วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1313 ไพ่ในมือ หมากบนกระดาน

 

ตอนที่  1313  ไพ่ในมือ หมากบนกระดาน

จะสู้ตัวต่อตัวหรือมาเป็นกลุ่ม?   ตัวเลือกแรกที่จางเว่ยองครักษ์ประตูมังกรและถูว่านจะถูกจำกัดโดยเฉพาะ

เขารอมานานจริงๆ

 

อาวุธวิเศษคู่มือเคียวโลหิตถูกอาหมันชิงไปอย่างน่าขายหน้า  แม้กระทั่งก่อนหน้านี้อู๋เหินใช้กำแพงแก้วและโล่แก้วผลึกป้องกันการโจมตีของเขาอย่างง่ายดาย  เขาคือนักสู้อันดับสองของเผ่ากลืนฟ้า ตอนนี้จิตใจของเขาเริ่มสั่นคลอนไม่หยุดยั้ง   เทพสังหารผู้ยิ่งใหญ่อาละวาดในแดนสวรรค์บนมาแล้ว เขารู้สึกไม่สามารถเก็บความโกรธไว้ได้  และสาบานว่าจะต้องคืนความอัปยศนี้ให้กับนักรบหอทงเทียนเป็นพันๆ เท่า

เย่ว์ไตตันน่ะหรือ?

นั่นคือเป้าหมายที่เขากระตือรือร้นต้องการสังหารมานานแล้ว

หากไม่ใช่เพราะตงฟางถ่ายทอดสำนึกเทพที่ลึกลับเพื่อนำทางเขาก่อนหน้านี้  ตอนนี้เขาคงไม่สามารถอดทนไม่ให้โจมตีได้  เขารอมาจนบัดนี้แล้ว

“ไปลงนรกเสียเถอะ!  เงื่อนไขสุกงอมแล้ว นักสู้ระดับเทพของแดนสวรรค์บนพากันรายล้อม  บางทีในวินาทีถัดไป เจ้าเด็กนี่อาจตายได้  ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะล้างแค้นและระบายความคับแค้นใจ ถ้าไม่ทำตอนนี้ จะให้ลงเมื่อไหร่?

ถูว่านชูมือขึ้น และขวานโลหิตอาวุธกึ่งเทพปรากฏในมือของเขา

ขวานยักษ์โลหิตมีรูปลักษณ์เหมือนเหล็กปีศาจ

มีรอยเปื้อนอักขระรูนและมีพลังกระหายเลือดมากกว่า

ไม่ว่าจะเป็นใบมีดกว้าง ด้ามจับ ไม่ว่าจะบิดดูด้านใดล้วนน่ากลัว

อาวุธวิเศษถูกเงื้อขึ้นและฟันไปที่ศีรษะของเย่ว์หยางโดยมิอาจยั้งได้  การฟาดฟันครั้งนี้แฝงไปด้วยความโกรธและพลังเทพที่ถูว่านเก็บงำข่มไว้จนถึงขีดจำกัด ดูเหมือนว่าจะมีพลังสามารถฉีกโลกได้ อย่าว่าแต่เนื้อหนังมนุษย์  แม้จะเป็นภูเขาสูงตระหง่านมองไม่เห็นยอด แต่ภายใต้แรงฟันที่หนักหน่วงนี้ อาจทำให้ภูเขาขาดเป็นสองท่อนได้

“ช้าเหลือเกิน” เย่ว์หยางพูดแค่สองคำ

ร่างเงาตามหลังยังคงอยู่ในที่เดิม

แต่ร่างที่แท้จริงหายไปไม่เห็นร่องรอย

ในขณะที่ถูว่านเข้าใกล้จนเกือบจะถึงแล้ว เย่ว์หยางมาปรากฏตัวที่ด้านหลังของเขา และค่อยๆ กดฝ่ามืออย่างมั่นคง เชื่อได้ว่าความโหดอำมหิตไม่ต่างจากนักฆ่า

ดูเหมือนว่าเย่ว์หยางจะทำให้ถูว่านแปลกใจ จางเว่ยแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์รออยู่ก่อนแล้ว

หมัดทองสามารถทะลวงมิติเวลาได้อย่างเหลือเชื่อ เทพกับขวานโลหิตของถูว่านก็ยังสู้ไม่ได้ ฝ่ายหนึ่งเร็วราวกับสายฟ้า อีกหนึ่งช้าราวกับเต่าคลาน ไม่มีทางเทียบกันได้อย่างสิ้นเชิง เมื่อหมัดสีทองถูกปล่อยออกไปเพียงระยะครึ่งทาง มันกระพริบและกลายเป็นดาวทองนับสิบล้านดวง ทุกหมัดแกร่งกร้าว ตราบใดที่เย่ว์หยางถูกหมัดใดหมัดหนึ่งเขาจะไม่เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บ แต่จะถูกสังหารด้วยขวานโลหิตของถูว่าน  ประกายหมัดทั้งหมดก่อตัวเป็นแสงสีทองครอบคลุมทั้งท้องฟ้าและดวงอาทิตย์

“นี่ก็โง่เกินไป”  ภาพเงาตามหลังถูกชกไปหนึ่งหมัด

แต่เสียงที่เขาทิ้งไว้ด้านหลังก่อนจะหายไป ชัดเจนผ่านเข้าหูของทุกคน

เสียงแบบนี้เป็นเสียงที่ประกอบไปด้วยเจตจำนงราชันย์ ไม่หวั่นไหว แม้จะถูกหมัดมวยสลาย แต่ก็ยังทะลวงผ่านไปในใจของตน

เย่ว์หยางปรากฏตัวเป็นครั้งที่สอง

ยักษ์ขนาดใหญ่แข็งแกร่งร่างสูงยี่สิบกว่าเมตรปรากฏอยู่เบื้องหลังจ้าวภูผา

จ้าวภูผามีความยืดหยุ่นเหมือนกับอสูรทะเล  ขณะที่เย่ว์หยางหายตัว  ในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาทีเขาเทเลพอร์ตร่างยักษ์และใช้หมัดโจมตีเย่ว์หยาง

แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่ แต่หมัดของจ้าวภูผายังเร็วกว่าหมัดของจางเว่ยที่รวดเร็วปานสายฟ้า หนาแน่นดังเม็ดฝน  เย่ว์หยางไม่เคยคิดมาก่อนว่าร่างใหญ่ๆ อย่างจ้าวภูผาสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยความเร็วที่น่าทึ่งขนาดนี้  การกระโดดขึ้นไปก็พบอันตรายรออยู่แล้ว จากนั้นทิ้งตัวลงลงมาก็อยู่ในแนวโจมตีของหมัดของจ้าวภูผา หากช้าไปเพียงครึ่งวินาทีเกรงว่าคงถูกจ้าวภูผาต่อยกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือน

“ช้าเกินไป!  จ้าวภูผาย้อนคำพูดเย่ว์หยาง

หมัดของเขายังไม่ถูกรั้งกลับ

ร่างของเขาเอนหลังด้วยความยืดหยุ่นเหมือนกับงู

ขาขวาของเขาพุ่งเร็วกว่าอุกกาบาตหลายเท่าและเกิดภาพมิติแตกตามหลังเป็นทางและขยายออกไปด้วยเร็วในพลังเตะของเขา

พลังเตะที่รุนแรงและรวดเร็วทำให้เย่ว์หยางมือไม้ปั่นป่วน  แม้ว่าเท้านั้นจะดูใหญ่โตและไม่มีใครทนได้  แต่เย่ว์หยางมีความรู้สึกว่าถ้าเขาปล่อยให้ลูกเตะนี้โดนคางศีรษะของเขาอาจกระเด็นเป็นลูกฟุตบอลก็ได้.. ไม่มีใครต้องการเป็นศพไร้ศีรษะ

เย่ว์หยางถอยหลังอย่างรวดเร็วและหลบลูกเตะที่แม่นยำนี้

“โง่เกินไป!” จ้าวภูผาดูเหมือนจะคำนวณไว้แล้วว่าเย่ว์หยางจะต้องหลบเช่นนี้  หรือบางทีภายใต้การโจมตีของเขาเย่ว์หยางไม่มีทางเลือกที่สองอีก พลังหมัดยังโจมตีไปไม่ถึงก็ตามมาด้วยพลังเตะ พลังโจมตีทั้งสองอย่างยังไม่ทันขาดหาย แต่ราชันย์ไร้พ่ายใช้วิธีที่แปลกมาก เขาโน้มตัวไปข้างหน้า มือซ้ายพวกสร้างบอลพลังงานเทพที่สว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์

เขาผลักดวงทิตย์น้อยที่เขาสร้างขึ้นเบาๆ

ขณะนั้นเอง

บอลพลังงานกระทบร่างเย่ว์หยาง

แม้ว่าบอลพลังงานนี้จะมีขนาดใหญ่มากจนบดบังร่างของเย่ว์หยางอย่างสิ้นเชิง  แต่ด้วยการเคลื่อนไหวของเขาเย่ว์หยางสัมผัสได้ว่าเป้าหมายโจมตีที่แท้จริง และศูนย์กลางพลังยิ่งใหญ่นี้มุ่งหมายที่ใบหน้าของตัวเขา

เย่ว์หยางไม่มีทางหลบเลี่ยงได้แม้แต่น้อย แต่เด็กหนุ่มข้ามโลก ไม่มีทางหนีโดยไม่ยอมสู้อยู่แล้ว

ต่อให้สิ้นหวังหดหู่ เขาก็ไม่ยอมแพ้ใคร

ในท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่มีทางหลบหลีกได้ เย่ว์หยางกลับสั่นสะท้านทั้งตัวอยู่ภายในบอลแสงพลังเทพมองดูน่ากลัว

ในขณะเดียวกันห่างจากด้านหลังเย่ว์หยางสิบเมตร เงาร่างสีทองเลือนรางของมือสังหารเทพถูซื่อจากแดนสวรรค์บนเปล่งแสงวาบหนึ่ง  พลังเทพสีแดงโลหิตนับพันสายปรากฏขึ้นทำลายพื้นที่ด้านหลังของเย่ว์หยาง ท้องฟ้าทลายหายไปกลายเป็นหลุมดำที่ดูดกลืนทุกสิ่ง  ตราบใดที่บอลแสงเทพระเบิด แรงระเบิดจะดันเขาให้จมลงไปในหลุมดำ  ถ้าเขาไม่ตาย เขาจะถูกเนรเทศไปอย่างไม่มีกำหนดเวลา ทั้งไม่รู้พิกัดมิติเวลาที่ถูกต้อง มิทราบว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใดกว่าจะกลับมายังหอทงเทียนได้

การเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดของเย่ว์หยางในบอลแสงอย่างหมดหวังกลับทำให้บอลแสงพลังเทพระเบิดขึ้นก่อนเวลา

แรงระเบิดใหญ่ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน

เย่ว์หยางควรจะถูกอัดกระแทงลงไปในหลุมดำ  แต่โชคดีเขาพุ่งขึ้นไปในอากาศที่ล้อมรอบไปด้วยอันตราย เฉียดขอบหลุมดำไปเล็กน้อย

“จงกินไอ้นี่ซะ”  ถูว่านพร้อมกับขวานกระหายเลือดในมือของเขากระโดดเข้าหาเย่ว์หยางที่กำลังบินถอยห่างออกไป อีกด้านหนึ่ง จางเว่ยรอเขาอยู่นานแล้ว

“คืนให้เจ้า” ร่างของเย่ว์หยางวกเปลี่ยนเส้นทางไม่ได้เจอกับถูว่าน แต่กลับเร่งความเร็วตรงไปหาร่างเงาสีทอง ขณะเดียวกันเขาวาดมือเป็นรูปกางเขน แม้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ความจริงกลับตัดตรงไปหายอดฝีมือเทพอันดับหนึ่งแห่งเผ่ากลืนฟ้าถูซื่อ แต่เขาหายไปจากจุดที่เคยอยู่

มือสังหารเทพถูซื่อเหมือนกับจะหัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ  ทันใดนั้นพลังเทพสีแดงโลหิตปรากฏขึ้นอีกครั้ง

รังสีแดงนับพันสาย

เข้าปะทะต่อหน้าโดยตรง

ความคิดของทั้งสองฝ่ายเหมือนกัน ทั้งคู่อัดกระแทกพลังอย่างรุนแรงที่สุด มิติในท้องฟ้าและโลกแตกกระจาย

มือสังหารเทพที่ลึกลับและตัวตนไม่ชัดเจนเปล่งเสียงโหยหวนกราดเกรี้ยวราวกับสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ  จากนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่มีใครสามารถหาร่องรอยที่แท้จริงของเขาได้อีกเลย

มีเพียงหยดเลือดเทพสีทองค่อยๆ หยดมาจากท้องฟ้าที่แตกร่วงลงบนพื้นแท่นบูชายัญ

หยดลงข้างหน้าเย่ว์หยาง

ขณะนั้นเอง....

ร่างของเย่ว์หยางถูกฟันด้วยมีดที่มองไม่เห็น  มีรอยแผลสีแดงเป็นจำนวนมากบนผิวหนังเลือดซึมเข้าไปในเสื้อผ้าของเขาราวกับน้ำพุ อาการบาดเจ็บเพราะถูกนักสู้ระดับเทพหลายคนโจมตีพร้อมกัน ในที่สุดเขาก็ได้รับบาดเจ็บ!  มังกรสองหัวที่กำลังดูการต่อสู้และคนอื่นๆ อดรู้สึกโล่งใจไม่ได้  ถ้าในกรณีนี้ทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บ อย่างนั้นทุกคนอาจต้องฆ่าตัวตาย  และยังจะแบ่งปันสมบัติของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพได้อีกหรือ?    นั่นเป็นเพียงความฝันที่เป็นไปไม่ได้!

โชคดีที่เย่ว์ไตตันนี้แม้จะแข็งแกร่ง  แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน!

ภายใต้การรุมล้อมโจมตีของนักสู้ระดับเทพหลายคน

เขาไม่ได้พ่ายแพ้ก็จริง  แต่ก็เห็นได้ว่าเขาเสียเปรียบ

ยังคงมีหวังกับสมบัติแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ  ตงฟางกุนซือวางแผนรบอันดับหนึ่งที่คอยควบคุมสังเกตการณ์มาเป็นพันปีแล้ว น่าจะชนะ... แม้แต่อัจฉริยะอย่างเย่ว์ไตตันก็ไม่สามารถเอาชนะตงฟางได้ เพราะแผนการของบุรุษผู้นี้ลึกล้ำเกินไป  และสถานการณ์ทั่วไปไม่สามารถใช้กำลังพลิกฟื้นได้

“ไม่ถูกต้อง!  ตงฟางไม่ได้อยู่ในสภาพสู้รบเอง เขาเอ่ยปากปฏิเสธทันที  “คุณชายสามตระกูลเย่ว์ไม่สมควรได้รับบาดเจ็บ  การรุมล้อมโจมตีอย่างรุนแรงนี้สร้างอาการบาดเจ็บหลายสิบบาดแผลให้เย่ว์ไตตันก็ยังไม่เพียงพอ  การอนุมานเช่นนี้จะนำไปสู่สถานการณ์ที่สิ้นหวังโดยปริยาย การปะทะต่อสู้ศัตรูอย่างหนักนี้เห็นได้ว่าเป็นการจงใจ เขาเห็นว่าเย่ว์ไตตันกำลังใช้เลือดเพื่อนำทิศทาง  คุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้ฉลาดกำลังนำทางอสูรเทพฮุยไท่หลางของเขาหรือไม่? เป็นการเตือนมันให้ซ่อนตัวให้ลึกที่สุดหรือเปล่า?

“ฮุยไท่หลางไม่อยู่ที่นี่หรือ?”  สายตาเย่ว์หยางมองดูรอบๆ ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่เห็นอะไร

แม้ว่าตงฟางจะใช้ทักษะแฝงเร้นหมากรุกขับไล่มันไปอยู่ในที่อื่นใดในหอทงเทียน แต่มันก็น่าจะมาถึงแล้ว  ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการนำทางจากโลหิตของเขาเอง มันน่าจะวิ่งมาอยู่ข้างเขาแล้ว ทำไมถึงไม่มีการตอบสนอง?

เป็นไปได้ไหมว่ามันถูกตงฟางขัดขวางด้วยวิธีการบางอย่าง?

แต่สิ่งที่ตงฟางพูดไม่เหมือนกับว่าเป็นตัวเขา

นั่นเป็นสิ่งที่เทียนอี้ทำหรือไม่?

สายตาของเย่ว์หยางค่อยๆ เบือนไปทางรูปปั้นเทพธิดาที่ชำรุดและค่อยๆ ขมวดคิ้ว

ความผันผวนของพลังที่สัมผัสได้จากรูปปั้นเทพธิดาที่ไม่สมบูรณ์ในตอนนี้ได้หายไปทั้งหมด แล้วสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น แม้จะรวมพลังของตงฟางและเทียนอี้  แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายรูปปั้นเทพธิดาชำรุดนี้ซึ่งมีมาตั้งแต่หลายพันปีก่อน  พลังโบราณของแท่นบูชายัญเป็นพลังเทพเฉพาะตัวที่สามารถต้านทานและการแทรกแซงได้หรือไม่?

“เยี่ยม ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะค้นพบจุดที่น่าสงสัยได้ในไม่ช้าเลย  สมแล้วที่เป็นเย่ว์ไตตันอัจฉริยะอันดับหนึ่งของหอทงเทียน  ข้าคิดว่าการสะท้อนหมากรุกกระดานนี้สามารถพลิกมิติและเวลา  ข้าอุตส่าห์ซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะค้นพบได้เร็วขนาดนี้  เย่ว์ไตตัน น่าสนใจ น่าสนใจมากเจ้าใช้อะไรในการพลิกฟื้นสถานการณ์กลับมา?  ในสนามรบกระดานหมากรุกสวรรค์ ห่างไกลจากหอทงเทียน ห่างจากบันไดสวรรค์  ในสิ่งที่สมบูรณ์อย่างนี้ข้าได้ควบแน่นพลังเทพของข้าใช้ภูมิปัญญาสร้างสนามรบ  ในสนามรบที่ไม่เอื้ออำนวยซึ่งเกิดพลังยิ่งใหญ่ของกฎสวรรค์ของข้า  เจ้าใช้ความเชี่ยวชาญของเจ้าเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่สิ้นหวังได้อย่างไร?  ไม่มีความช่วยเหลือจากด้านนอก ไม่มีอสูรศึก ไม่มีอาวุธสมบัติวิเศษ ไม่มีอะไร มีแต่เจ้าสู้อยู่เพียงผู้เดียว....”  คำพูดของตงฟางยังไม่เสร็จสิ้น  โลกทั้งใบก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ไม่ใช่แท่นบูชายัญของบันไดสวรรค์ชั้นห้า หุบเขาแม่น้ำขาวอีกต่อไป

ที่นี่

เป็นการสลับดินแดนฉับพลัน

เป็นสถานที่ซึ่งเย่ว์หยางไม่รู้จักด้วยซ้ำ

เหมือนกับโลกในพื้นที่คัมภีร์อัญเชิญ  มีความเด่นสง่า นอกจากนี้ยังสร้างขึ้นโดยพลังเทพและควบคุมโดยเจตจำนงของตงฟาง แต่เย่ว์หยางแน่ใจเต็มร้อยว่า นี่ไม่ใช่โลกคัมภีร์  แต่ทางตงฟางได้สร้างอาณาจักรนเทพหมื่นปีด้วยพลังเทพของเขา

หากนี่คือโลกคัมภีร์อัญเชิญของตงฟางนั่นเป็นเรื่องดีสำหรับเย่ว์หยาง

เพราะเขามีคัมภีร์เทพที่ไม่มีพลังคัมภีร์อื่นสามารถข่มได้

แม้แต่คัมภีร์เทพดั้งเดิมที่เติบโตมาพร้อมกับเขา

ไม่มีคัมภีร์เทพใดที่ถูกข่มได้

อย่างไรก็ตาม

ในพื้นที่พิเศษที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลาหลายพันปีด้วยพลังเทพของตงฟางทั้งหมด มีพลังปณิธานของเขาซึมซาบอย่างสมบูรณ์แบบและทุกสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของตงฟาง  สิ่งนี้เทียบเท่ากับพื้นที่พิเศษแบบปิด

ไม่เพียงแต่เย่ว์หยางเท่านั้น  แต่ทุกคนไม่สามารถใช้คัมภีร์อัญเชิญ และสัตว์อสูรได้ และไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลภายนอกได้

“ปรากฏว่านี่คือโลกแห่งกระดานหมากรุกที่แท้จริงที่สร้างขึ้นด้วยทักษะแฝงเร้นหมากรุกรือ? เยี่ยมจริงๆ !  ข้ารู้แล้ว เจ้าที่ดูเหมือนคนธรรมดา ทำไมเจ้าถึงเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์รองจากเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้  เหตุใดเจ้าจึงมีคุณสมบัติที่จะชนะหอทงเทียน  ปรากฏว่านี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเจ้าอย่างแท้จริง!  ตงฟางกำลังจะขยับมือและเท้าเมื่อพลิกไพ่  ตงฟางรู้สึกว่าไพ่ในมือนั้นไกลเกินกว่าคาดการณ์โดยสิ้นเชิง เขาไม่สามารถเอื้อมถึงได้

เย่ว์หยางรอให้ตงฟางลงมือ

รอไพ่ของเขา

อย่างไรก็ตาม ไพ่ที่ลึกซึ้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขายอมรับ

9 ความคิดเห็น:

Anunaki กล่าวว่า...

รอให้เผยทั้งหมดก่อนเหรอ

หวังปี้เจ้า กล่าวว่า...

ขอบคุณค้าบ กำลังมันส์

CHANTANA กล่าวว่า...

กำลังอินเลยค้างฯ

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

blakaros กล่าวว่า...

รอพลิกกระดาน

Pcha กล่าวว่า...

สู้เค้า

Badly กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

oldmonkey กล่าวว่า...

รอกินรวบ

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

อ่อยละกินรวบนี่หว่า

แสดงความคิดเห็น