั้ง  จำเอาไว้อย่าปล่อยให้มันตายง่ายเกินไป  พวกเจ้าต้องหยอกล้อกับมันเหมือนแมวหยอกหนู เล่นไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะตายยังน่าสนใจมากกว่าเยอะ!

 “หนีไม่พ้นหรอก” ก่อนที่ทหารรับจ้างจะตอบโต้มีอสูรหุ่นร่างมนุษย์สูงราวเจ็ดแปดเมตรบินเข้ามาสมทบ พวกเขาคือสมาชิกของทหารฝีมือดีภายใต้บัญชาการของแม่ทัพเหลยผาว  อสูรหุ่นของเขาอาจไม่ทรงพลังเท่ากับอสูรหุ่นวานรยักษ์ แต่ถ้าพูดถึงการประสานงานระหว่างวิทยาการที่สร้าง กับจักรกลที่ผสานกับมนุษย์  หัวหน้าทหารรับจ้างยังไม่ได้เท่าปลายนิ้วของเขา

แต่เดิมเหลยผาวต้องการดูฉากแสดงดีๆ  แต่บังเอิญเขาเหลือบไปเห็นทหารรับจ้างที่คาดดาบที่เอว  ดูเหมือนจะมีการเคลื่อนไหว

ในใจของเขาตื่นตัวมากขึ้นกว่าเดิม

เขาหันไปมองทันที

เขาพบว่าเจ้าเด็กนี่ปูเสื่อกับพื้นวางอาหารและผลไม้จากนั้นนั่งอย่างสบายอารมณ์มองดูการต่อสู้ในสนามพลางหยิบอาหารกินราวกับว่ากำลังมาเที่ยวปิกนิก  สิ่งที่แปลกยิ่งกว่าเดิมก็คือทารกน้อยตัวดำสกปรกตอนนี้เปลี่ยนไปมากใส่เสื้อผ้าที่สวยงามราวกับเจ้าหญิงน้อยกำลังหลับอย่างสบาย

แม่ทัพเหลายผาวอดขยี้ตาไม่ได้ และสงสัยว่าตนเองกำลังเห็นภาพลวงตา

ไม่มีเหตุผล นี่เป็นไปไม่ได้แน่นอน

ต่อให้อาบน้ำล้างหน้าเปลี่ยนชุดให้ทารกหญิงที่ผอมหิว แต่หนูน้อยดูร่าเริงและดูสมบูรณ์สดชื่นได้อย่างไร? และดูไม่เหมือนลูกทาสที่หิวโหยในตอนแรก   แต่เหมือนกับสมาชิกที่เกิดในตระกูลสมบูรณ์พูนสุข ใบหน้ากลมน้อยๆ ของทารกหญิงดูอ้วนท้วนสมบูรณ์

นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ในสนามต่อสู้ที่มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเหลยผาวได้อีกต่อไป

ตอนนี้เขาเหมือนกับเห็นปาฏิหาริย์ที่เหลือเชื่อเกิดขึ้นต่อหน้าเขาทำให้เขาสับสนใจ  พลังแบบไหนกันที่ทำให้ทารกผอมแห้งอดโซที่กำลังจะตายไม่มีแรงจะร้องไห้เหลือแต่ลมหายใจรวยรินกลับกลายเป็นเหมือนเจ้าหญิงน้อยผิวเหมือนสีกุหลาบอ้วนท้วนสมบูรณ์?

เหลยผาวขยี้ตาอีกครั้งก็ยิ่งตกตะลึงมากกว่าเดิม

คู่สามีภรรยาที่นอนจมกองเลือด ไม่รู้ว่ามาอยู่ริมเสื่อตั้งแต่เมื่อใด

นอกจากคู่สามีภรรยาจะไม่ถูกอสูรหุ่นกัดทึ้งแล้ว บาดแผลของทั้งสองคนที่ฉีกขาดบาดเจ็บยังมีการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เกิดปาฏิหาริย์หรือ?!

6 ความคิดเห็น:

BJ กล่าวว่า...

หืมใช้ไอเท็มอะไร

Demon Slayer กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Popcorn กล่าวว่า...

ตกใจมาก นึกว่า.....

Unknown กล่าวว่า...

เฮียเเกเอ็นดูพวกเด็ก (ผู้หญิง) ภายในเเหวนเก็บของคงมีพวกขนม - ลูกอมเต็มไปหมดเเล้วมั้ง?!!

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

ทั้งบทออกมาไม่กี่บรรทัด โธ่ถัง

Unknown กล่าวว่า...

ขนมของเย่ว์ซวงทั้งนั้น ส่วนทำไมทุกคนกลับมาปกติก็เพราะเย่ว์หวีพลังรักษาเหลือร้าย

แสดงความคิดเห็น