วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1091 เจ้าจะทิ้งข้าหรือ



ตอนที่  1091  เจ้าจะทิ้งข้าหรือ

 “มีใครบางคนมาถึงที่นี่แล้ว”  คุณชายหมิงจูขมวดคิ้ว และเขามีสีหน้าสงสัยทันที


 “เจ้าหมายถึงว่ามีบางคนได้รับภารกิจนี้ด้วยหรือ?”  เย่ว์หยางสะท้านใจ เนื่องจากเขาและหมิงจูสามารถรับภารกิจได้ คนอื่นก็มีโอกาสรับได้เช่นกัน  ภารกิจประเภทนี้เป็นการแข่งขันอย่างหนึ่งมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว เป็นความท้าทายที่ผู้พเนจรที่ยอดเยี่ยมทุกคนมีสิทธิ์ลองเช่นเดียวกับการฝึกฝนอสูรในหุบเขาอสูร  มากกว่าเป็นการมาพบเป็นส่วนตัวของหญิงสาวชุดขาวทั้งสาม

 “ข้ารู้สึกได้ถึงข้อมูลบางอย่างที่หลงเหลืออยู่ในพื้นดินหลังจากตรวจหาอย่างเต็มที่ ความคิดของคนผู้นี้ทรงพลังมาก แทบทัดเทียมกับเทพ อาจเป็นจีอู๋ลี่ก็ได้!  คุณชายหมิงจูพยักหน้าและให้คำตอบแก่เย่ว์หยาง

 “จีอู๋ลี่มาถึงที่นี่แล้วหรือ?”  ตอนนี้เย่ว์หยางพบว่าพลังตรวจสอบของเขาไม่ดีเท่ากับคุณชายหมิงจู

ถ้าพลังที่ซ่อนอยู่ของเขาถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ เขาสามารถใช้พลังจักษุญาณทิพย์ได้โดยไม่ถูกจำกัด และด้วยปณิธานปราณราชันย์และพลังกฎสวรรค์น้อยใช้ค้นหาทั่วยอดเขาตะวันออก  เย่ว์หยางคาดว่าคงทำได้ไม่ดีกว่าหมิงจู และหมิงจูอาจทำได้ดีกว่ามาก

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นสภาพปกติ เย่ว์หยางคงไม่ดีเทียบเท่าจริงๆ

ความสามารถในการสัมผัสรู้ของคุณชายหมิงจูเหนือกว่าเย่ว์หยาง คาดว่านอกจากทักษะหกรับรู้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน คงไม่มีใครเทียบได้

การได้รับทราบข้อมูลร่องรอยว่าจีอู๋ลี่มา ทำให้อารมณ์ของหมิงจูค่อนข้างตึงเครียดราวกับว่าเขากำลังรอศัตรูอยู่ เขาอาจกระโดดออกมาและเริ่มโจมตีคนทั้งสอง  ในทางตรงกันข้ามเย่ว์หยางค่อนข้างสงบ  หากจีอู๋ลี่ยังคงอยู่ที่นั่น สายเกินกว่าจะจากไป แต่ข้างหน้าคือการต่อสู้ และที่คือยอดเขาเทียนผิงแห่งหุบเขามนุษย์ จีอู๋ลี่ไม่สามารถแสดงฝีมือได้แม้ว่าเขาจะยอดเยี่ยมเพียงไหนก็ตาม หากเป็นการต่อสู้ของหุ่นรบกับหุ่นรบ เย่ว์หยางในตอนนี้อาจตบอกและพูดว่า ก็เข้ามาสิ ใครจะกลัวใครกันแน่!’

จุดที่สำคัญที่สุด

เย่ว์หยางเชื่อว่าแม้ว่าสำนึกของเขาจะโง่  แต่เขาจะไม่ยอมให้จีอู๋ลี่เข้ามารังแกเขาง่ายๆ

จีอู๋ลี่หลังจากใช้พลังจิตค้นหาร่องรอยพลังงานที่เหลืออยู่เบาบางมากในยอดเขาตะวันออก มันเบาบางเกินไป เย่ว์หยางไม่สนใจก็เลยไม่รู้สึก   แต่ถ้าจีอู๋ลี่ซุ่มซ่อนอยู่ไหนสักแห่ง ความรู้สึกถึงวิกฤติของเย่ว์หยางในสนามต่อสู้นั้นไม่น้อยไปกว่าทักษะหกรับรู้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เขารู้สึกได้ทันที... ดังนั้นจูอู๋ลี่ไม่ได้อยู่ยอดเขาตะวันออกแน่นอน

ฉะนั้นจีอู๋ลี่ไม่อยู่ในยอดเขาตะวันออกแน่นอน

ในเมื่อเขาไม่อยู่ที่นั่น ทำไมเย่ว์หยางจึงรู้สึกกลัว?

 “นอกจากพลังจิตจีอู๋ลี่ที่ตกค้างแล้ว ยังมีคนแปลกประหลาดอีกจำนวนหนึ่ง”  คุณชายหมิงจูไม่แน่ใจว่าใครจึงต้องอดทนเปรียบเทียบความแข็งแกร่งกับจีอู๋ลี่?

 “ข้ารู้ว่าเป็นใคร!  เย่ว์หยางไม่ต้องคิดมาก  เขารู้แล้วว่าเป็นใคร

จอมปีศาจไคเทียน!

ถ้าไม่ใช่เพราะคัมภีร์อัญเชิญ สำนึกเทพและอสูรพิทักษ์ ฯลฯ ถูกผนึกไว้ในวิหารปีศาจฟ้าแห่งหุบเขาปีศาจ  จอมปีศาจไคเทียนแข็งแกร่งมากกว่าจีอู๋ลี่ที่ว่ากันใกล้เคียงระดับเทพแน่นอน   เมื่อจอมปีศาจไคเทียนอาละวาดอยู่ในแดนสวรรค์ จีอู๋ลี่ยังไม่เกิด!  แน่นอนว่าจอมปีศาจไคเทียนยังถูกผนึกพลังไว้อีกครึ่งหนึ่ง ทั้งพลังของเขาก็สูญเสียไปมาก  แต่เย่ว์หยางก็แทบจะรับมือไม่ได้ จึงยังด้อยกว่าจีอู๋ลี่ที่อยู่ในสภาพสูงสุด

โดยเฉพาะแค่ความสามารถหลบหนีจากผนึกโบราณก็บ่งบอกให้รู้ว่าจอมปีศาจไคเทียนนั้นน่าทึ่งเพียงไหน

เทียบกับจอมปีศาจไคเทียนแล้ว สุดยอดนักสู้ระดับเดียวกันไม่ว่าจะเป็นมังกรปีศาจ จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ นางพญาผู้พิชิตเฟ่ยเหวินหลียังไม่อาจทำตามลำพังได้

แม้ว่าความแข็งแกร่งของผนึกแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน  แต่ผนึกของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีและมังกรปีศาจนั้นน่าสิ้นหวัง

แต่ผนึกของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและจอมปีศาจไคเทียนไม่ไกลกันเลย

ในบรรดาสี่สุดยอดนักสู้นั้นมีแต่จอมปีศาจไคเทียนเท่านั้นที่หลบหนีความยากลำบากออกมาได้ เขายอมสละสำนึกเทพ และคัมภีร์อัญเชิญได้เพื่อต้องการอิสระ นี่เป็นจุดที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจอมปีศาจไคเทียนนั้นทรงพลังเพียงไหน ไม่มีคัมภีร์อัญเชิญ ไม่มีสำนึกเทพและไม่มีอสูรพิทักษ์  ฯลฯ  นอกจากนี้เขากับเย่ว์หยางได้สู้กันมาแล้วในหุบเขาปีศาจ   คิดว่าจีอู๋ลี่คงทำเช่นนี้ไม่ได้

ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคัมภีร์อัญเชิญ สำนึกเทพและอสูรพิทักษ์ จีอู๋ลี่กล้าสู้กับเย่ว์หยาง  เย่ว์หยางรับประกันได้ว่าสามารถมันเอาชนะได้

เหมือนกับสูญเสียพื้นฐานพลัง!

สิ่งที่จอมปีศาจไคเทียนไม่สามารถเอาชนะได้อย่างแท้จริงก็คือชะตากรรม ไม่ใช่เย่ว์หยางในปัจจุบัน หรือจีอู๋ลี่ที่มีพลังเหนือเขาชั่วคราว

คุณชายหมิงจูฟังเรื่องเล่าจากเย่ว์หยาง เขาพยักหน้าและเรื่องราวเกี่ยวกับจอมปีศาจไคเทียนดูเหมือนเขาจะเคยได้ยินมาก่อนและเป็นที่รู้จัก  แม้ว่าจอมปีศาจไคเทียนซึ่งสูญเสียพลังไปมาก ตอนนี้กลายเป็นพยัคฆ์แก่ไร้เขี้ยว แต่ย่อมไม่ใช่ตัวดีแน่นอน

เขาระมัดระวังเย่ว์หยาง

คุณชายหมิงจูเห็นด้วยเป็นอย่างมาก

 “จีอู๋ลี่และจอมปีศาจไคเทียนมาที่นี่  อย่างนั้นเราไม่ต้องไปหามัน”  เย่ว์หยางไม่คิดว่าเขาจะพบโบราณวัตถุแต่อย่างใดหากค้นหาตามหลังทั้งสองคนนี้ ถ้าทั้งจีอู๋ลี่และจอมปีศาจไคเทียนไม่สามารถหาได้พบ  อย่างนั้นเขากับหมิงจูก็เสียเวลาและสิ้นเปลืองพลังงานเปล่าๆ ไม่น่าจะหาพบ  ถ้าพวกเขาพบเจอไปแล้ว  อย่างนั้นเขาจะต้องเสียเวลามาที่นี่ทำไม?

แต่คุณชายหมิงจูรู้สึกว่าเสียดายถ้าจะจากไปลักษณะนี้

 “ให้ข้าคิดดูก่อน”  เย่ว์หยางนึกถึงคำของหญิงสาวชุดขาวทั้งสามคนอย่างรอบคอบ  หากพวกเขาพบแล้ว  พวกนางคงไม่ตามหาเขาด้วยตนเองแน่นอน  ตรงกันข้ามถ้ามีอยู่ยอดเขาตะวันออกจริงๆ ก็ไม่มีเหตุผลที่จีอู๋ลี่และจอมปีศาจไคเทียนจะหาไม่เจอ

 “คิดไหมว่า? ทะเลที่พวกนางบอกอาจจะเกี่ยวกับทะเลต้นไม้? ที่นี่มีป่ามากมาย และนั่นก็เป็นทะเลต้นไม้”  คุณชายหมิงจูวิเคราะห์ด้วยแนวคิดนี้

ไม่...เย่ว์หยางส่ายหน้า ไม่ง่ายขนาดนั้นแน่นอน

ถ้าเป็นเรื่องง่ายจริงๆ  จีอู๋ลี่และจอมปีศาจไคเทียนจะกลับมาโดยไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างไร?

เย่ว์หยางใช้สมองคิดอย่างจริงจัง เขาตั้งใจทำสมาธิและคิดหาคำตอบ

ไตร่ตรองครั้งละครึ่งชั่วโมงอยู่สองครา

แต่ไม่ได้ผลอะไร

คุณชายหมิงจูรีบปลอบใจ  “ไม่ต้องห่วง เราจะต้องหาวัตถุโบราณได้แน่ เรามีเวลาไม่ต้องกังวล  ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือสิ่งที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ยอดเขาตะวันออกไม่มีใครท้าทายได้ และการเลือกยอดเขาตะวันออกเป็นสถานที่ต่อสู้ จะไม่มีใครมาที่นี่เพื่อรบกวนเรา  เจ้าคิดช้าก็ได้ไม่ต้องกังวล เราจะพยายามร่วมกัน  แม้ว่าใครบางคนเข้ามาเพื่อต่อสู้กันก่อนประตูเทเลพอร์ตจะกระพริบ เรามีเวลาพอจะซ่อนตัว

เย่ว์หยางไม่สนใจเรื่องความสบาย  แต่ก็ยอมรับแนวคิดของคุณชายหมิงจู

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณชายหมิงจูผู้นี้จะอารมณ์เสียและใช้ค้อนทองใหญ่ไล่ทุบหัวคน

ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากพูดความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจ  เย่ว์หยางคว้าไหล่คุณชายหมิงจูไว้แน่นและร้องดังๆ  “เจ้าว่าไงนะ?  เจ้าว่าประตูเทเลพอร์ต?”

คุณชายหมิงจูตกใจกับความเคลื่อนไหวของเย่ว์หยางครั้งนี้  “ข้า หมายถึงอาจมีคนเข้ามา  ประตูเทเลพอร์ตจะส่งสัญญาณไฟกระพริบเตือน...”

 “ใช่แล้ว นี่แหละ!  เย่ว์หยางกอดคุณชายหมิงจูด้วยความตื่นเต้น

เขากอดแน่นไม่ยอมปล่อย

คุณชายหมิงจูมึนศีรษะไปหมด

เกิดอะไรขึ้น

นี่เกี่ยวอะไรกับประตูเทเลพอร์ต?  แม้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ ก็ไม่ควรกอดจนแน่นอย่างนี้

เย่ว์หยางไม่เพียงแต่กอดเปล่าๆ แต่ยังตบหลังคุณชายหมิงจูอย่างแรงและหัวเราะลั่น เมื่อคุณชายหมิงจูเตรียมใช้ค้อนยักษ์เคาะกะโหลกปลุกสำนึกของเขา เย่ว์หยางรีบก้าวไปยังประตูเทเลพอร์ตที่อยู่ไกลออกไป

รอจนคุณชายหมิงจูมาถึงที่ประตูเทเลพอร์ตเย่ว์หยางจึงล้วงเอาศิลาศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากฐานประตูเทเลพอร์ต

 “เจ้าอย่าบอกนะว่านี่คือวัตถุโบราณ?”  คุณชายหมิงจูมองดูเหมือนจะรู้

 “ศิลาศักดิ์สิทธิ์นี้มีพลังงานไม่สิ้นสุด มันอยู่ในยุคแรกๆ เมื่อหุบเขามนุษย์ถูกสร้าง บางทีอาจสร้างโดยเทพโบราณก็ได้  อย่างน้อยก็ต้องเป็นรุ่นก่อนเทพโบราณวางเอาไว้ที่ประตูเทเลพอร์ตนี้ ทำไมจะไม่ใช่โบราณวัตถุ?”  เย่ว์หยางพูดอย่างน่าเชื่อถือ

 “แต่มีศิลาศักดิ์สิทธิ์อยู่ข้างในหุบเขามนุษย์  นี่ไม่ใช่เพียงก้อนเดียว อย่าบอกนะว่ายอดเขาตะวันออกที่นี่ ยอดเขาใต้ ยอดเขาตะวันตกและยอดเขาเหนือก็มีเช่นกัน”  คุณชายหมิงจูยังค้นไม่เจอ

 “รวบรวมทั้งหมด!  เย่ว์หยางรวบรวมศิลาศักดิ์สิทธิ์เก็บไว้ในแหวนเก็บของ

 “อย่าฉุดดึงข้า!  คุณชายหมิงจูปล่อยให้เย่ว์หยางจูงมือตามไปรู้สึกอึดอัด และหลังจากพยายามสองสามครั้งก็ยังดึงมือไม่หลุดจากมือใหญ่ได้

เย่ว์หยางกับคุณชายหมิงจูไม่รู้ว่าหลังจากพวกเขาออกไปได้สิบนาที

เจ้าตำหนักแสงจงหัวที่มีสถานะในหุบเขามนุษย์เป็นบุตรคนที่สิบของเจ้าเมืองไม้เงิน และสุดยอดนักสู้อื่นๆ มีเริ่นเทียนเกอ บัณฑิตตาเงิน พระยายมซิวอิ่ง จ้าวกระดูกจินหาย จอมถลกหนังเซี่ยที พวกเขาเทเลพอร์ตมาที่ยอดเขาตะวันออกนี้  เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็ได้รับมอบหมายภารกิจให้ค้นหาวัตถุโบราณ  เมื่อพวกเขาเข้าไปในทะเลเพื่อค้นหาต้นไม้ขณะที่เตือนคู่ต่อสู้  มีนักเรียนอื่นอีกหลายคนเข้ามาด้วย รวมทั้งฮ็อก ชิงหมอและนักเรียนหัวกะทิจากหุบเขามนุษย์หลายคน เช่นเจ้าเมืองน้อยจินฉีผู้อ้างว่าสร้างหุ่นรบแม่เหล็ก

ฮ็อกหลังจากเข้ามาก็ส่งเสียงหัวเราะลั่น  “ข้าไม่ต้องการเอาหน้า ทูตสวรรค์มอบหมายให้พี่น้องข้าค้นหาสิ่งของ  พวกเจ้ากลับติดตามเข้ามาจริงๆ  จมูกไวจริงนะ!

หยางผิงนักเรียนหัวดีจากสาขาเมืองเปลวอาทิตย์แค่นเสียงหนักหน่วง แต่ไม่ปฏิเสธ

จินฉีผู้หยิ่งผยองแค่นเสียงหนักครั้งแล้วครั้งเล่า  “พวกวรรณะต่ำอย่างทหารรับจ้างทำได้ ทำไมเราชนชั้นสูงจะทำบ้างไม่ได้?  เราใช้ความคิดริเริ่มที่จะทำภารกิจนี้ ทูตสวรรค์ทั้งสามก็เห็นด้วยไม่ใช่หรือ? เราจะพิสูจน์ว่าเรามีพลังมาก และทำภารกิจหลักให้สำเร็จ พวกเจ้ากลับไปได้เลย  พวกเจ้าจะไม่มีทางหาวัตถุโบราณพบแน่!

 “หือ?”  ชิงหมอสวมหน้ากากปีศาจสีเขียว ดูเหมือนจะรู้สึกอะไรบางอย่าง เขากลับหลังหันและจากไปโดยไม่หยุดยั้งแม้แต่วินาทีเดียว

 “เออ, มีแต่พวกเจ้าที่มีคุณสมบัติจะรับภารกิจ มันเสียเวลาเกินกว่าจะไปหรือ?”  ฮ็อกหลั่งเหงื่อ  แต่เขาคุ้นชินบุคลิกของชิงหมอแล้ว ไม่ว่าอย่างไรฟังชิงหมอดีกว่า เขาเป็นคนฉลาดแน่นอน

 “ข้าไม่รู้จักเจ้าพวกทหารรับจ้างขยะ!  จินฉีกระทืบเท้าและถ่มน้ำลาย

 “พวกเขาต้องกลัวว่าเราจะรวมพลังกันโจมตี” หยางผิงวิเคราะห์เช่นนั้น

 “ใช่ ใช่ ที่นี่ยอดเขาตะวันออก สามารถลงมือโจมตีได้!  จินฉีเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ทำไมเขาไม่ใช่หุ่นรบทำลายทหารรับจ้างยากจนทั้งสองนี้นะ?

ขณะนี้เย่ว์หยางและคุณชายหมิงจูมาถึงยอดเขาทิศเหนือแล้ว

ภายในไม่กี่นาทีทั้งสองก็ผ่านไปยอดเขาตะวันตกจากตะวันออก ไปยอดเขาใต้ แล้วเดินทางมายังยอดเขาเหนือ

เพื่อรวบรวมหินศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ในที่ทั้งสี่เหล่านี้ เย่ว์หยางต้องจ่ายด้วยการยอมแพ้สามครั้งต่อเนื่องกับค่าสารท้าทายเกียรติยศ เพราะไม่มีม้วนสาร การเข้าพื้นที่ทุกครั้งจะต้องมีสารท้าทาย เพื่อให้ผ่านประตูเทเลพอร์ตไปได้ เย่ว์หยางพ่ายแพ้สามครั้งรวดเพราะแสดงน้ำใจสุภาพบุรุษผู้กล้าหาญเสียสละยอมลำบากต้องยอมแพ้คุณชายหมิงจูสามครั้งรวดเพื่อให้ผ่านเข้าประตูเทเลพอร์ตได้

เมื่อคุณชายหมิงจูปลอบโยนเขา เย่ว์หยางกลับบอกว่าไม่มีอะไร

ช่างเสียสละอะไรเช่นนี้

ตายเพื่อสตรี ฉิบหายเพื่อสตรี นี่คือการทดสอบในเมืองหลวงหรือ?  นี่หรือความกล้าหาญทะเยอทะยาน?

ชายหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งเคยเขียนไว้ว่า เจ้าชู้กับสาวๆ ไม่ประสบความสำเร็จ นักศึกษาต้องพยายามอย่างหนัก.. คำพูดนั้นมีชื่อเสียง เมื่อเย่ว์หยางศึกษาตอนนั้น เขาใส่คำพูดนี้เป็นคำขวัญก่อนนอนของเขาผลักดันให้ตนเองก้าวหน้าไปตามอุดมคติ

หลังจากได้ยินคำพูดผิดเพี้ยนของเย่ว์หยางแล้ว คุณชายหมิงจูอดเขินไม่ได้

หลังจากยกค้อนยักษ์เกือบจะหวดใส่เย่ว์หยางอยู่แล้ว  โชคดีที่เย่ว์หยางรีบตะโกน “อย่าบังคับให้ข้านอนหลับ มิฉะนั้นข้าจะไปพบเจ้าในความฝัน

คุณชายหมิงจูตกใจทิ้งค้อนลงกับพื้น

หลังจากหยอกล้อกันพอสมควร

หลังจากได้ศิลาศักดิ์สิทธิ์จากยอดเขาทิศใต้ ตะวันออก เหนือและตะวันตกมารวมกัน เย่ว์หยางไม่ได้นำไปให้หญิงสาวชุดขาวทั้งสาม  แต่อักขระรูนที่สลักไว้บนศิลาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีความสมบูรณ์ทั้งสี่ก้อนเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน พลังงานสี่สายไหลออกมาจากศิลาศักดิ์สิทธิ์รวมกันตรงกลางภาพผังอักขระรูนและฉายเป็นลำแสงพุ่งขึ้นไป

เย่ว์หยางวิ่งเข้าไปในลำแสง  คุณชายหมิงจูเมื่อเห็นเจ้าผู้นี้ไม่พาเขาไปด้วย ก็รู้สึกกระวนกระวายรีบคว้ามือเขาไว้แน่น  “อย่าทิ้งข้าไว้ตามลำพัง!

ลำแสงเทเลพอร์ตส่งทั้งสองออกไปทันที

รอจนทั้งสองตั้งสติได้

ทั้งสองพบว่ามาอยู่ที่เกาะน้อยล้อมรอบไปด้วยทะเล...!

3 ความคิดเห็น:

zen zen กล่าวว่า...

มาอยู่ที่ใหนอีกเนี้ย

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

DexterAndDdy กล่าวว่า...

สตาเกต

แสดงความคิดเห็น