ตอนที่ 1308 บึ้ม สว่างจนตาพร่า
ด้านนอกบันไดสวรรค์
แท่นบูชายัญ
มังกรสองหัวกู่อั๋งและว่านกูซูแห่งเผ่ามังกรฟ้า และเผ่าเก้าหัวยังคงอยู่ไม่จากไป
แม้แต่ปีศาจหมูป่าและปีศาจหมีดำที่ดูเหมือนอ่อนแอทำตัวเหมือนคนบังเอิญผ่านมาก็ยังเงียบไม่พูดอะไรสักคำ พวกเขารู้ดีว่าสงครามคราวนี้ไม่ว่าตงฟางเจ้าตำหนักใหญ่กุนซืออันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางแดนสวรรค์ชนะ หรือเย่ว์ไตตันเด็กปาฏิหาริย์แห่งหอทงเทียนจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ก็ตาม นั่นไม่ใช่จุดสิ้นสุดที่ทำให้พวกเขาสามารถควบคุมและวิจารณ์อะไรได้
พวกเขาทำได้แต่รอผลอยู่เงียบๆ
รอฟังผล
จากนั้นก็จะเป็นผู้ชนะตามในที่สุด
เพราะตงฟางเคยสัญญากับทุกคนมาก่อน ตราบใดที่พวกเขาไม่ช่วยเหลือสนับสนุนนักรบหอทงเทียน จากนั้นทุกคนจะได้รับส่วนแบ่งสมบัติในแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ ตงฟางจะไม่ทำลายสัญญาก่อนและเผชิญหน้ากับพวกเขา ไม่มีใครยินดีปฏิเสธผลประโยชน์ที่เหมือนหล่นลงมาจากฟากฟ้าแบบนี้ ในกระบวนการต่อสู้ระหว่างพยัคฆ์สองตัวอย่างตงฟางและเย่ว์ไตตัน ตราบเท่าที่พวกเขายืนดูอยู่ข้างสนาม พวกเขาจะได้ผลกำไรบ้าง นี่เป็นการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ผ่อนคลายและสบายที่สุดในประวัติศาสตร์ของแดนสวรรค์
“ตงฟางถูกกำหนดให้ชนะ” ตอนนี้เทพสังหารถูว่านค่อยๆ ดึงทัศนคติที่เย่อหยิ่ง จองหองของนักสู้ระดับเทพกลับคืนมา นั่นเป็นเพราะมังกรปีศาจจากไปแล้ว ไม่มีใครใช้เท้าเหยียบหัวเขาได้อีก “ในเมื่อมังกรปีศาจให้การสนับสนุน เจ้าเด็กเย่ว์ไตตันนั่นอาจได้รับการช่วยเหลือได้ แต่มังกรปีศาจก้นยังไม่ทันหายร้อนก็ถูกชักนำไปหาจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ”
“ฮึ, ลูกพี่มังกรปีศาจจะไม่มีทางแพ้แน่นอน” เด็กหนุ่มหัวแข็งเถียงทันที
เขาเทิดทูนมังกรปีศาจอย่างมากจริงๆ
ถึงตอนนี้มีความคิดของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อผุดขึ้นมา
และดึงตัวมังกรปีศาจไป
เดิมทีเขาต้องการตามไปดูเช่นกัน
แต่ความเร็วของมังกรปีศาจนั้นรวดเร็วมาก ระยะห่างออกไปหลายพันลี้เขาแค่เทเลพอร์ตทะลุมิติไปในเวลาครู่เดียว เขาเร็วมากจนตัวเขาเองต้องรออยู่ที่นี่
และมังกรปีศาจยังมอบงานให้เขาก่อนจากไป ให้รอเย่ว์หยางกลับมา
มังกรปีศาจกระตุ้นเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง
ทำให้เขาต้องอยู่รอต่อไป
“ฮ่าฮ่า ข้าไม่ได้ถามถึงมังกรปีศาจ แต่ข้าแค่เปรียบดูคะแนนความสามารถทั้งสองด้าน เราต้องดูว่าคู่ต่อสู้เป็นใคร นั่นคือจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ! ที่สำคัญที่สุด มังกรปีศาจเพิ่งจะหลุดออกมาจากผนึกเพื่อช่วยเย่ว์ไตตัน และพลังต่อสู้ยังไม่ฟื้นฟูในสภาพที่ดีที่สุด ดังนั้นข้าคิดว่าศึกนี้...” มือสังหารถูเทพว่านทิ้งคำพูดครึ่งๆ กลางๆ ไว้ ที่เหลือทุกคนสามารถเข้าใจได้
“ถึงอย่างนั้นลูกพี่มังกรปีศาจก็จะไม่มีวันแพ้” คนเดียวในกลุ่มผู้ชมดู มีคนมั่นใจในมังกรปีศาจ และคาดว่าเป็นเด็กหนุ่มผู้ดึงดันผู้นี้
จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเป็นตัวอะไร
แต่มังกรปีศาจก็น่ากลัวเหมือนกัน
เปลี่ยนเป็นคนอื่นเล่า?
ในทุกคนไม่มีใครทำการเปรียบเทียบแต่อย่างใดเลย
พลังของมังกรปีศาจไม่ได้เป็นรองจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ แต่เขาเพิ่งออกมาจากผนึกและยังไม่ฟื้นฟูพลังจนสุดยอด เขาจะต้านทานจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อได้อย่างไร? แค่สู้เสมอยังทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ! สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ยังไม่ปรากฏตัวจนถึงตอนนี้ เขาจะโจมตีทำร้ายมังกรปีศาจในช่วงเวลาอันตรายที่สุดหรือไม่?
นี่เป็นไปได้
ไม่มีใครรับรองได้!
จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ เพิ่มเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนการบวกเลขหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง
ต่อให้มังกรปีศาจอยู่ในสภาพสูงสุดก็ยังไม่สามารถต้านทานได้ อย่าว่าแต่จะเข้ามาช่วยเย่ว์ไตตันในเวลานี้
ฝ่ายหอทงเทียนมีมังกรปีศาจเป็นหมากที่ใหญ่ที่สุด จักรพรรดิไร้เทียมทานได้รับการปลดปล่อยแล้ว เย่ว์ไตตันยังมีไพ่อะไรไว้เล่นอีก? หอทงเทียนมียอดฝีมือที่แท้จริงไม่กี่คน คาดว่าเย่ว์ไตตันยังต้องต่อสู้รับมือตงฟางเจ้าตำหนักใหญ่ ราชันย์ไร้ใจ ฯลฯ และใช้กลยุทธ์พวกมากเอาชัยก็เพียงพอ
ทันใดนั้นท้องฟ้ามีลำแสงฉายออกมาหลายสาย
กลุ่มแสงสีทองรวมกันเป็นหนึ่งราวกับสีเลือดสดใสจากนั้นเป็นสีเขียวเข้มมากขึ้นๆ จนดำเหมือนหมึก
หลังจากที่แสงเจิดจ้าหายไป อาคันตุกะที่มิได้รับเชิญลอยตัวลงมาที่แท่นบูชายัญและยืนอยู่ข้างหน้ามังกรสองหัว คนเผ่าเก้าหัว และเผ่าอสูร
ผู้นำเป็นบุรุษผู้หล่อเหลาสง่างาม สวมชุดยาวผ้าฝ้ายสีขาว สวมมงกุฎประดับมุกและหยกที่งดงาม ถ้าไม่ใช่ที่หน้าผากของเขามีเครื่องหมายพิเศษว่าเป็นนักสู้ชั้นเทพ จะเห็นได้ว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นมีบุคลิกที่โดดเด่น มองดูเหมือนเหมือนนักกวีหรือบัณฑิตผู้สง่างามมากกว่า
เมื่อเห็นผู้คนมองรอบด้าน คนผู้นี้เดินวนดูรอบๆ อย่างสุภาพดูเป็นงานเป็นการ
เสียงดังไพเราะเหมือนกับร้องเพลงดังขึ้น “ข้าถูอี้ ขอน้อมพบผู้อาวุโสจากแดนสวรรค์บน น้อมพบท่านอาและสหายทั้งหลายที่พบเจอโดยไม่คาดคิด วันนี้เป็นคำสั่งจากท่านพ่อจริงๆ ข้าจึงต้องทำตาม”
จากนั้นเขายกมือด้วยท่าทางเป็นกันเองและชี้ไปที่สองคนข้างหลังแนะนำตัว “ข้างหลังข้าถูอี้ คนหนึ่งคือสหายที่ข้าพบขณะเดินทางในแดนสวรรค์เขาเป็นนักสู้เผ่าแมลงสาบปีกแข็งยุคดึกดำบรรพ์ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นเผ่าพันธุ์แมลงที่แข็งแกร่งที่สุด แม้ว่าอายุจะน้อยกว่าแมลงสาบดึกดำบรรพ์เล็กน้อยแต่ก็เป็นตระกูลที่แข็งแกร่งมีชื่อเสียงคาดว่าผู้อาวุโสทั้งหลายคงได้ยินชื่อมาเช่นกัน”
นักรบเผ่าแมลงทั้งสองที่เขาแนะนำ
ตนหนึ่งเป็นร่างแมลงสีเขียวเข้มมีหนามขึ้นตามหลัง
แม้จะไม่ใช่เป็นนักสู้ระดับเทพแต่ความสามารถตามธรรมชาติของเผ่าพันธุ์ประกอบกับพิษที่น่ากลัว จึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใครๆ ดูถูกไม่ได้
อีกตนหนึ่งเป็นร่างมนุษย์แมลงเหมือนคลุมด้วยแผ่นเหล็กหนามีอักขระรูนแปลกประหลาดอยู่ด้านบน ดูก็รู้ว่าคนผู้นี้มีพลังป้องกันที่ดีเยี่ยม เกรงว่าพลังโจมตีธรรมดายากจะสั่นสะเทือนเขาได้
แน่นอนว่า เจ้าผู้นี้มีดวงตาดุร้ายกระหายเลือดคงไม่ได้มีทักษะพิเศษแค่ป้องกันตัวแน่นอน
เงี่ยงหนามแหลมบนแขนทั้งสองข้าง ที่ศอกและเข่ามีดาบแหลมคม นักสู้ที่ชื่อจางหู่นี้มีที่พลังโจมตีที่ทรงพลัง ขณะที่เขายืนนิ่งตัวตรงจะมีภาพลวงตาที่ใครก็ตามที่เห็นเขาจะรู้สึกว่าเมื่อเขาเริ่มโจมตี ก็จะโจมตีไม่มีหยุด ร่างกายของเขาอันตรายทุกสัดส่วน แม้เมื่อเขาอ้าปากก็มองเห็นฟันแหลมคม คนผู้นี้อันตรายยิ่งกว่าด้วงพิษจางหลางเสียอีก
เพียงมองปราดแรก เผ่ามังกรฟ้าและเผ่าเก้าหัวต่างมองหน้ากันและตัดสินได้ทันที
พวกเขามีความเห็นเหมือนกัน ไม่มีการคัดค้าน
“นอกจากนี้ ที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือน้องชายที่รักของข้า ถูซี!” ถูอี้ผู้รูปงามผายมือแนะนำคนสุดท้าย
“แต่ถูซื่อข่มขืนมารดาข้าให้กำเนิดลูกครึ่ง เข้มแข็งอย่างนั้นจะมีเจ้าเป็นพี่ชายได้อย่างไร” นักรบเกราะดำผู้สงบปากสงบคำตั้งแต่ลงมาปฏิเสธทันที น้ำเสียงที่แน่วแน่ของเขาดูไม่เหมือนพี่น้องตระกูลเดียวกัน แต่เหมือนศัตรูที่คิดแค้นและเตรียมแก้แค้นมากกว่า
“น้องชายยังอายุน้อยและมีนิสัยดื้อรั้น ข้าถูอี้ต้องขออภัย หวังว่าผู้อาวุโสจะไม่ถือสา” ถูอี้รูปงามดูเหมือนจะทำเป็นไม่ได้ยิน เขายิ้มอย่างสุภาพ
สำหรับการมาถึงของสี่คนนี้
มังกรสองหัวกู่อั๋งและว่านกูซูแห่งเผ่ามังกรฟ้าและคนอื่นๆ พากันตกตะลึง
แม้แต่สมาชิกเผ่าเก้าหัวหลายคนก็ยังกระซิบคุยกันปรึกษากันเป็นการส่วนตัว ดูเหมือนอาจมีข้อเสนอใหม่ๆ ในอนาคต
เทพสังหารถูว่านมีความสุขมากเช่นกัน หลานชายสองคนของเขามาถึงแล้ว รวมทั้งนักรบเผ่าแมลงปีกแข็ง นั่นหมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าทั้งชีวิตของเขามีพี่น้องที่น่าภูมิใจที่สุดอยู่ในแดนสวรรค์บน แดนสวรรค์ใช้ประโยชน์จากพี่ชายซึ่งเป็นผู้หนุนหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา มือสังหารเทพถูซื่อกำลังจะปรากฏตัวในสนามรบ ทันทีที่พี่ใหญ่ปรากฏตัวขึ้น อย่าว่าแต่เผ่ามังกรฟ้าและเผ่าอสูรดำที่น่ากลัว ต่อให้จักรพรรดิอสูรหนุนหลังเผ่าเก้าหัว ก็อย่าหวังว่าพวกเขาจะได้เปรียบ
“พี่ใหญ่ตัดสินใจลงมือเองเชียวหรือ? โอว จะฆ่าลูกไก่ไยต้องใช้มีดฆ่าโค แค่มีข้าถูว่านคนเดียวก็เพียงพอแล้ว พี่ใหญ่ไม่ต้องลำบากลงมือเลย!” เทพสังหารถูว่านเชิดหน้ามองดูพวกเผ่ามังกรฟ้า เผ่าอสูรดำและเผ่าเก้าหัว
“บิดาข้าตั้งใจมาที่นี่ แต่เขามีธุระเรื่องอื่น เขาส่งผู้เยาว์มาพบพวกท่านเหล่าผู้อาวุโสแทน” ถูอี้ไม่เพียงถ่อมตนเท่านั้น เขายังสุภาพอีกด้วย
“ก็ได้ ก็ได้ ฮ่าฮ่า!” ถูว่านหัวเราะลั่นปีติยินดีเต็มหัวใจ
“แต่ยังมีมดแมลงสาบอีกสองสามตัวที่บังอาจโอ้อวดตนเอง น่าขันเป็นบ้า!” เด็กหนุ่มหัวดื้อผู้ไม่รู้จักความกลัวมาตลอดชีวิต ยังกล้าเถียง และเขาเป็นเพียงคนเดียว
“เจ้าบังอาจมาก!” จางหู่ตาแดงด้วยความโกรธ
ร่างของเขาเปล่งรังสีฆ่าฟันทันที
ถ้าไม่ใช่เพราะถูอี้ห้ามไว้เกรงว่าเขาคงวิ่งเข้าไปฆ่าแล้ว
เด็กหนุ่มปากกล้าทำเป็นไม่ชายตามองเขาแกล้งเอามือแคะหูเลียนแบบมังกรปีศาจ “ให้กำเนิดคนแบบเจ้า ถ้าไม่เคยทุบตีมารดาเจ้าก็นับว่าใจดีมากพอแล้ว” จางหู่โกรธจัดจนปอดแทบระเบิด เขาอ้อมตัวถูอี้ไปได้แต่ก็ยังถูกถูว่านขวางเอาไว้ มิฉะนั้นเขาคงได้สู้กับเจ้าเด็กปากกล้านี่
เทพสังหารถูว่านรู้สึกว่าน้ำเสียงเจ้าผู้นี้ยังพอทนได้ชั่วคราว ที่สำคัญเจ้าผู้นี้มีเชื้อสายเผ่าภูตบูรพา และนับถือเป็นพี่น้องกับมังกรปีศาจ
ถ้ามังกรปีศาจยังไม่มีแนวโน้มว่าจะถูกฆ่าตาย ก็ยังไม่ถึงวาระของเจ้าเด็กผู้นี้
ไม่ใช่เรื่องดีกับการตอแยคนแบบนั้น
จะว่าไปแล้ว
เจ้าเด็กนี่มีลิ้นเป็นพิษจริงๆ
ถ้าเจ้าแสร้งเป็นหูทวนลมไม่สนใจเจ้าเด็กคนนี้ ก็จะไม่ต้องคิดเริ่มโจมตีเจ้าเด็กนี่ ดังนั้นอย่าไปสนใจเขาเลย ถ้าเจ้าต่อสู้กับเขาจริงๆ เจ้าจะหลงกลเขา แม้ว่าในแดนสวรรค์บน ตัวเขายังมีศักดิ์ศรีเป็นน้องชายของมือสังหารเทพถูซื่อ แต่การไปกระตุ้นโมโหเผ่าภูตบูรพาไม่ควารทำอย่าว่าแต่ยังมีมังกรปีศาจ
จะต่อสู้กับเจ้าเด็กนี่ อย่างน้อยต้องรอให้มังกรปีศาจพ่ายแพ้เสียก่อน ดีที่สุดตายไปเลย แน่นอนที่สุดว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ร่วมมือกัน การฆ่ามังกรปีศาจคงไม่ใช่เรื่องใหญ่
“เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางยังไม่มาหรือ จะให้เรารอไปถึงไหน?!” ถูว่านคันไม้คันมือและหวังว่าจะได้พบเจอยอดฝีมือจากหอทงเทียนจะได้ฝึกฝีมือระบายความอัดอั้นตันใจจากการถูกมังกรปีศาจเหยียบก่อนหน้านั้น ตอนนี้เขาสามารถต่อสู้กับเผ่ามังกรฟ้าได้ หรือจะสั่งสอนพวกเผ่าอสูรทมิฬ แต่หลังจากเปลี่ยนใจเขาอดทนต่อได้ เพราะการทำเช่นนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้คนเผ่าเก้าหัวทั้งห้าคนเข้าใจผิดได้ ถ้าพวกเขาคิดว่าจะต้องทำสงครามกันอย่างเต็มรูปแบบอาจเป็นเหตุให้ดึงจักรพรรดิอสูรออกมาจากด้านหลัง อาจมีปัญหากับแนวโน้มสถานการณ์โดยรวม
เป็นการดีที่สุดคือต้องไม่ทำให้เกิดการเข้าใจผิด
มิฉะนั้นอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
แม้ว่าพี่ใหญ่จะมาด้วยก็ตาม แต่อาจไม่สามารถปกป้องเขาได้
ถูว่านเป็นเทพเทียมรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง ทันใดนั้นที่ทางเข้าบันไดสวรรค์ ทางผ่านบริเวณแท่นบูชายัญมีสายลมกระโชกแรง
ในทันทีนั้นโลกเปลี่ยนสี ลมพัดแรงและเมฆดำครึ้มรวมตัวกัน กลิ่นอายที่ทรงพลังไม่อาจบรรยายได้แผ่ขยายออกมาจากทางเดินราวกับการระเบิดของภูเขาไฟกวาดไปทั่วพื้นที่หุบเขาแม่น้ำขาวในพริบตา
ประกายไฟฟ้าสีทองแล่บแปลบปลาบลงมาจากท้องฟ้า เกิดเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว
พายุหมุนมากมายพัดหวีดหวิวบ้าคลั่ง
ราวกับจะกลืนสวรรค์ทั้งหมด
ภายในแกนพายุมีเงาร่างดำที่ทรงพลังเปล่งรัศมีเป็นพันๆ สายเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงอาทิตย์ฉายทะลุผ่านท้องฟ้า
ขณะที่ถูว่านและคนอื่นจิตใจสั่นสะท้านตื่นเต้นจับใจ ราวกับมีเสียงเพลงปลุกขวัญกำลังใจ เหมือนกับมีภาพนักรบม้าศึกที่แข็งแกร่งในสนามรบ สุดยอดนักรบผู้แข็งแกร่งกำลังจะปรากฏตัว มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะทรงพลังมากมายขนาดนี้!
เป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้มาก็คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ เย่ว์ไตตันผู้ที่เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางริษยาอยู่เสมอ?
เมื่อมองดูเงาดำที่อยู่ในพื้นที่ท่ามกลางแสงสว่างเจิดจ้า
ทุกคน
กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
11 ความคิดเห็น:
ได้เวลาตบแล้ว
ได้เวลาเฮียเย่ออกมาล้มกระดาน
ขอบคุณคะ
เอาใบก้อนไปฉีดแมลงสาปซ่ะคุณชาย3
มาแล้วๆๆๆ
ตบทีเดียว ราบเรียบ
อัพมาเยอะ
กลืนน้ำลายลำบาก เพราะคนที่ออกมานั้นใส่กางเกงตัวเดียว
ขอบคุณครับ
ขอบคุณคับ
ฟาร์มของๆๆๆ
แสดงความคิดเห็น