วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1262 เจ้าตายแล้ว!

 

ตอนที่  1262  เจ้าตายแล้ว!

“ระดับเทพ”  บุรุษหนุ่มผู้ดื้อด้านมองไปที่มังกรสองหัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่งหลงผู้หวาดกลัวร้องลั่นขวัญกระเจิง เขารู้สึกขำ “ขอแสดงความยินดี พวกเจ้าตอแยนักรบระดับเทพผู้ทรงพลังเข้าให้แล้ว  พวกเจ้าโชคดีจริงๆ!  นอกจากนี้ยังเป็นผู้ที่พวกเจ้าทุกคนมองว่าเป็นสวะ  พวกเจ้ามันตาต่ำเหมือนตาสุนัข!  ทำไมหอทงเทียนจะไม่มีสุดยอดนักสู้เล่า? ตั้งแต่ยุคโบราณกาลทวีปมังกรทะยาน บันไดสวรรค์และแดนปีศาจมักจะกำเนิดนักสู้แข็งแกร่งขึ้นมาเป็นจำนวนมาก จักรพรรดิอวี้เมื่อหกพันปีก่อน นางพญาผู้พิชิตเมื่อหมื่นปีก่อน  จากนั้นก็ผลักดันนักสู้ขึ้นมานับไม่ถ้วน เป็นเพราะเจ้าพวกยอดฝีมือทำเรื่องราวน่าอายที่ผู้คนไม่อาจเห็นและเข่นฆ่าผู้คนมากมาย  พวกมันมีคุณสมบัติจะตัดสินคนอื่นหรือ?”

 

บุรุษหนุ่มผู้ดื้อด้านแค่นเสียงเยาะเย้ยคนเผ่ามังกรฟ้า

น่าเสียดาย มีแต่จักรพรรดินีราตรี

นักสู้ระดับราชาเผ่ามังกรฟ้ามัวแต่ป้องกันตัวเอง เขาไม่มีเวลาโต้เถียงกับบุรุษหนุ่มนั่น ได้แต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

ปีศาจหมีดำและปีศาจหมูป่าแห่งเผ่าปีศาจทมิฬก็หวาดกลัวเช่นกัน และพวกเขาดูแตกต่างจากบุรุษหนุ่มดื้อรั้นอย่างสิ้นเชิง  พวกเขาปรับเปลี่ยนตำแหน่งเงียบๆ ขยับตัวไปที่ขอบรอบนอกในขณะที่คนอื่นไม่สนใจ เขาไม่ยินดีตอแยจักรพรรดินีราตรีผู้ปรากฏตัวกะทันหันแน่

ยิ่งไปกว่านั้นด้วยพลังปีศาจระดับราชาของทั้งสองคนพวกเขาไม่อาจตอแยพลังเทพที่แฝงไปด้วยเจตจำนงราชันย์ได้

พวกเขาเห็นซ่างหลงถูกจักรพรรดินีราตรีฆ่าตายได้ในทันที

หรือข่งหลงที่เพิ่งหลบหนีไป คาดว่าได้เปรียบเล็กน้อย แต่คาดว่าระยะไม่ห่างกันมาก

ถ้าเขาเป็นผู้นำเผ่ามังกรฟ้า มังกรสองหัวกู่อั๋งพวกเขาคงไม่มีโอกาสชนะ  พวกเขาบังอาจตอแยจักรพรรดินีราตรีที่มีพลังระดับเทพแท้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าระหว่างจักรพรรดินีราตรีกับจักรพรรดิทองใครอ่อนแอ ใครแข็งแกร่งมากกว่า แต่อย่างน้อยที่แน่นอนคือทั้งสองสามารถฆ่าพวกเขาได้ทันที

“เป็นระดับเทพจริงๆ”  ปีศาจเก้าหัวแห่งเผ่าเก้าหัวยังมีท่าทีใจเย็นและวิเคราะห์อย่างสบายๆ  “พลังเทพผสานอยู่ในเจตจำนงราชันย์พลังกฎสวรรค์ที่สร้างขึ้นจึงมีความสำคัญมาก  แต่เป็นไปได้ว่านางเพิ่งยกระดับเป็นระดับเทพในเวลาไม่นาน ประกายเทพยังกลั่นตัวไม่สมบูรณ์ การควบคุมพลังเทพจึงขาดความชำนาญเล็กน้อย  แน่นอนว่าพลังเทพรวมกับพลังของดวงดาว น่าชื่นชม มันสวยงามและส่องประกายสง่างาม หากมีเวลาแล้วจักรพรรดินีราตรีจะกลายเป็นสุดยอดนักสู้ชั้นเทพที่เปล่งประกายได้แม้แต่ในแดนสวรรค์บน”

เมื่อเขาพูดคำนี้ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนตกตะลึง

บุรุษหนุ่มผู้ดื้อด้าน มังกรสองหัวและราชินีว่านกูซูต่างประหลาดใจกันทุกคน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งราชินีว่านกูซูแห่งเผ่ามังกรฟ้ายิ่งขุ่นเคืองมากขึ้น  คิดว่าเจ้าเป็นตัวอะไร ถึงกับนั่งวิพากษ์วิจารณ์นักสู้ระดับเทพ  เจ้ามีคุณสมบัติพอหรือ?

ถ้านี่เป็นสิ่งที่จักรพรรดิอสูรของเจ้าพูดก็ยังพอฟังได้

แต่เจ้าเป็นแค่เผ่าเก้าหัวเล็กๆ มีกันเพียงห้าคนไม่ใช่สุดยอดฝีมือ ยังกล้าพูดออกมาอีกหรือ?

อย่างไรก็ตามมังกรสองหัวมีความยินดีเกิดขึ้นในใจของเขา  เผ่ามังกรฟ้าของเขาตอแยโทสะจักรพรรดินีราตรีเพราะคำพูดของเขา ถ้าในช่วงวิกฤตนี้ เผ่าเก้าหัวประสบความสำเร็จในการถ่ายโอนความเกลียดชังและดึงดูดพลังโจมตีไปที่กลุ่มเขาย่อมเป็นการดีกว่า

เผ่าอสูรเก้าหัวที่อยู่ใต้ต้นไม้นั้นทรงพลังมาก

แม้ว่าจักรพรรดินีราตรีไม่ต้องการจะปล่อยเผ่ามังกรฟ้า แต่เป้าหมายและพลังโจมตีจะกระจัดกระจายออกไป

มังกรสองหัวไม่รอให้จักรพรรดินีราตรีได้ยิน เขายิงพลังไปที่คนเผ่าเก้าหัวทันที

“จะเรียกจื้อจุนก็ไม่ได้ เพราะหอทงเทียนมีจื้อจุนเพียงคนเดียว” เสียงที่ดังไพเราะอยู่ในหมู่ดวงดาวดังขึ้นเหมือนฝัน ไม่ได้โจมตี ไม่ได้โกรธ ดูเหมือนนางจะยิ้มขอบคุณคำวิจารณ์ของปีศาจเก้าหัว  “ยังมีข้อบกพร่องมากอยู่เหมือนกัน และข้าต้องการเวลาสงบใจเพื่อควบกลั่นประกายเทพ  แต่ช่างน่าเสียดาย เวลาไม่ถึงสองเดือน ข้าไม่มีเวลาพอหลังจากตื่นจากภวังค์ก็ต้องเข้าสู่สนามรบแล้ว  มิฉะนั้นคงไม่ยอมให้ใครมารังแกถึงหน้าประตูบ้านและทนฟังอยู่ได้”

“ยอดเยี่ยมมาก เพียงเวลาสองเดือนก็มีพลังเทพอย่างนั้นได้!  คนเผ่าเก้าหัวประทับใจ

“.......”  ราชินีว่านกูซูและมังกรสองหัวกู่อั๋งและพวกพูดไม่ออก

ถ้าบอกว่านางอ้วน นางอาจแค่นเสียงหายใจแรง

แต่เขาเป็นปีศาจเก้าหัวไม่มีแม้แต่พลังเทพ  ทำไมถึงกล้าทำแบบนี้?

ส่วนจักรพรรดินีราตรีก็ถ่อมตัว อารมณ์ดีอยู่ได้ ทั้งพยักหน้าพอใจครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่าเป็นเจ้านายที่กำลังดูตลก?  ถ้าเขาฝีมือยังไม่ถึงระดับนั้น เขายังกล้าพูดเสียงดังอีกหรือ?

ผู้อยู่ในเหตุการณ์มีเพียงข่งหลงนักสู้ราชาเผ่ามังกรฟ้าที่ไม่สนใจเรื่องนี้ ตั้งหน้าตั้งตาหนีไปให้พ้นจากบันไดสวรรค์ชั้นห้า

ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตาม ก็ไม่อาจเปลี่ยนความจริงที่ว่าเขาเพิ่งเย้ยหยันเทพ!

นอกจากเผ่นหนีแล้ว

เขาคิดหาวิธีช่วยชีวิตตัวเองไม่ได้

เขาไม่รู้ว่าขอบฟ้าไกลแค่ไหน แต่มีเสียงที่ส่งออกมาโดยสำนึกเทพผ่านพื้นที่ระยะไกล ได้ยินชัดราวกับดังขึ้นในโสตประสาทของเขาอย่างชัดเจน  “ข้าตาเฒ่าผู้ไม่ล้ม ไม่พ่าย ไร้ความรู้สึก  ยินดีที่ได้พบกับจื้อจุนระดับเทพแห่งบันไดสวรรค์ เจ้าได้เลื่อนเป็นระดับเทพ ที่บันไดสวรรค์ชั้นที่สิบ ข้านึกถึงองค์หญิงซิงกวง (ประกายดาว)  แทบจะทนรอไม่ไหวที่จะได้พบเจ้าผู้เลื่อนเป็นระดับเทพ”

ขณะที่สำนึกเทพนี้ถูกส่งมา

ข่งหลง, กู่อั๋งและราชินีว่านกูซูและพวกค่อยมีกำลังใจ

ราชันย์ไร้ใจหัวหน้าผู้อาวุโสแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์กำลังจะลงมือ  ตอนนี้นักสู้ระดับเทพอย่างจักรพรรดินีราตรีคงหาพวกเขาไม่พบอีกต่อไป

แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินชื่อราชันย์ไร้ใจ.. แต่ไม่เคยได้ยินคนอ้างว่าไม่ล้ม ไม่พ่าย.. เขาอาจมั่นใจว่าเขาไม่ล้มเหลว ไม่พ่ายแพ้ยอดฝีมือระดับเดียวกับราชันย์ไร้ใจ แม้ว่าจะด้อยกว่าเล็กน้อย  แต่เชื่อได้ว่าไม่น่ามีอะไรพลาด  ตอนนี้นักสู้ระดับเทพสามคนจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์รายล้อมจักรพรรดินีราตรีแล้ว นางจะมีโอกาสชนะได้อย่างไร?

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจักรพรรดินีราตรีเพิ่งเลื่อนเป็นระดับเทพมาใหม่ๆ ไม่ถึงสองเดือน

“สหายเก่ามาถึง เย่-อวี่จะไม่น้อมพบได้อย่างไร ความเสียใจขององค์หญิงซิงกวงในเวลานั้น ข้าเย่-อวี่ที่เป็นผู้เยาว์รุ่นหลังไม่เคยลืม และวันนี้เป็นวันดี เย่อวี่จะต้องร่วมสังสรรค์กับสหายเก่าเป็นการให้เกียรติอาคันตุกะจากแดนสวรรค์”  ภายในกลุ่มดาวในท้องฟ้าพวกเขาได้ยินเสียงไพเราะกังวาน แต่ต่อให้คนหูหนวกก็ฟังออกถึงความโกรธของเจ้าของเสียงที่แฝงตัวซ่อนอยู่ในนั้น  แม้คำพูดจะดูสุภาพผิดธรรมดา แต่คนโง่ก็รู้สึกได้ถึงกระแสความแค้นที่แฝงอยู่ในนั้นมิอาจเปลี่ยนแปลงได้

เพราะความโกรธจัดดวงดาวที่อยู่ภายใต้พลังเทพควบคุมจึงระเบิดทันที

แต่เดิมร่างงดงามที่มองไม่เห็น

กลายเป็นอุกกาบาตแหวกออกจากมิติเวลาของยามราตรีพุ่งแหวกความว่างเปล่าออกมา และหายไปต่อหน้าผู้คน

รอจนจักรพรรดินีราตรีผู้ถูกเชิญให้ไปที่สนามรบบันไดสวรรค์ชั้นที่สิบ ข่งหลงจึงร่วงตกลงพื้นอย่างช่วยไม่ได้  เขาเหมือนกับเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ ทั้งร่างหลั่งเหงื่อพรั่งพรูไม่หยุด

เขาผ่อนคลายหลังจากที่หวาดกลัวทันที  ข่งหลงไม่สามารถควบคุมตนเองให้อยู่ในร่างมนุษย์ได้อีกต่อไป เขากลายร่างเป็นมังกรเพลิงแดงตัวยาวขนาดสามร้อยเมตร

เขาอ้าปากใหญ่หอบหายใจ

ถ้าจ้าวภูผา ราชันย์ไร้พ่าย ราชันย์ไร้ใจ สามสุดยอดผู้อาวุโสตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวช้าอีกเล็กน้อย คาดว่าเขาก็คงตายสูญหายไปในอากาศเหมือนอย่างซ่างหลงสหายของเขาแน่นอนว่าจักรพรรดินีราตรีนักสู้ระดับเทพนี้ออกไปแล้ว  หลายคนคืนความมั่นใจกลับมา และกล้าที่จะอยู่ต่อที่ชายขอบแท่นบูชายัญรอรับส่วนแบ่ง 1% ของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ

ถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไร

เป็นไปไม่ได้ที่จักรพรรดินีราตรีจะกลับมาได้

นางตายแล้ว

ในฐานะผู้เลื่อนเป็นนักสู้ระดับเทพใหม่ ภายใต้การรุมล้อมของจ้าวภูผา ราชันย์ไร้พ่าย ราชันย์ไร้ใจนักสู้ระดับเทพสามารถสู้ได้ก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว นั่นเป็นฝันหวานของเด็กสามขวบชัดๆ

ศัตรูแข็งแกร่งถูกกำหนดชะตาแล้วว่าต้องตาย ต่อให้แข็งแกร่ง มีอะไรต้องกลัว?

“โฮกกก โฮกกกก!  ข่งหลงคำรามขึ้นท้องฟ้าหวังว่าจะฟื้นฟูพลังบ้างเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เจ้าเด็กเผ่าปีศาจที่อยู่ด้านตรงข้ามดูถูกเหยียดหยามเขาต่อไป

“ไม่ต้องมองข้า  ข้าจะไม่ลงมือกับเจ้า!  บุรุษดื้อด้านหันหลังหนีไม่มองข่งหลงอีก

“???” ข่งหลงงงไม่เข้าใจเจ้าเด็กนี่ต้องการทะเลาะด้วยไม่ใช่หรือ

เกิดอะไรขึ้น?

เจ้าเด็กเผ่าปีศาจนี่ยังจะมองเขาหาอะไรอีก

จักรพรรดินีราตรีไปแล้ว  เจ้าเด็กปีศาจนี่เห็นสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายเผ่ามังกรฟ้าได้เปรียบ เขาจึงละทิ้งความเย่อหยิ่งหรือ?

มังกรสองหัวกู่อั๋งและราชินีว่านกูซูก็มีสีหน้าทึ่งประหลาดใจเช่นกัน  ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ให้เจ้าเด็กปีศาจนี่โอนอ่อนผ่อนตาม เป็นไปได้หรือว่าเขากลัวปีศาจเฒ่าจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์?  ดังนั้นจึงไม่กล้าสร้างปัญหาอย่างนั้นหรือ?  ถ้าเป็นอย่างนี้ก็นับว่าดีมาก!  หากไม่มีเจ้าเด็กนี่ขวางกลาง หลังจากผ่านไปสามวัน เผ่ามังกรฟ้าจะได้รับส่วนแบ่งจากแดนล่มสลายแห่งทวยเทพถึง 5%

บุรุษหนุ่มผู้ดื้อด้านไม่หันหน้ามามอง

ดูเหมือนว่าอสรพิษเก้าหัวแห่งเผ่าเก้าหัวดูเหมือนค่อนข้างใจดีเป็นพิเศษ จึงเตือนเขา  “เขาไม่ทะเลาะกับเจ้า เพราะว่าเจ้าตายแล้ว!

“อะไรนะ?” ข่งหลงสับสน  เขาน่ะหรือตายแล้ว?  เขายังมีชีวิตอยู่!

วินาทีต่อมาหลังจากอสรพิษเก้าหัวพูดว่า เจ้าตายแล้ว

ข่งหลงพบว่าท้องของเขาบวมขึ้นด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ

ในที่สุดผิวมังกรก็ไม่สามารถทนต่อการขยายตัวอย่างบ้าคลั่งได้ มันระเบิดอย่างรุนแรง เศษเนื้อเศษอวัยวะภายในและเลือดกระจายอยู่เต็มท้องฟ้า

ยังไม่จบแค่นี้ ในท้องของข่งหลงยังมีดวงดาวที่น่ากลัวส่องประกายและขยายขนาดอย่างบ้าคลั่ง  ในพริบตาก็เติบโตขยายขนาดจากปลายเข็มเล็กจนมีขนาดสิบเมตร ร้อยเมตร หนึ่งกิโลเมตร จนใหญ่เต็มฟ้า เทียบกับหัวและหางสามร้อยเมตร ข่งหลงเหมือนกับมดน้อยที่โดนดวงดาวบดบัง ไม่สามารถแม้แต่จะตะโกนของความช่วยเหลือ  กลับถูกบดขยี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยความเจ็บปวด

ไม่มีสหายกล้าเข้ามาช่วย

ทุกคนเข้าใจความจริงอย่างหนึ่ง

ข่งหลงตายแล้ว

ไม่มีทางช่วยได้

ทุกคนรวมทั้งมังกรสองหัวผู้แข็งแกร่งที่สุดแห่งเผ่ามังกรฟ้าทะยานหนีออกห่างข่งหลงจนไกลขณะที่ร่างของเขาขยายขนาด

ไม่ทราบว่าดาวยักษ์แดงจะพองตัวได้ขนาดไหน แต่ในที่สุดก็เกิดการระเบิดใหญ่สะท้านฟ้าสะเทือนดิน

ข่งหลงไม่มีทางบินหนีได้

วิญญาณของเขาถูกทำลาย

แม้จะอยู่ในจุดสูงสุดของการระเบิดใหญ่ ศูนย์กลางของแรงระเบิดกลายเป็นหลุมดำเริ่มดูดกลืนสิ่งต่างๆ รวมทั้งวิญญาณที่แตกสลายของข่งหลงเขาไปในมิติแห่งใดไม่ทราบและถูกผนึกอยู่ในนั้นตลอดกลาล

“หนอนน้อยที่น่าสมเพช เจ้ายังเป็นราชาในแดนสวรรค์บนอยู่ดี!  บุรุษหนุ่มเผ่าปีศาจแค่นเสียงเยาะเย้ย  “เทพระบุไว้แล้วว่าต้องตาย เจ้ายังต้องการดิ้นรนมีชีวิตอยู่อีกหรือไร้เดียงสาจริงๆ!

“......”  ในหน้าของมังกรสองหัวมีสีหน้าน่าเกลียดอย่างยิ่ง  เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจักรพรรดินีราตรีก่อนออกไปไม่ลืมจะสังหารข่งหลง

ตอนนี้เขาสูญเสียสหายอีกคนหนึ่ง

เทียบกับเผ่าปีศาจทมิฬแล้ว เผ่าเก้าหัวยังดีกว่าเล็กน้อย

วันนี้ซวยอะไรอย่างนี้? สหายของตัวเขาตายได้อย่างไร? เผ่าเก้าหัวมีคนตั้งมากมาย และเผ่าปีศาจทมิฬก็เช่นกันโดยเฉพาะเจ้าเด็กดื้อด้านน่าเกลียด ทำไมถึงไม่มีใครฆ่าเขา?  มังกรสองหัวกู่อั๋งโกรธมากยิ่งขึ้น เขามองหาใครสักคนเพื่อระบายความโกรธ

เจ้าเด็กดื้อด้านเผ่าปีศาจจ้องมองเขาเยาะเย้ย สีหน้าเหมือนกับยั่วให้ตบ

เปลี่ยนเป็นเวลาปกติ มังกรสองหัวกู่อั๋งคงลงมือไปแล้ว

อย่างไรก็ตามตอนนี้

เขาต้องอดทน

เพราะฝ่ายตรงข้ามคือเผ่าเก้าหัวห้าคนไม่ได้มีเจตนาที่ดี..

4 ความคิดเห็น:

blakaros กล่าวว่า...

รูปประกอบโคตรเข้า

ซาเหร่อ กล่าวว่า...

เรื่องยากสุดของผู้แปล ผมว่า คงเป็นการหารูปให้เข้ากับชื่อตอนนี่แหละ 5555

oBABYVOXo กล่าวว่า...

1ต่อ3เลยหรอ นางจะไหวไหมเนี่ย

CHANTANA กล่าวว่า...

ชอบภาพปลากรอบ

แสดงความคิดเห็น