ตอนที่ 582 แย่งชิงคือทักษะแฝงเร้นของข้า
ศิลานับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาแม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่ว
เย่ว์หยางพยายามควบคุมศิลาเลียนแบบดาวตกของจักรพรรดินีราตรี
แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วหัวร่อในใจ เขาคิดว่าเจ้าผู้นี้น่าประทับใจจริงๆ แต่เขากลับใช้เพียงก้อนศิลามาต่อต้านป้องกันเขา
ถ้าเป็นดาวตกจากสนามพลังดารานภากาศของจักรพรรดินีราตรีจริงๆ
แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วคงไม่กล้าเผชิญหน้าโดยตรง แต่เย่ว์หยางเลียนแบบโดยใช้ก้อนศิลาธรรมดา
ดังนั้นพลังจึงแตกต่างกันมากและไม่มีพลังคุกคามแม้แต่น้อย
“ครืนนน ครืนนน ครืนนน...” แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วควงหมัดต่อยใส่หินที่ระดมยิงมาเหมือนฝนด้วยท่าทีเหยียดหยาม
พยายามใช้ก้อนหินเอาชนะปีศาจโบราณน่ะหรือ?
ฝันไปเถอะ!
อีกด้านหนึ่ง การต่อสู้ของค้างคาวปีศาจดูเหมือนจะไม่ปลอดโปร่งเหมือนกับของเจ้านายมัน มันถูกเสี่ยวเหวินหลีพันธนาการไว้ และโสตประสาทของมันซึ่งแต่เดิมอ่อนไหวต่อการฟังเสียงที่ละเอียดอ่อนได้แตกระเบิดจากคลื่นเสียงหวีดของนางพญากระหายเลือด เลือดไหลออกจากแก้วหูของมัน
สติของมันว่างเปล่า
ชั่วเวลานั้นร่างของมันร่วงลงจากท้องฟ้าเหมือนหนังสัตว์เปล่าๆ
ขณะเดียวกัน
เสี่ยวเหวินหลีใช้ดาบน้ำแข็งคู่แทงใส่หัวใจของมัน
แม้ว่าบาดแผลจะมีแค่เพียงผิวเผินและไม่สามารถแทงเข้าไปในหัวใจได้
แต่ความเย็นของดาบน้ำแข็งคู่ก็สามารถแช่แข็งอวัยวะภายในของมันได้
ก่อให้เกิดชั้นน้ำแข็งบางๆ
สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงถือดาบจันทร์เสี้ยวฟันใส่ปีกซ้ายของค้างคาวปีศาจเต็มกำลัง
ส่วนปีกอีกข้างมีควันขึ้นจากแส้ลงทัณฑ์ของนางพญากระหายเลือด
แม้ว่าระดับของมันและพลังของมันจะสูงกว่าและแข็งแกร่งกว่า แต่ค้างคาวปีศาจที่เป็นอสูรฟ้าระดับหนึ่งก็ไม่สามารถรับมือกับอสูรเหล่านี้ได้
ภายใต้การโจมตีอย่างดุร้ายของเสี่ยวเหวินหลีและทักษะแฝงเร้นของอสูรอื่นร่วมกัน
ร่างของมันจึงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
โดยไม่มีการเตือนอะไร
ค้างคาวปีศาจหลบหนีจากพันธนาการและพลังคลื่นเสียงหวีด มันเปลี่ยนสภาพเป็นแสงสีทอง
มันใช้วิชาเปลี่ยนร่างของมันลดขนาดความเสียหายของร่างและซ่อนตัวจากศัตรู
ถ้ามันไม่แปลงเป็นร่างแสง
มันจะติดอยู่ในสภาพแช่แข็ง... เมื่อค้างคาวปีศาจหลบหนี
เสี่ยวเหวินหลียกมือขวาบอบบางสีขาวเนียนดุจหยกของเธอ
รัศมีแสงสว่างบริสุทธิ์เจิดจ้าเปล่งออกจากมือของเสี่ยวเหวินหลี
รังสีแสงที่บริสุทธิ์ชนิดนี้มีคุณสมบัติกระจายผลกระทบเชิงลบ
ส่วนใหญ่ไม่มีผลช่วยในการเยียวยารักษา หรือสร้างผลร้ายกับร่างของศัตรู หากแต่ว่าใช้โจมตีศัตรู เสี่ยวเหวินหลีน้อยครั้งจะยอมใช้ทักษะนี้ออกมา
เว้นแต่เธอใช้จัดการกับนักสู้แดนอเวจีหรือศัตรูที่เก่งในเรื่องใช้พลังงานด้านลบ
เมื่อรังสีทองซึ่งเป็นร่างแปลงของค้างคาวปีศาจปะทะกับรังสีที่บริสุทธิ์
เกิดควันหนาขึ้นทันที
พลังทั้งสองหักล้างกันเองและละลายอย่างรวดเร็ว
ในควันหนาทึบ
ค้างคาวปีศาจอยู่ในอาการเจ็บปวดเกลือกกลิ้งอยู่สองสามตลบ
จากนั้นแปลงเป็นค้างคาวทองตัวเล็ก 100 ตัวและบินไปทั่วทุกที่พยายามหลบหนี
“ฮึ”
เมดูซาศิลาผู้มีผมเป็นงูเพลิง
แสดงฝีมือของนางทันที ดวงตาที่น่าสะพรึงกลัวของนางมีแสงรังสีเจิดจ้าเปล่งออก พลังงานจากร่างของนางมารวมตัวกันที่มือนางอย่างรวดเร็วและก่อตัวเป็นธนูอสรพิษทองอยู่ในมือนาง ขณะที่นางเหยียดแขนออก
ธนูกลายเป็นเหมือนพระจันทร์เต็มดวง
ลูกศรรูปร่างประหลาดมากกว่าสิบดอกเรียงรายพาดอยู่บนธนูพร้อมกับเปลวเพลิงที่ลุกเผาผลาญ เพียงควับเดียวลูกธนูถูกยิงออกไปเป็นรูปพัดอย่างเกรี้ยวกราด
พุ่งเข้าหาแต่ละเป้าหมายของมันโดยอัตโนมัติ
ปรากฏว่าลูกศรทุกดอกยิงถูกค้างคาวตัวเล็กทุกดอก
ค้างคาวทองที่ถูกลูกศรเพลิงยิงม้วนตัวลงมาจากท้องฟ้าทีละตัวๆ
แม้ว่าเพลิงชนิดนี้จะไม่ใช่เพลิงอมฤต
แม้ว่านี่จะเป็นเพลิงลอกเลียนแบบเพลิงอมฤตในตัวเย่ว์หยางซึ่งวิหารเจมินี่สร้างขึ้นมา เพลิงอมฤตจำลองนี้เข้ากันได้กับผมงูของเมดูซาศิลาได้เป็นอย่างดี พลังชนิดนี้เพลิงธรรมดามิอาจเทียบได้
นอกจากนี้
หลังจากเย่ว์หยางเชี่ยวชาญพลังหยางและเข้าใจบัวเพลิงฟ้าพิโรธ
เขาได้ช่วยเพิ่มพลังเพลิงที่ผมงูของเมดูซาศิลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเอาชนะเยี่ยนจงและเยี่ยนจวินแห่งแดนสวรรค์และได้รับพลังเพลิงน้ำเงินบริสุทธิ์ที่ทรงพลัง
เย่ว์หยางจงใจหลอมรวมเพลิงนี้เข้ากับเมดูซาศิลา แม้ว่าจะยังไม่ถึงระดับนั้น แต่ผมงูเพลิงของนางก็แทบจะใกล้เคียงเพลิงน้ำเงินบริสุทธิ์ ยิ่งกว่านั้น นางยังมีอำนาจควบคุมได้ ดังนั้นเพลิงนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในไม้ตายลับของเมดูซาศิลา
ค้างคาวปีศาจรู้ตัวว่าเมื่อมันแปลงร่างเป็นค้างคาวเล็ก
มันยิ่งพ่ายแพ้ได้เร็วมากขึ้นและจะตายอย่างน่าสยดสยอง
มันรีบรวมตัวเข้าด้วยกันกลายสภาพเป็นร่างขนาดมหึมาอีกครั้ง
ธนูทองของเมดูซาศิลาปักเข้าที่เหนือริมฝีปากของค้างคาวปีศาจ.... ริมฝีปากของค้างคาวปีศาจค่อยๆ กลายสภาพเป็นศิลาช้าๆ ผิวสีทองเข้มแต่เดิมเริ่ม เปลี่ยนเป็นสีเทาหม่นของหิน
และพื้นผิวก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
สายฟ้าสีม่วงสายหนึ่งฟาดลงที่ปีกขนาดยักษ์ของค้างคาวปีศาจทะลุเป็นช่อง เหลือแต่เพียงกระดูกปีกสีดำ ขนของมันไหม้เกรียม
เลือดเนื้อของมันได้รับความเสียหาย
ค้างคาวปีศาจเรียกกระทิงอสูรซึ่งเป็นอสูรทองแดงระดับสิบออกมาขณะที่มันเจ็บปวด
การปรากฏตัวของกระทิงตัวนี้ดูเหมือนไม่ได้ใช้เป็นผู้ช่วย
แต่เป็นเหมือนอาหารมากกว่า.... ค้างคาวปีศาจกระโจนลงบนหลังกระทิงยักษ์และดูดเลือดของมันอย่างบ้าคลั่ง
อาการบาดเจ็บบนตัวของมันสมานตัวอย่างรวดเร็ว
แต่กระทิงป่าอสูรทองแดงระดับสิบร้องด้วยความเจ็บปวด
จากนั้นคุกเข่าลงกับพื้นเนื่องจากสูญเสียพลังงาน
“ตาย!”
ปีศาจอสรพิษน้ำแข็งซึ่งมิได้ลงมือในช่วงก่อนหน้านี้ ตัดศีรษะของกระทิงป่า
ขณะเดียวกัน
ตั๊กแตนมัจจุราชปรากฏตัวอยู่ในท้องฟ้า กระโจนใส่หลังของค้างคาวปีศาจ และในตำแหน่งเดียวกันมันเริ่มกัดคอของค้างคาวปีศาจ
ดาบน้ำแข็งคู่ของเสี่ยวเหวินหลี,
ดาบจันทร์เสี้ยวของเจี้ยงอิงและแส้ลงทัณฑ์ของนางพญากระหายเลือดต่างระดมโจมตีใส่ร่างค้างคาวปีศาจพร้อมกัน
ค้างคาวปีศาจที่เพิ่งจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บกลับบาดเจ็บอีกครั้งภายในไม่กี่วินาที
“กี๊ซซซซ”
ค้างคาวปีศาจแปลงร่างทันที
มันเปลี่ยนเป็นร่างปีศาจสูงสิบเมตร ลักษณะคล้ายกับจ้าวปีศาจ
แสงสีทองสายหนึ่งพุ่งวาบลงมาจากท้องฟ้าเหมือนกับมังกรตัวน้อยโผล่ออกมาจากมหาสมุทร
อสูรทองที่ร่างเหมือนมังกรร่อนลงมาจากท้องฟ้าด้วยท่าทางที่สง่างาม
มันอ้าปากขนาดเล็กของมันและกัดที่ศีรษะของค้างคาวปีศาจ
ความแตกต่างจากจ้าวปีศาจที่แท้จริงก็คือร่างแปลงปีศาจของค้างคาวปีศาจไม่มีเขาขนาดใหญ่ที่จ้าวปีศาจมี มันมีแต่หูขนาดใหญ่อยู่บนหัวของมัน
เมื่อไม่มีการปกป้องจากเขาปีศาจ
ก็เป็นเรื่องง่ายมากที่อสูรทองน้อยจะกัดกินทะลวงศีรษะของมัน
เหมือนกับเปิดประตูวังทำให้มันโจมตีเข้าไปได้ง่ายๆ
ตอนแรกมันแค่กัดเปิดกะโหลกของค้างคาวปีศาจและชอนไชเข้าไป
แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วกำลังลิงโลดดีใจ
แต่แล้วก็ตระหนักได้ว่าเขาถูกหลอก
คุณชายสามตระกูลเย่ว์แค่หลอกล่อให้ไขว้เขวไม่ได้โจมตีจริงๆ
เมื่อเห็นอสูรพิทักษ์ของเขากุมศีรษะและเอาศีรษะไถกับพื้น แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วโกรธแค้นเดือดดาล แม้ว่าอสูรพิทักษ์ของเขาจะไม่ตายจริงๆ แต่ความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายนี้ทำให้พลังของมันลดลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้มันอาจสูญเสียสติปัญญาบางส่วนและศักยภาพที่เติบโตบางอย่าง
“ไสหัวไป!”
แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วต้องการตบเย่ว์หยางให้กระเด็นไปไกลๆ
และช่วยเหลืออสูรรักของเขา
“ไม่ต้องห่วง เราคุยกันดีๆ ได้” เย่ว์หยางมองดูราชันย์พันปีศาจ
แสงสีเงินกระจายขึ้นไปในท้องฟ้า ก่อตัวเป็นวงเวทผนึกอักษรรูน
มันคือสิ่งที่พิเศษที่สุดซึ่งเย่ว์มี วงจักรอนันตกาล
มือของแม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วยังคงถูกวงจักรอนันตกาลกักไว้ในอากาศ
เว้นแต่ว่าแขนปีศาจถูกตัดออกไป เขาจะต้องรอให้วงจักรอนันตกาลหายไปก่อน จากนั้นเขาจึงจะสามารถใช้ความสามารถฟื้นฟูแขนปีศาจของเขาได้
เมื่อเย่ว์หยางและแม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วกำลังต่อสู้กัน ราชันย์พันปีศาจปรากฏตัวอยู่ที่มุมสนามต่อสู้อีกด้านหนึ่ง เขากำลังยิ้มขณะถือบอลแสงในมือ มือซ้ายของเขาขาวแสดงให้เห็นรูปลักษณ์เทวทูตที่อ่อนโยน
มือขวาเป็นสีเขียวแสดงถึงรูปลักษณ์ของปีศาจเก้าหัว ก่อนที่แสงจะหายไปอย่างสิ้นเชิง ขาทั้งสองที่อ่อนแรงและซวนเซราวกับดินเหลวปรากฏขึ้น...
เป็นเสียงหวี่ผู้ต้องคำสาปและนาคราชสมุทรเก้าหัวที่ยังบาดเจ็บหนัก
พวกเขาดูเหน็ดเหนื่อยอ่อนแรงยิ่งบุรุษที่เที่ยวซ่องต่อเนื่องสิบวันสิบคืนโดยไม่ได้พัก
ภายในนาทีเดียว
รูปร่างพวกเขาก็ชัดเจนขึ้น
ปรากฏว่าปีกของเสียงหวี่ผู้ต้องสาปมีขนร่วงดุจนกแร้ง
และบนพื้นเต็มไปด้วยขนสีดำเทา
นัยน์ตาเขาที่เคยมีประกายกลายเป็นหมองเหมือนคนตาย
ไร้ประกาย นอกจากนี้
นอกจากนี้เบ้าตาของเขายังหมองคล้ำเหมือนกับคนอดนอน
เมื่อดูใกล้ๆ
หน้าที่เต็มไปด้วยความเยาว์วัยนี้เริ่มมีความชรา
รอยย่นปรากฏให้เห็นที่หน้าผาก
เป็นที่ชัดเจนว่าพลังของเสียงหวี่ลดลงอย่างชัดเจน
ตอนนี้เขาเหลือพลังเท่ากับนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก....
นาคราชสมุทรเก้าหัวมีชะตาน่าอนาถยิ่งกว่าเสียงหวี่
เนื่องจากเขานอนอยู่ด้านขวาของเสียงหวี่เหมือนกับดินเหลว เขามีพลังลดลงต่ำกว่าระดับหกเสียอีก
เหลือเพียงพลังปราณก่อกำเนิดระดับห้า ผมของเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน และผิวของเขาดูราวกับว่าเขากำลังป่วยอย่างหนัก
“ทำไม?”
เสียงหวี่ตระหนักว่าคำสาปไม่ได้ถูกกำจัดไปแม้แต่น้อย แต่กลับต้องเสียพลังบริสุทธิ์ไปนับไม่ถ้วน
“เจ้าพวกโง่,
ถูกแล้ว, พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด พวกเจ้าช่างโง่เสียจริง เกิดมาโง่แท้ๆ
นอกจากคุณชายสามตระกูลเย่ว์แล้ว
ข้าฉลาดเกินไปสำหรับคนอื่นๆ!”
ราชันย์พันปีศาจดูดพลังงานบริสุทธิ์ของบอลพลังทั้งสองในแขนเขาอย่างมีความสุข
เหมือนกับว่าเขากำลังกินอาหารรสโอชะน่าชุ่มชื่นใจเหลือเชื่อ
“ทักษะแฝงเร้นแยก...” เสียงหวี่ตระหนักว่าเขาผิดไปแล้วในตอนนี้
มีบางอย่างที่ผิดปกติเกี่ยวกับทักษะแฝงเร้นแยกของราชันย์พันปีศาจแน่นอน
“เจ้าคาดไม่ผิด
ทักษะแฝงเร้นแยก ตราบใดที่เป้าหมายเต็มใจ
ทุกอย่างก็สามารถแยกออกมาได้
เช่นพลังงานของร่างกายเจ้า หรือกระบี่สมบัติในมือของเจ้า
เกราะศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้ากำลังสวมใส่
แม้กระทั่งอวัยวะภายใน เลือด กระดูก ไขสันหลัง มันสมอง ทักษะแฝงเร้นแยกของข้าสามารถแยกสิ่งต่างๆ
ได้สำเร็จและกีดกันสิ่งต่างๆ ได้
พวกเจ้าหมดประโยชน์แล้ว!
แทนที่จะเสียพลังงานบริสุทธิ์ที่ไม่มีการปนเปื้อน
มิสู้มอบให้ข้าดีกว่า
หลังจากข้าควบคุมหอทงเทียน พิชิตแดนสวรรค์แล้ว
ข้าจะคิดถึงการเสียสละของพวกเจ้าเป็นครั้งคราว”
ราชันย์พันปีศาจเดินออกมาโดยไม่มองเสียงหวี่และนาคราชสมุทรเก้าหัวอีกต่อไป
“ราชันย์พันปีศาจ เจ้าบัดซบ ข้าอุตส่าห์ปฏิญาณว่าจะภักดีต่อเจ้าแท้ๆ”
นาคราชสมุทรเก้าหัวสูดลมหายใจและใช้พลังเฮือกสุดท้ายตะโกน
“เจ้าควรจะรู้สึกละอายใจบ้าง! ทำไมข้าจะหลอกพวกเจ้าบ้างไม่ได้?
ไม่ใช่เพราะว่าข้าฉลาด ไม่ใช่ว่าทักษะแฝงเร้นแยกของข้าน่าประทับใจ แต่เป็นเพราะพวกเจ้าทั้งสองคนโง่เกินไป ประการที่สอง
พวกเจ้าทั้งสองคนประกาศตัวเองว่าเป็นยอดนักรบ คิดจะกลายเป็นห้าจักรพรรดิแห่งหอทงเทียน
พวกเจ้ามีพลังเพียงน้อยนิดเท่านี้ไม่มีอะไรต่างจากขยะเลย สุนัขที่อยู่แทบเท้าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ยังจะดีกว่าพวกเจ้าเสียอีก มันน่ารำคาญที่ข้าต้องพูดเรื่องนี้ ข้าเสียพลังทักษะแฝงเร้นแยกไปมากมายกับพวกเจ้าทั้งสอง
แต่ได้รับพลังบริสุทธิ์กลับมาเพียงน้อยนิด”
ราชันย์พันปีศาจดูเหมือนพยายามข่มความโกรธของเขา เขาสูดลมหายใจและเรียกความเย่อหยิ่งของเขากลับมา “ถ้าข้าไม่ฆ่าพวกเจ้าทั้งสองด้วยตัวเอง
พลังที่ข้าเอามาก็จะหายไป
พวกเจ้าทั้งสองมันคือเศษสวะที่ควรสับให้สุนัขกิน พวกเจ้าในตอนนี้ก็เหมือนกับพวกตัวตลก
เป็นไปไม่ได้ที่จะกลายเป็นห้าจักรพรรดิแห่งหอทงเทียน แค่รอดชีวิตอยู่ได้ก็เลิศหรูสำหรับชีวิตพวกเจ้าแล้ว”
“พรวดด” เสียงหวี่กระอักโลหิต ตาของเขากลายเป็นสีดำและเขาสิ้นสติทันที
“ฆ่าเจ้า, ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”
นาคราชสมุทรเก้าหัวเหวี่ยงหมัดอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาไม่เหลือแม้แต่แรงจะยืน
“พูดคุยกับพวกเจ้านับเป็นการดูถูกสติปัญญาข้าอย่างแท้จริง” ราชันย์พันปีศาจเบะปากอย่างรังเกียจบินขึ้นไปบนอากาศที่โดมทันที เขาค่อยๆ ดึงรูปกลุ่มดาวด้วยมือตนเอง
ขณะที่เขาพยายามเปิดผนึกกลุ่มดาวที่โดม
ทันใดนั้นเขานึกอะไรบางอย่างได้
จึงหยุดและมองดูเย่ว์หยางซึ่งอยู่บนพื้นในสนามต่อสู้ “คุณชายสามตระกูลเย่ว์ เจ้าจะไม่มายับยั้งข้าหรอกหรือ?”
เย่ว์หยางเล่นงานแม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วไปยิ้มไป “ข้าไม่สามารถทำลายผนึกที่โดมได้ เมื่อท่านทำลายได้และรับเอาร่างของจ้าวปีศาจโบราณ ถึงตอนนั้นข้าค่อยมีส่วนร่วมก็ได้”
ราชันย์พันปีศาจมองอย่างเย็นชา “พ่อหนุ่ม อย่ามั่นใจเกินไป”
เย่ว์หยางชี้นิ้วไปที่ท้องฟ้าและตอบ “ข้ากำลังบอกเจ้า แย่งชิงคือทักษะแฝงเร้นของข้า!”
15 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครีบ สู้ๆ แปลต่อไปนะครับ ^^
ขอบคุณมากเลยนะคับ
ดูดกลินมากกว่า แย่งชิงนั่นน่าจะเป็นสันดานเฮียแกละ-3-
ขอบคุณครับ
ฟันปีศาจ ถืกต้มคักๆ
ขอบคุณมากครับ
แย่งชิงคือทักษะแฝงเร้นจริงๆ หรือแค่เย่ว์หยางมันเปรียบเปรยกันหว่า...ลืมไปแล้วแฮะ
ทักษะแฝงเร้นเยว์หยางมี2ใช่ป่ะ เงา ปกปิด ถ้าจำไม่ผิดนะ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
Thx
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น