วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1227 ดาวตกราชสีห์

 

ตอนที่  1227  ดาวตกราชสีห์

มังกรพิรุณขนาด 108 กิโลเมตรว่าโดยทฤษฎีคือสุดยอดหุ่นรบไร้เทียมทาน

ถ้าไม่มีร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวง

 

และหุ่นรบหรือยานรบทั่วทั้งแดนสวรรค์ไม่มีใดเทียบได้  ในยุคสมัยโบราณดึกดำบรรพ์นั้นเป็นเวลานานเกินกว่าจะรู้สถานการณ์โดยเฉพาะเจาะจงได้ แต่ในช่วงเวลาไม่กี่หมื่นปีที่ผ่านมาตามบันทึกประวัติศาสตร์ไม่เคยมีหุ่นรบใดที่เหมือนกับมังกรพิรุณ  ก่อนที่เขาจะสร้างมันได้ เย่ว์หยางไม่แม้แต่จะรู้ว่าเขาสามารถทำให้สำเร็จในระดับนี้ได้

ความจริงความดีความชอบหลักในการให้กำเนิดมังกรพิรุณนั้นอยู่ที่เทพธิดากระบี่ฟ้า นางสร้างด้วยปราณกระบี่เทพและพลังปั่นป่วนที่อยู่ในอัญมณีสร้างโลก  ไม่มีนาง เย่ว์หยางที่ไม่สามารถควบคุมพลังได้ในตอนนั้นคงไม่มีทางสร้างมังกรพิรุณได้สำเร็จเหมือนอย่างทุกวันนี้แน่นอน

แม้ว่าสามารถผลิตสร้างมันขึ้นมาได้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่มันจะมีความสำเร็จไปถึงระดับสุดยอดเทพมังกรหรือมนุษย์ได้

โฮกกกกกก!

มังกรพิรุณบินทะยานภายใต้การนำทางของเจตจำนงของเย่ว์หยางทำให้มันทะยานก้าวหน้าอย่างบ้าคลั่ง

มังกรทะยานฟ้าสั่นสะเทือนไปทั้งโลก

สำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวงไม่อาจข่มยับยั้งมังกรพิรุณและเย่ว์หยางที่บินได้อย่างรวดเร็วได้อีกต่อไป   ภายใต้การผนึกพลังมังกรและมนุษย์มีพลังทะยานฟ้าที่มิติเวลามิอาจขวางกั้นได้

เมื่อเผชิญหน้ากับการรุกล้ำของมังกรพิรุณ เทพปีศาจเว่ยกวงซึ่งควบคุมร่างอวตารขนาดดวงดาวรู้สึกได้ถึงการมีอยู่และคุกคามของฝ่ายตรงข้ามได้ ถ้าเขาไม่มาที่ขุนเขาเหนือขุนเขา แต่เป็นที่หอคอยเหนือหอคอยของหุบเขามนุษย์ อย่างนั้นการใช้พลังผ่านร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงก็คงไม่ดีเท่ามังกรพิรุณขนาด 108 กิโลเมตร  แต่เมื่อมาถึงหุบเขาโลกธาตุ ไม่มีกฎสวรรค์คอยจำกัดพลังอย่างหุบเขามนุษย์ เว่ยกวงเหมือนปลาที่ได้น้ำ พลังทะยานขึ้นมากกว่าสิบเท่า ตรงกันข้ามกับมังกรพิรุณที่กลายเป็นเหมือนกับปลาไหลตัวน้อย!

“บึ้มมมม!

ท้องฟ้ามืดครึ้มอย่างรวดเร็ว

จากนั้นฝ่ามือของร่างอวตารทะลุออกมาจากท้องฟ้าและกดลงกับพื้น

เทพปีศาจเว่ยกวงอาศัยความได้เปรียบของร่างกายขนาดมหึมา ไม่ต้องการให้เย่ว์หยางและมังกรพิรุณมีโอกาสตั้งหลักได้ เขาจึงใช้ฝ่ามือขนาดใหญ่ตบลงกับพื้น

ท้องฟ้าแตกเป็นกระจายจากการถูกโจมตีด้วยความเร็วสูง  ประกายไฟเผาไหม้จนมิอาจใช้ดวงตามองได้  กระแสอากาศไหลรุนแรงยิ่งกว่าพายุพัดเป็นร้อยเท่า แรงระเบิดกระจายออกจากศูนย์กลางกวาดออกไปรอบด้านกินพื้นที่ใหญ่หลายร้อยกิโลเมตร

ฝ่ามือของร่างอวตารกดลงมายังไม่ทันถึงพื้น พื้นดินก็บิดเบี้ยวแตกระเบิดกระจาย

ยอดเขาโค่นถล่ม

เขาหินทะลายราบลงกับพื้น

ต้นไม้ใหญ่ถูกถอนรากถอนโคน พื้นที่ป่าขนาดใหญ่หายไปไม่เหลือ

แม่น้ำและทะเลสาบระเบิดกระจายเป็นฝอยนับล้านหายไปในอากาศ

“โจมตี!

เย่ว์หยางผู้ต่อสู้ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับมังกรพิรุณ มีประสบการณ์ต่อสู้อย่างลำบากหนักหน่วงมานับไม่ถ้วน อารมณ์ของเขาดีขึ้น จิตใจแข็งแกร่งขึ้นราวกับเหล็กกล้า แต่เขาอดไม่ได้ที่จะถูกล่อลวงจากฉากภาพมหาโลกาวินาศข้างหน้านี้  เงาแห่งความตายนั้นมาพร้อมกับมือใหญ่โตครอบคลุมหัวใจของเย่ว์หยาง

ในช่วงวิกฤตที่สำคัญ เย่ว์หยางผู้มีเจตจำนงราชันย์ต่อต้านพลังกดดันที่อันตรายของเทพปีศาจเว่ยกวงที่ทำให้เกิดความกลัวอยู่ภายใน

มือยักษ์อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรมีพลังทำลายล้างโลก

เย่ว์หยางควบคุมมังกรพิรุณ

ไม่มีการล่าถอย

พายุอวกาศที่บดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่มังกรพิรุณบุกทะลวงเข้าปะทะ

ฝ่ามือของร่างอวตารภายใต้สำนึกเทพและพลังกดดันของเทพปีศาจเว่ยกวงครอบคลุมมังกรพิรุณอย่างมั่นคง เย่ว์หยางกัดฟันแน่นไม่ยอมแพ้  ควบคุมมังกรพิรุณตะลุยหาฝ่ามือยักษ์ร่างอวตารที่กวาดสร้างหลุมลึกขนาดใหญ่หลายร้อยกิโลเมตร ก่อนที่ฝ่ามือมหึมาจะตบลงกับพื้น

การสนองตอบของเทพปีศาจเว่ยกวงรวดเร็วเพียงไหน

สำนึกเทพของเขาตื่นเต้นเล็กน้อย

ฝ่ามือยักษ์ที่ตบลงอย่างหนักหน่วงบนพื้นทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในโลกได้ยกขึ้นมาอีกครั้งเตรียมเหยียดคลี่นิ้วเพื่อจับมังกรพิรุณไว้ในเงื้อมมือ

มังกรพิรุณแหวกว่ายอากาศอย่างดุเดือดในท่ามกลางคลื่นระเบิดอย่างบ้าคลั่งหลบหลีกการคว้าจับของร่างอวตาร

เทพปีศาจเว่ยกวงไม่ยินยอมพร้อมใจ เขากวาดมือไล่ตามเพื่อจับมังกรพิรุณ

เย่ว์หยางที่กระตือรือร้นสู้  ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ

วกมังกรพิรุณกลับไปสู้

ร่างที่เรียวยาวเชิดตัวขึ้นบนและพุ่งกลับไปยังด้านหลังเหมือนลูกศรคมกล้าแหวกอากาศพุ่งกลับมาทะลวงนิ้วหัวแม่มือของยักษ์อวตาร ในขณะที่เกิดการปะทะกัน หัวของมังกรนั้นเอนเอียงหลบหลีกแรงกระแทก และตัวมังกรเลื่อนเลื้อยผ่านหัวแม่มือร่างอวตาร ด้วยพลังแรงระเบิดในครั้งนี้ร่างของมังกรพิรุณยังพุ่งบินไปข้างหน้าต่อไป

นิ้วหัวแม่มือของร่างอวตารเทพปีศาจถูกหางมังกรกวาดโจมตีแตกร้าวที่ข้อต่อรุนแรง

เทพปีศาจเว่ยกวงยิ่งโมโหมากกว่าเดิม

เขาไม่คำนึงถึงอาการบาดเจ็บที่นิ้ว พยายามฝืนตัวไล่ล่าจับมังกรพิรุณให้ได้

เย่ว์หยางกลั่นพลังระเบิดดวงดาวเป็นเวลานานและพ่นออกมาจากปากมังกรพิรุณ พลังระเบิดถูกยิงอัดเข้าไปในรอยต่อที่แตกร้าวของหัวแม่มือร่างอวตาร แม้แต่ดวงดาวก็ยังระเบิดกระจายได้ นี่คือระเบิดที่ทรงพลังอย่างมิต้องสงสัย  ถ้าเย่ว์หยางใช้เพื่อต่อสู้กับจ้าวสุริยาหรือจีอู๋ลี่ ผลของมันก็จะไม่รุนแรงมากเกินไป ที่สำคัญพลังที่ควบกลั่นรวมตัวและความตั้งใจโจมตีแบบนี้เป็นการยากที่จะทำอันตรายศัตรูที่อยู่ห่างออกไปเป็นพันๆ ไมล์  ไม่ว่าจะมีประสิทธิภาพเพียงไรก็ช่วยไม่ได้  อย่างไรก็ตามอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงถึงจะว่องไวเพียงไร เป็นไปไม่ได้ที่ตัวประหลาดขนาดยักษ์จะหลบหนีพ้นการโจมตีของศัตรู

หัวแม่มือขนาดหลายสิบกิโลเมตรของร่างอวตาร อย่าว่าแต่เย่ว์หยางเลย แม้แต่คนตาบอดที่ยิงระเบิดดวงดาวได้ก็โจมตีถูกได้ง่าย

หลังจากพลังคลื่นระเบิดผ่านไป

หินทรายปลิวว่อนเต็มไปหมด

ฝุ่นธุลีกวาดไปทั่วพื้นและกระจายบดบังทั้งพื้นฟ้าและพื้นโลก

แต่เมื่อพายุกวาดฝุ่นสลายไป เย่ว์หยางพบว่า หัวแม่มือของร่างอวตารที่ควรจะหัก ก็ยังคงอยู่ตรงหน้าเขา แม้ว่ารอยร้าวรูปใยแมงมุมจะขยายเพิ่มจากข้อต่อนิ้ว แต่พลังระเบิดดวงดาวไม่สามารถทำลายนิ้วหัวแม่มือของร่างอวตารที่โดนหางมังกรพิรุณฟาดใส่

นี่เป็นเพียงหัวแม่มือของร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวง... หากเขาต้องการโค่นล้มร่างอวตารของเว่ยกวงให้ได้ พลังแค่นี้นับว่ายังอ่อนด้อยเกินไป

ร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงใช้มือทั้งสองจับมังกรพิรุณให้ได้

มือทั้งสองงอเข้าหากันป้องล้อมมังกรพิรุณมาที่อกของเขา

เย่ว์หยางตะลึงนิ่ง

เหมือนรูปปั้น

ขณะที่ร่างอวตารจับร่างของมังกรพิรุณและเตรียมพร้อมจะทำลาย ทันใดนั้นมีเสียงดังราวสายฟ้าฟาดมาจากหัวของมังกรพิรุณ มันพ่นปราณกระบี่สีแดงฉีกสวรรค์และทำลายดิน

กระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียนทำให้ท้องฟ้าเรืองแสงสีแดงเต็มไปด้วยพลังปราณกระบี่สดใส พลังสังหารและเจตจำนงราชันย์ของเย่ว์หยางเล็งตรงไปที่อวตารทันที ปราณกระบี่ตัดมิติและเวลา  ก่อนที่สำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวงจะทันได้ตอบสนอง พลังกวาดผ่านเป้าหมายที่เย่ว์หยางเล็งและโจมตีสร้างบาดแผลให้กับหัวแม่มือครั้งแล้วครั้งเล่า

หัวแม่มือแตกหักออกเป็นสองส่วนตรงบริเวณข้อต่อ

เย่ว์หยางฉวยโอกาสดิ้นหลุดเป็นอิสระจากการจับเย่ว์หยาง มังกรที่ผสานร่างกับมนุษย์ทะยานขึ้นท้องฟ้าด้วยความเร็วสุดชีวิตไปยังส่วนหัวของร่างอวตารที่ยังมองไม่เห็น

ร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงอ้าปากยักษ์ที่น่ากลัวเหมือนจะกลืนมังกรพิรุณน้อยที่ยาวเพียง 108 กิโลเมตร

มังกรพิรุณพยายามเปลี่ยนทิศทางทะยานร่างไปข้างหน้า ปรับเปลี่ยนเส้นทางอย่างไม่หยุดยั้งโดยไม่ยอมย้อนหลัง

สู้อย่างขลาดเขลาไม่ใช่เย่ว์หยาง

ในที่สุดก่อนที่ฟันยักษ์น่ากลัวจะปิดลง มังกรพิรุณก็ทะลุผ่านริมฝีปากศิลาออกมาได้

หน้าของร่างยักษ์อวตารมีหลุมรอยแตกลึกเป็นร้อยเป็นพัน

จมูกของร่างอวตารถูกมังกรพิรุณยิงหินขนาดใหญ่เข้าใส่

มีตัวคั่นสะพานยาวที่จมูก

มังกรพิรุณโจมตีที่หว่างคิ้วของร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวง และยิงปราณกระบี่ส้มเฉิงหงกวนเพื่อทำลายทุกอย่าง

แม้ว่าเทพปีศาจเว่ยกวงจะมีพลังมากกว่า แต่ไม่ใช่ง่ายที่จะโจมตีมังกรพิรุณที่พุ่งเข้ามาใกล้พร้อมกับปราณกระบี่ส้มอย่างแม่นยำ การบาดเจ็บผิวเผินของร่างอวตารนั้นไม่ร้ายแรง แต่พลังปราณกระบี่บริสุทธิ์ทะลวงทะลุแนวป้องกันจู่โจมใส่สำนึกเทพซึ่งซ่อนอยู่ในร่างอวตารโดยตรง

หลังจากถูกโจมตีบ้างเทพปีศาจเว่ยกวงรู้สึกอับอายที่เป็นฝ่ายถูกโจมตี เขาใช้มือตบที่หน้าร่างอวตารด้วยความรำคาญ

ศิลาที่แตกรวมอยู่ในมือของมัน

มังกรพิรุณและเย่ว์หยางหนีอย่างร้อนรน  ร่างอวตารคำรามลั่นและเป่าก้อนหินที่รวมอยู่ในมือพ่นใส่มังกรพิรุณในท้องฟ้าราวกับดาวตก

เย่ว์หยางยืดร่างมังกรพิรุณตรงและควบคุมมังกรให้ดำดิ่งศีรษะลง

เพื่อลดพื้นที่ระดมยิง

เทพปีศาจเว่ยกวงไม่ต้องการปล่อยให้เขาหลบหนีไปได้  ใช้สำนึกเทพกักมังกรพิรุณซึ่งมีความยาวถึง 108 กิโลเมตร แม้ว่าร่างกายของมันจะเพรียวยาว แต่ก็ยังเป็นเป้าที่ใหญ่ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหนีจากอุกกาบาตที่เทพปีศาจเว่ยกวงนำ!  ที่สำคัญยิ่งกว่าร่างอวตารได้เหยียดแขนออกมารอไว้แล้ว เมื่อเย่ว์หยางหนีพ้นจากระยะฝนดาวตก แขนนั้นจะกวาดกลับมาจับเขาไว้ได้

“ฝนดาวตกช่างน่ากลัว!  แม้ว่าเย่ว์หยางจะปากแข็ง แต่เขารู้ว่าการถูกอุกกาบาตชนนั้นไม่สบายดีอย่างแน่นอน มีแนวโน้มว่าจะทำให้ร่างอวตารจับเขาได้สำเร็จ

“ปัง ปัง!

เย่ว์หยางควบคุมมังกรพิรุณพุ่งผ่านฝนหินดาวตก

ถ้ามีทางเลือกที่สอง เขาจะไม่ยอมเสี่ยง

น่าเสียดาย นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด

แม้ว่าเขาจะสามารถหลบหลีกจากกลุ่มอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดและเร็วที่สุดได้  อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มีอุกกาบาตลูกค่อนข้างเล็กที่เขามิอาจเลือกหลบได้

อุกกาบาตนับไม่ถ้วนชนใส่หัวมังกรพิรุณ ด้านหลังอุกกาบาตรขนาดเล็กมีอุกกาบาตใหญ่จำนวนมากที่เฉียดปีกมังกรพิรุณ และมันทะยานฝ่าสายฝนอุกกาบาตเบี่ยงซ้ายบ้างหลบขวาบ้าง  หากความตั้งใจของเย่ว์หยางมั่นคงเพียงพอแต่มีสมาธิต่ำ เกรงว่าเขาคงถูกฝนอุกกาบาตขนาดใหญ่ฝังเขาทั้งเป็นไปแล้ว

ที่มีพลังมากกว่าฝนอุกกาบาตก็คือนิ้วหัวแม่มือยักษ์ที่หักพัง

ความยาวยี่สิบกิโลเมตรเทียบได้กับดาวเคราะห์น้อย

เมื่อมันกระแทกพื้นอย่างรุนแรง

ทุกอย่างที่อยู่บนพื้นสลายหายไป

แรงระเบิดที่เกิดขึ้นส่งผลต่อมังกรพิรุณและยิงฝนอุกกาบาตขึ้นท้องฟ้า.... มังกรพิรุณและเย่ว์หยางถูกกระหนาบระหว่างสองพลังทำลายล้าง เริ่มเคลื่อนไหวอย่างยากลำบากโดยไม่ตั้งใจ  เขาเพิ่งหลบพ้นจากร่างอวตารของเทพปีศาจเว่ยกวงอยู่หยกๆ  แต่ตอนนี้กลับมีแรงระเบิดกวาดใส่เขา

เทพปีศาจเว่ยกวงยินดีที่เห็นว่าชิ้นส่วนจากร่างอวตารรุมกระหนาบโจมตีมังกรพิรุณร่วมกับฝนอุกกาบาต

เพียงแค่ใช้พลังเทพบดขยี้อัดใส่กลุ่มหินนี้

จากนั้นศัตรูที่น่ารังเกียจนี้

จะหายไป

อุกกาบาตมากมายแผ่ขยายกลับยิงมาชนร่างใหญ่อวตาร สำหรับเรื่องนี้เทพปีศาจเว่ยกวงเพิกเฉย ความคิดทั้งหมดของเขาอยู่ที่มังกรพิรุณและเย่ว์หยาง

อุกกาบาตก้อนหนึ่งพุ่งชนกระหม่อมของร่างอวตาร

ตอนแรกเทพปีศาจเว่ยกวงคิดว่าเป็นฝนดาวตกที่พุ่งกระจายออกมา เขาจึงไม่สนใจ

อย่างไรก็ตามอุกกาบาตทั้งหลายย้อนกลับมาด้วยความเร็วมากขึ้น

มีหินอุกกาบาตก้อนหนึ่งพุ่งใส่กระหม่อมของร่างอวตาร

ร่างอวตารกำมือแน่นและตระหนักว่านั่นเป็นพลังที่โจมตีตัวของเขาเอง  ศีรษะของหันไปมองท้องฟ้าไกล เป็นครั้งแรกที่สำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวงพบเห็นดวงดาวสว่างสุกสกาวในท้องฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มดาวนักษัตรสิบราศีและดวงดาวลึกลับอื่นที่ไม่รู้จักทั้งที่เห็นและไม่เห็นเชื่อมโยงกันอยู่ในท้องฟ้า อุกกาบาตที่ลุกไหม้เผาฝ่ามือของเทพปีศาจเว่ยกวงเป็นฝีมือของเย่ว์หยางที่เหมือนกับผีสิงในร่างมังกรพิรุณ

หมู่ดาวสิบสองนักกษัตรในท้องฟ้าดูเหมือนจะโคจรช้าลง

ดวงดาวเหล่านี้ขยับขับเคลื่อนไปจุดหนึ่ง

พลังดวงดาวก็เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งจุด

เมื่อกลุ่มดาวราชสีห์โคจรมาใกล้แนวศีรษะที่ด้านบนท้องฟ้า สำนึกเทพของเทพปีศาจเว่ยกวงพบว่ามีกลุ่มแสงกำลังยิงมาหาเขาด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึง

สำนึกเทพแผ่ขยายออกไปไกล และกระตุ้นกลุ่มแสงที่น่ากลัว เทพปีศาจเว่ยกวงประหลาดใจที่พบว่ากลุ่มแสงนั้นกลายเป็นอุกกาบาตพุ่งออกมาจากขุนเขาเหนือขุน แห่งหุบเขาโลกธาตุ กลุ่มแสงนั้นได้รับผลจากการถูกเรียกมา ความเร็วจะเพิ่มขึ้นโดยอาศัยพลังจากกลุ่มดาวราชสีห์สนับสนุน  พอเข้าระยะพันกิโลเมตรก็เริ่มเร่งความเร็วกลายเป็นฝนดาวตกที่น่ากลัว

ถ้ามีกลุ่มดาวตกเพียงไม่กี่ร้อยลูก เทพปีศาจเว่ยกวง

อาจไม่สนใจ

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีดาวตกร่วงลงมาโดยพลังสนับสนุนของกลุ่มดาวราชสีห์ แม้พลังจะไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์  แต่ก็มีจำนวนมากพอจะฝังเขาได้ร้อยเท่า

เจ้าเด็กนี่เพิ่งแทงปราณกระบี่ในหว่างคิ้วของเขา แต่ทำเครื่องหมายโจมตีบนศีรษะเขา?

เจ้าเด็กนี่ยังไม่เข้าสู่ระดับเทพ แต่หลอกสำนึกตรวจสอบ และเรียกพลังฝนดาวตกได้อย่างไร

ยิ่งกว่านั้นยังมีฝนดาวตกเป็นจำนวนมาก

ฝนดาวตกทั้งหมดตกลงบนขุนเขาเหนือขุนเขา  เขาเกรงว่าขุนเขาเหนือขุนเขาจะถูกทำลาย!  เจ้าเด็กนี่บ้าไปแล้วหรือเปล่า?  หรือว่าเขารู้ว่า ตัวเขาไร้เทียมทานจึงล่อลวงให้เขาถูกหลอกจากนั้นตนเองก็ลงมืออย่างบ้าระห่ำหรือเปล่า?

เทพปีศาจเว่ยกวงขยายสำนึกเทพออกไปพบว่าฝนดาวตกถูกเรียกมาโดยพลังกลุ่มดาวราชสีห์ เขาไม่รู้ว่ามีดาวตกมากกี่ล้านลูก

ไร้ขอบเขตที่สิ้นสุด

โลกจะถล่มทลายอย่างแท้จริง!

 

8 ความคิดเห็น:

CHANTANA กล่าวว่า...

จบเร็วจัง

Lazykuma กล่าวว่า...

เจอบอสไวจัดคงไม่จบง่ายหรอกมั้ง

Deils(of)darK กล่าวว่า...

ขอบคุณคนแปลครับ แต่แอบติดใจกับคนเขียนทำไมเปิดตัวบอสมารัวๆจัง
น่าจะเขียนให้จบไปที่ละอีเว้น เข้าใจว่าทามไลน์เดียวกัน เป็นแผนการของตำหนักกลาง

Unknown กล่าวว่า...

ลูกกะจ๊อกบอสอย่าโหดนัก เหลือพื้นที่ให้บอสตัวหลังๆได้โชว์มั่ง มาที่ยังกะดาวเคราะห์น้อย อีกหน่อยไม่ใหญ่เท่ากาแลกซี่เลยหรอไง

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

ชอบอมเค กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

หมดโปรวันล่ะสองตอนแล้วหรอ

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น